แผนการ

"งั้นตกลงแผนการกันก่อน" มลพูดอย่างเป็นการเป็นงาน "ข้าจะปลอมตัวเข้าเมือง"

"ปลอมยังไง" กูณฑ์ถามอย่างไม่กระตือรือร้นนัก

"ง่าย ๆ" มลตอบ "ข้าก็แค่ถอดหน้ากากออก" เขาพูดพลางถอดหน้ากากไปด้วย

กูณฑ์ขมวดคิ้ว "ฉันไม่เคยเข้าใจหลักการหน้ากากของนายเลย ให้ตายสิ"

"เจ้าไม่เข้าใจอะไร" มลถาม

กูณฑ์ชี้ไปที่หน้ากากที่มลวางอยู่ "ก็มันเป็นหน้ากาก ใส่แล้วก็ควรปิดบังแค่ใบหน้า แต่พอนายใส่ สีผิวก็ดันเปลี่ยนไปด้วย ดูยังไงก็อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ชัด ๆ"

เคียวหัวเราะคิกคักขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "โธ่ กูณฑ์ มาอยู่ในแดนหิมพานต์ขนาดนี้แล้วยังจะมาวิทยาศาสตร์อะไรอยู่อีก ทิ้งไปได้แล้วน่า"

"ก็ได้ สรุปว่านายจะถอดหน้ากากเข้าเมือง" กูณฑ์ว่า "เป็นความคิดที่ดีนะ เพราะในเมืองไม่เคยมีใครเห็นหน้านายตอนถอดหน้ากากใช่เปล่า"

มลพยักหน้า

เคียวขมวดคิ้ว "หน้านายตอนถอดหน้ากากนี่เหมือนใคร"

มลเลิกคิ้วเล็กน้อย ประหลาดใจที่อีกฝ่ายถาม แต่ก็ยอมตอบแต่โดยดี "ก็เหมือนท่านพ่อท่านแม่ข้านั่นแหละ จะเหมือนใครได้อีกเล่า"

รอยย่นระหว่างคิ้วทั้งสองของเคียวยิ่งเพิ่มขึ้นอีก "แล้วพ่อของนายก็กำลังถูกตามล่าข้อหากบฏใช่ไหม"

มลใช้กำปั้นทุบลงพื้นแรง ๆ อย่างไม่พอใจนัก "อย่าเรียกพ่อข้าว่ากบฏนะ" เขาคำราม

เคียวยกสองมือขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้ "ฉันไม่ได้จะว่า แต่ปกติพวกกบฏนี่ต้องถูกประหารเจ็ดชั่วโคตรไม่ใช่เหรอ"

มลยังไม่เข้าใจ "แล้วอย่างไร"

"ก็ถ้านายเอาหน้าที่เหมือนพ่อนายเข้าไปในเมือง อัครเดชอะไรนั่น คงจะไม่ปล่อยนายไว้แน่"

"แล้วจะให้ข้าทำอย่างไรเล่า" มลว่าอย่างร้อนใจ "ใส่หน้ากาก พวกเขาก็จำได้ จะถอดหน้ากากหน้าก็ดันไปละม้ายท่านพ่อเข้าเสียอีก"

"พ่อนายนี่สีผิวเป็นยังไง" เคียวไม่ตอบ แต่กลับย้อนถามแทน

"ผิวเหมือนข้านี่แหละ" มลว่าพลางชูแขนให้ดู "เมืองของข้าก็สีผิวอย่างนี้ทั้งนั้น"

"แล้ววิทยาธรมีสีผิวแบบอื่นหรือเปล่า" เคียวซักต่อไป

"คงมีกระมัง" มลตอบ "เพราะวิทยาธรจริง ๆ ก็เกิดมาจากมนุษย์หรือไม่ก็ลูกครึ่งมนุษย์ที่บำเพ็ญตบะ มนุษย์มีสีผิวหลากหลายอย่างไร วิทยาธรอย่างเราก็ไม่ต่างกัน ว่าแต่เจ้าถามไปทำไม"

"ถ้าผิวนายคล้ำขึ้น อัครเดชก็คงจำนายไม่ได้ง่าย ๆ" เคียวเสนอ

"แล้วข้าจะทำให้ผิวคล้ำขึ้นได้อย่างไร" มลถามกลับ

"ฉันเคยอ่านหนังสือมาพระเอกต้องปลอมตัวก็เลยใช้ว่านมาทาให้ผิวคล้ำ" เคียวว่า "ป่าหิมพานต์มีว่านแบบนั้นหรือเปล่า"

"จะว่ามีมันก็มีอยู่หรอก" มลว่าพลางใช้นิ้วเคาะผืนดินไปด้วย "แต่ฤดูนี้ไม่รู้จะมีหรือเปล่า มันไม่ใช่สมุนไพรวิเศษแบบพวกโสมคนที่จะอยู่ได้ทุกฤดูกาล"

เคียวจ้องตามลเขม็ง "นายไว้ใจฉันหรือเปล่า"

มลเสตามองไปทางอื่น ก่อนจะตอบอ้อมแอ้ม "ผ่านอะไรมาด้วยกันขนาดนี้แล้ว คำถามนี้ยังจะต้องถามอีกหรือ"

"ตกลงไว้ใจหรือเปล่าล่ะ" เคียวถามซ้ำ

มลพยักหน้า "ข้าไว้ใจเจ้า"

"ดีแล้ว" เคียวพูดอย่างโล่งใจ "อย่างที่นายก็รู้ว่าฉันเป็นภูตหนังสือ"

"เป็นภูตหนังสือแล้วเกี่ยวอะไรกับการปลอมตัว" กูณฑ์ขัดขึ้น

"นายคิดว่าหนังสือมันทำมาจากอะไรล่ะ" เคียวย้อนถาม

"ก็กระดาษ แล้วก็หมึกมั้ง" กูณฑ์ตอบอย่างไม่แน่ใจนัก

มลตบอกตัวเอง "ถูกต้อง ดังนั้นฉันเลยพ่นหมึกได้"

"พ่นหมึก เหมือนพวกปลาหมึกน่ะนะ" กูณฑ์ทวนคำ พลางคิดภาพที่เขากับเคียวจูบกัน แล้วเคียวก็พ่นหมึกใส่เขา แล้วเด็กหนุ่มก็ส่ายหัวเร็ว ๆ ไล่ภาพน่าสยองนั้นออกไป

"หมึกไม่ใช่ปลาสักหน่อย เรียกว่าหมึกเฉย ๆ ก็พอแล้ว มันเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง" แม้ว่ากำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เคียวก็อดให้เกร็ดความรู้ไม่ได้ มันติดเป็นนิสัยแล้วจริง ๆ

กูณฑ์ยักไหล่ "ฉันก็เรียกมาแบบนี้ตั้งนานแล้ว อีกอย่างม้าน้ำก็ไม่ใช่ม้า ไหงถึงไม่เรียกน้ำเฉย ๆ ล่ะ"

เคียวหยิกเขาเข้าให้ "จะไม่ยอมแพ้กันเลยใช่ไหม"

"เลิกเถียงกันก่อน" มลขัดขึ้น "ตกลงที่พูดนี่หมายความว่าอย่างไร"

เคียวหันไปสนใจมล "ฉันพ่นหมึกได้ แต่ไม่ได้พ่นออกมาทางปากหรอกนะ หมึกจะช่วยให้นายผิวคล้ำขึ้น คงจะพอปลอมตัวได้"

"แล้วหลังจากนั้นมันจะล้างออกได้หรือ" มลถามอย่างไม่แน่ใจนัก

"คิดว่าได้นะ" เคียวตอบแบ่งรับแบ่งสู้ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องเขม็งก็ยอมสารภาพ "ฉันไม่เคยพ่นหมึกใส่ใครมาก่อนเลย"

"เอาเถิด"มลพูดอย่างปลงตก "ผิวเข้มไปหน่อยก็คงไม่เป็นไร เรื่องสำคัญคือต้องไม่ให้อัครเดชจำข้าได้เป็นอันขาด"

"พร้อมแล้วนะ งั้นก็หลับตา"

"ทำไม" มลถาม

"ก็ถ้าไม่หลับตาหมึกก็เข้าตาน่ะสิ"

มลทำตาม

เคียวสะบัดกิโมโนและปล่อยหมึกออกเป็นสายใส่มล "ลืมตาได้"

มลลืมตา พลางสำรวจแขนขาตัวเองที่แม้จะไม่ดำเท่ากับตอนใส่หน้ากาก แต่ก็ไม่ได้ขาวอีกแล้ว ผิวออกจะคล้ำแดดหน่อย.ๆ

"แค่นี้ก็หมดเรื่องแล้ว" กูณฑ์พูดอย่างโล่งใจ "ออกเดินทางกันได้แล้วชิมะ"

"ชิมะคืออะไร" มลถาม ถึงเขาจะอยู่กับกูณฑ์มาเป็นเดือน ๆ แต่ก็ยังไม่เข้าใจศัพท์สมัยใหม่มากนัก อาจเป็นเพราะกูณฑ์ไม่ค่อยพูดคำพวกนี้ ถึงบางครั้งจะมีหลุดออกมาบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยนัก

"ชิมะ คือใช่ไหมไงเล่า" กูณฑ์ว่า "นายนี่ไม่คูลเอาซะเลย"

"พูดจาพิลึกอีกแล้ว" มลว่า

"ที่โลกของฉัน ใคร ๆ ก็พูดกัน" กูณฑ์เถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้

"แต่ที่นี่ไม่ได้" มลพูดอย่างจริงจัง "แล้วก็เลิกเรียกตัวเองว่าฉันได้แล้ว ต่อไปต้องใช้ข้าเหมือนคนอื่น ๆ"

"อะไรกันนักกันหนา" กูณฑ์พูดอย่างหงุดหงิด "ก็ใช้แบบนี้มาตลอด ไหงถึงต้องมาเปลี่ยนเอาตอนนี้"

"เข้ามือตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม" มลว่า "เราจะเข้าเมืองของข้า เราต้องปลอมตัวให้เนียน ข้าจะเล่นเป็นวิทยาธรพเนจร ส่วนเจ้าก็เป็นคนรับใช้ของข้า"

"เดี๋ยว เดี๋ยว" กูณฑ์ขัด "ไหงฉันต้องเป็นคนรับใช้นายด้วย"

"ถ้าอย่างนั้นก็เป็นผู้ติดตามก็แล้วกัน" มลว่า

"แล้วมันต่างกันเหรอ" กูณฑ์ถาม

เจ้าชายวิทยาธรหัวเราะ "ก็แค่เรียกให้มันดูดีขึ้นเท่านั้นเอง"

"แล้วทำไมต้องให้เป็นคนรับใช้หรือผู้ติดตามด้วยล่ะ" กูณฑ์ถาม "เป็นเพื่อนกันแบบเดิมไม่ได้หรือไง"

มลส่ายหน้า "ถ้าข้าแนะนำให้เจ้าเป็นสหาย มีฐานะเท่ากัน เจ้าก็อาจจะต้องตอบคำถามอะไรเยอะแยะ คำถามที่บางทีเจ้าก็อาจจะตอบไม่ได้ แต่หากแนะนำให้เป็นผู้ติดตาม พวกวิทยาธรก็จะไม่มาซักอะไรเจ้ามากนัก"

"ก็ได้" กูณฑ์ตอบอย่างไม่เต็มใจนัก "เอาตามที่นายว่า"

"เรียกว่าท่าน" มลว่า "ต่อไปนี้เรียกแทนตัวเองว่าข้า และเรียกข้าว่าท่าน เจ้าต้องฝึกให้ชิน ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะสงสัย"

"คร้าบ ท่าน" กูณฑ์เบ้ปาก นึกสงสัยว่าเป็นแค่แผนการเข้าเมือง หรือเจ้าเด็กนี่หาโอกาสนี้มานานแล้วกันแน่

"ขอรับ" มลแก้ "เจ้าต้องฝึกพูดภาษาของเราให้ชิน"

"ขอรับ" กูณฑ์ยอมตาม

มลมองอย่างไม่ไว้ใจนัก "นี่สำคัญมาก รู้ไหม"

"รู้แล้วน่า" กูณฑ์พูดอย่างไม่พอใจนัก ไอ้เด็กนี่จะย้ำอะไรนักหนา พูดครั้งเดียว คนฉลาด ๆ อย่างเขาก็รู้เรื่องแล้ว

"เดี๋ยวฉัน เอ๊ย ข้าสอนเขาเอง" เคียวว่า

มลพยักหน้า ให้เคียวสอนก็ดีเหมือนกัน เขาเองก็ไม่รู้ศัพท์จากโลกภายนอกนัก

กูณฑ์ใช้เวลาหลายนาทีจำคำศัพท์ที่ควรใช้ ความจริงก็ไม่ได้ยากอะไร แค่เปลี่ยนจากภาษาพูดมาเป็นภาษาเขียนเท่านั้น เช่น คำว่ายังไง ก็เปลี่ยนเป็นอย่างไรหรือเยี่ยงไร

"เจ้าจำได้หรือยัง" มลถาม

"จำได้แล้ว" กูณฑ์ตอบ

"ถ้าอย่างนั้นก็ถอดเสื้อออกมาเสียด้วย"

กูณฑ์สะดุ้ง อากาศหนาวแบบนี้ยังจะให้ถอดเสื้ออีก อีกอย่างเขาไม่อยากถอดเสื้อโชว์หุ่นตัวเองตอนนี้สักหน่อย ยิ่งอยู่ต่อหน้าเคียวด้วยแล้ว

"ทำไมล่ะ"

มลถอนหายใจ "เจ้าจะเข้าเมืองในฐานะคนรับใช้ข้า ข้าใส่แค่โจงกระเบน แต่เข้ากันใส่ชุดเต็มยศขนาดนี้ ใครเห็นก็ต้องสงสัย"

"แต่มันหนาวนี่" กูณฑ์โอดครวญ

"ถ้าอย่างนั้นก็ใส่ไปก่อนก็ได้" มลยอมตาม เขาไม่อยากให้เพื่อนกลายเป็นน้ำแข็งเท่าไหร่หรอก "พอใกล้ ๆ ถึงเมืองค่อยถอดออก เมืองของข้าไม่เคยมีอากาศหนาวหรอก เราควบคุมสภาพอากาศได้'

กูณฑ์ถอนหายใจอย่างโล่งอก "วิเศษ" เขาชำเลืองไปทางคนรัก "แล้วเคียวล่ะ"

"เคียวต้องเข้าเมืองในฐานะหนังสือ" มลพูดอย่างหนักแน่น

"ให้ฉันกลายร่างตอนนี้เลยหรือเปล่า" เคียวถาม

มลส่ายหน้า "ยังก่อน เดี๋ยวข้าจะให้สัญญาณเอง"