บทที่ 7.5

"โอเค เป้าหมายต่อไป..."

"พี่เบ็น...ผมเหนื่อยแล้ว หิวข้าวด้วย" แปลกแฮะที่เจ้าหนูนี่งอแง ปกติไม่ค่อยบ่นอะไรกับเขา

แต่พอมองเวลาที่โทรศัพท์ก็เข้าใจได้ว่าทำไม

"จะบ่ายสองแล้วนี่ โทษที ๆ เดี๋ยวพักกินข้าวกันก่อนดีกว่า"

ผมพาไนน์เข้าร้านปิ้งย่างร้านหนึ่ง ตอนแรกผมกะจะตามใจน้องชายสุดที่รักซะหน่อย แต่ให้มันเลือกมันก็เลือกไม่ถูกสักที

ร้านนู้นคืออะไร ร้านนี้คืออะไร อยู่นั่น ผมโมโหหิวจนตัดสินใจเลือกร้านเองซะเลย

หรือจริง ๆ แล้วหมอนี่ไม่ค่อยได้มาห้างฯเลย ไม่ชอบออกมาข้างนอก? ที่บ้านไม่ค่อยพามา? ไม่มีเพื่อนมาด้วย? หรือสถานะทางการเงินที่บ้านไม่ค่อยดี?

ผมคิดหาเหตุผลวนไปมาเงียบ ๆ ในร้านระหว่างรอไนน์เข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว ผมตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะเอ่ยปากถามไนน์ไปดีไหม หรือควรปล่อยไป

บางทีเขาอาจจะไม่อยากให้ยุ่งเรื่องส่วนตัวก็ได้

ผลสุดท้ายก็ไม่ได้ถามอะไรไป ได้แต่คุยเรื่องเรื่อยเปื่อยตามปกติจนกินเสร็จ ไนน์ทำท่าจะออกเงินเลี้ยงผม แต่ผมรู้ทันจึงลุกไปจ่ายเงินตัดหน้าไอ้เด็กขาสั้นได้ก่อน ส่วนไนน์ก็ทำได้แค่บ่นอุบอิบว่าผมขี้โกงอย่างงั้นอย่างงี้

"ต่อไป ส่วนที่สนุกที่สุดแล้ว นั่นคือ เลือกซื้อเสื้อผ้า ผ้า ผ้า ผ้า..." ผมทำเสียงแอคโค่ตื่นเต้นใส่ไนน์ แต่หมอนี่กลับทำหน้างงงวยไม่เข้าใจว่ามันสนุกยังไง

ในหัวผมตอนนี้เต็มไปด้วยฉากตามหนังรอมคอมฮอลลีวูดที่เห็นได้บ่อย ๆ

เวลาถึงช่วงกลุ่มนางเอกไปเลือกซื้อเสื้อผ้ามักจะมีเสียงเพลงป็อปแทรกขึ้นมาทุกที มุกที่ชอบเล่นก็เป็นนางเอกเปลี่ยนชุดไปเรื่อย ๆ ให้กลุ่มเพื่อนหรือพระเอกดู และสุดท้ายก็จบลงด้วยชุดสุดท้ายซึ่งดูดีที่สุดจนต้องทำเอฟเฟคสโลวโมชั่นเพิ่มความตะลึงของพระเอก

เราพากันเดินมาที่ร้านขายเสื้อผ้าชื่อดังร้านหนึ่ง ร้านนี้ขายเสื้อราคาแพงพอสมควรแต่ก็มีของดีให้เลือกอยู่เพียบเหมือนกัน

ตอนนี้เวลาบ่ายสามครึ่งแล้ว ผู้คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในห้างมากขึ้น ร้านเสื้อผ้าแห่งนี้ก็เช่นกัน ไนน์ซึ่งไม่ถูกกับสถานที่ที่คนผลุกผล่านเอาแต่เกาะแขนผมแน่น

ผมให้โอกาสไนน์เลือกเสื้อที่ดูดีที่สุดมาสามชุด ส่วนกางเกงผมเลือกให้เอง เป็นกางเกงยีนส์สีดำทรงขากระบอกเล็ก ไอ้หนูนี่ขาเรียว ใส่กางเกงขากระบอกแล้วคงสวยน่าดู

"เออ เรายังไม่มีเสื้อคลุมกันแดดเลยใช่ไหม เดี๋ยวพี่ซื้อให้ด้วย เอาสีอะไรดี"

"ไม่เป็นไรพี่เบ็น ผมใส่อันนี้ก็ได้" ไนน์พูดพลางชูเสื้อกันหนาวเก่า ๆ ตัวที่ผมใส่มา ตอนนี้ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่ามันมีรูขาดอยู่ด้านหลังหลายจุด สภาพคงใช้ต่อไปได้อีกไม่กี่ปี

"พี่ซื้อให้ เราจะได้ไม่ร้อนแดดไง พี่เป็นห่วง"

"ขอบคุณครับพี่เบ็น...งั้นเอาสีเหลือง"

"โอเค แล้วไหนชุดที่เลือกมา"

"นี่ครับ" มันยื่นเสื้อที่แขวนอยู่กับไม้แขวนด้วยท่าทีภูมิใจ

แต่ชุดที่ไนน์เลือกมาทั้งสามตัวไม่ได้ดีเหมือนความมั่นใจของมันในตอนนี้เลย ตัวที่หนึ่งเป็นเสื้อยืดลายการ์ตูนที่ตกยุคไปตั้งแต่สมัยไดโนเสาร์ยังไม่สูญพันธุ์ ตัวที่สองเป็นเสื้อเชิร์ตลายสก็อตช์สีแดงสลับดำที่ฝรั่งใส่แล้วดูดีแน่ แต่สำหรับไอ้เด็กนี่ใส่แล้วคงต้องเรียกตัวไปตัดอ้อย ตัวสุดท้าย ผมหนักใจที่สุด เป็นเสื้อยืดคอวีสีขาวบาง ๆ คอวีลึกยาวลงมาจนเกือบจะถึงครึ่งตัวเสื้อ ความบางของมันก็ใช่ย่อย ผมลองเอามือล้วงเข้าไปเช็ค ผลคือเห็นมือผมชัดเจนแม้จะไม่ได้เอาไปทาบกับแสงไฟ ผมว่าแก้ผ้าเดินยังดูสุภาพกว่าใส่เสื้อตัวนี้เลยด้วยซ้ำ

ผมส่ายหัวกับเซ้นท์การเลือกเสื้อผ้าของไนน์

โอเค ไม่ว่ากัน ตอนผมเป็นเด็กหัดแรดใหม่ ๆ ก็เลือกใส่เสื้อผ้ามั่วเหมือนกัน ต่อมาคงเพราะประสบการณ์จึงทำให้รู้ว่าควรใส่ยังไงหรืออะไรไม่ควรใส่

แต่พอผลิกดูราคาเสื้อดูก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น หมอนี่เล่นหยิบตัวที่มีราคาถูกอยู่แล้วและกำลังลดราคาลงไปอีก

ผมดุไนน์ทันทีว่าให้เลือกที่คิดว่าดีที่สุดไม่ใช่ที่คิดว่าถูกที่สุด

"ก็ผมเกรงใจพี่เบ็นนี่นา" ตอบมาแบบนี้ผมก็ดุต่อไปไม่ลง

"ฟังพี่นะ ไนน์คือน้องชายพี่ พี่ไม่ยอมให้ไนน์ใส่เสื้อแบบนี้เด็ดขาด เข้าใจไหมครับ" ผมจับไหล่ทั้งสองข้างของไนน์ สายตาเราจ้องกันสักพักก่อนที่ผมจะเบือนหน้าหนีออกไปก่อน

"ขอบคุณครับพี่เบ็น" หน้าแดงใส่ผมอีกแล้ว

ผมคว้าเสื้อที่ไนน์เลือกไปคืนในที่ของมัน จากนั้นจึงไปเลือกดูชุดดี ๆ สามชุดที่น่าจะเข้ากับเด็กหนุ่มตัวเตี้ยและมีผิวขาวกร้านแดด

ตัวแรกเป็นเสื้อยืดคอกลมสีดำล้วน ไอเท็มพื้นฐานของผู้ชายทุกคน ทุกวัย และทุกรูปร่าง ตัวที่สองเป็นเสื้อโปโลสีกรมท่า ตรงหน้าอกซ้ายมีลายรูปหัวใจเล็ก ๆ ให้ดูน่ารักแต่ก็ดูเท่ห์ในเวลาเดียวกัน สีกรมท่าคงจะขับกับผิวขาวของไนน์ได้ถ้าไนน์มีผิวที่ดีขึ้น ตัวสุดท้ายเป็นเสื้อยืดสีเบบี้พิ้งค์ขนาดโอเวอร์ไซส์ คนตัวผอมเล็กแบบไนน์ใส่แล้วก็คงจะดูน่ารักน่าแกล้งขึ้นไปอีก

ระหว่างเลือกเสื้อไปพลางก็สอนวิธีเลือกให้ไนน์ไปด้วย ผมถ่ายทอดทุกความรู้เกี่ยวกับเสื้อผ้า กางเกง และรองเท้าเท่าที่ผมมีให้มัน เผื่อวันหน้ามันจะได้มาเลือกซื้อได้เอง

อาจเป็นเพราะข้อมูลที่ผมบอกมันเยอะมาก ไนน์เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจดตามที่ผมบอก

บางทีก็เวอร์ไปนะไอ้หนู

เมื่อได้เสื้อครบสามชุด กางเกงยีนส์สองตัว เสื้อคลุมกันแดดสีเหลืองอีกหนึ่ง ผมจึงไล่ไนน์ให้ไปลองเสื้อที่ห้องลองชุดแล้วดูเอาเองว่าใส่แล้วพอดีตัวไหมหรือดูดีไหม

ผมเล็งไว้ในใจแล้วเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่ามันจะต้องดูดีแน่นอน แต่ผมอยากให้เจ้าตัวตัดสินใจเองด้วย

"พี่เบ็น...เข้าไปด้วยได้ไหมครับ ผมไม่อยากเข้าไปลองเสื้อคนเดียว" เฮ้ย ๆ เดี๋ยวนะ

"ก็แค่ลองเสื้อเอง ไม่มีใครแอบดูเราหรอกน่า"

"นะพี่เบ็น" ไนน์ทำหน้าทำตาน่าสงสารใส่ ผมหันไปมองที่ห้องลองเสื้อก็พบว่าคนต่อแถวกันเยอะพอควร ไอ้หนูนี่คงกลัวคนเหมือนเช่นเคย

ในเมื่อไม่มีทางเลือกก็ต้องยอมตามใจเด็กดื้อ ต่อแถวแรก ๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่พอเข้าใกล้เรื่อย ๆ ผมกลับใจเต้นแปลก ๆ

ไอ้หนูนี่จะแก้ผ้าแล้วผมก็อยู่ในห้องเดียวกับมัน...หยุดคิดบ้า ๆ ได้แล้วเบ็น

พอถึงคิว ผมและไนน์เข้าไปด้วยกันอย่างประดักประเดิด ไม่รู้คนข้างหลังจะมองเรายังไงบ้าง ตอนนี้ทั้งเขินไนน์ทั้งอายคนข้างนอก หน้าร้อนไปหมด

ด้วยขนาดของห้องลองเสื้อที่กว้างแค่สำหรับคนหนึ่งคน ทำให้เราเบียดกันแน่น แผ่นอกของผมแทบจะแนบชิดติดกับหัวของไนน์ ใบหน้าอยู่ใกล้กันมากจนได้ยินเสียงลมหายใจของฝ่ายตรงข้ามชัดเจน

"พี่เบ็นอย่าแอบดูนะ..."

"แหงล่ะ" ผมว่าพร้อมหันหลังให้ไนน์ เสียงถอดใส่เสื้อผ้าดังฉึบฉับทำผมใจเต้นระรัวไปหมด

โถ่เอ้ยก็ผู้ชายด้วยกัน อายทำไมวะไอ้เบ็น

ผมไม่รู้ว่าไนน์มันจะได้ยินไหมแต่เสียงหัวใจผมดังมากจนนึกว่ามันเต้นอยู่ข้างนอกอกผม

"พี่เบ็นครับ โอเคไหม"

"เสร็จแล้วเหรอ ไหนดูซ..."

พอหันไปเท่านั้นแหละ...ผมพูดยังไม่จบประโยคก็อ้าปากค้างไปแล้ว

คนตรงหน้าคือคนที่ผมรู้จักมาตลอดสามสัปดาห์จริง ๆ เหรอ ตอนนี้ไนน์กลายเป็นหนุ่มจริง ๆ แล้ว ถ้าออกกำลังกายเพิ่มกล้ามหน่อยและดูแลผิวหน้าผิวกายตัวเอง รับรองว่าสาวรักสาวหลงเต็มแน่

ทรงผมที่เข้ากับใบหน้าตี๋ ๆ กร้านแดดของมัน กางเกงยีนส์ที่ใส่แล้วเข้ากับขาเรียวเล็กของมัน ร่างกายบาง ๆ ที่สวมเสื้อยืดสีดำคลุมด้วยเสื้อคลุมสีเหลืองอ่อนของมัน ทุกอย่างดูดีจนน่าเหลือเชื่อ

น้องไนน์ของผมเฉียดใกล้คำว่าเดือนเข้าไปทุกที

"พี่เบ็น โอเคไหม" ไนน์ถามย้ำอีกครั้งเพราะเห็นผมนิ่งไปนาน

"นายคือไนน์จริง ๆ เหรอเนี่ย นี่มันหนุ่มเกาหลีชัด ๆ" ผมหยอกมันเล่นด้วยคำชมจนมันเขินก้มหน้ายิ้มแฉ่งไม่มองตาผม

"งั้นลองแค่ตัวเดียวก็ได้ครับ ตัวอื่นน่าจะโอเคแล้ว"

ผมตกลงตามใจไนน์ไปเพราะเห็นชัดแล้วว่าเซ้นท์ของผมไม่พลาดจริง ๆ และอีกสองตัวก็คงไม่พลาดเช่นกัน

ในที่สุดผมก็จะได้เดินออกมาจากห้องลองเสื้อสักที แน่นอนว่าอยู่ในห้องเล็ก ๆ สองคนมันอึดอัด แต่เหตุผลหลักจริง ๆ ก็คือไม่อยากให้ไนน์เห็นผมหน้าแดงไปมากกว่านี้

ทันทีที่เปิดม่านของห้องลองเสื้อออก คนข้างนอกหันมามองเรากันหมด สายตาทุกคู่เต็มไปด้วยความสงสัย ความกลัว และความจิ้นที่เด็กหนุ่มสองคนเข้าไปลองเสื้อในห้องเดียวกัน

หางตาผมเห็นบางคนซุบซิบกันเบา ๆ บางคนทำท่าทางหวาดกลัวชัดเจน ส่วนบางคนยิ้มกริ่มเหมือนกำลังดูซีรีย์วายกันอยู่

              ผมรีบจูงมือไนน์ให้รีบเดินออกไปยังจุดชำระเงิน แต่เพราะผมจูงมือมัน เลยยิ่งทำให้เราดูน่าสงสัยขึ้นไปอีก

พวกกูไม่ได้เป็นอะไรกันโว้ย!

กว่าจะรอดออกมาจากร้านเสื้อผ้าได้ก็เล่นเอาผมเหงื่อท่วมตัวแม้จะมีเครื่องปรับอากาศหลายเครื่องทำงานเต็มกำลังอยู่ก็ตาม ผมมองไปดูไนน์ก็พบว่ามันก็มีสภาพไม่ต่างกัน

เราหอบแหกวิ่งห่างออกมาจากตัวร้านให้ไกลที่สุด เมื่อถึงระยะที่ดูจะปลอดภัยแล้วจึงหยุดวิ่ง

"ไอ้เด็ก...บ้า...เอ้ย" ผมหอบไปด้วยพูดไปด้วย ด่าไอ้เด็กเจ้าปัญหาไป

"พี่เบ็น...ก็บ้า...เหมือนกัน...แหละ" มันหอบแล้วด่าสวนกลับมา

เดี๋ยวนี้มันวิวัฒนาการจนกล้าด่าผมแล้ว ผมควรจะเสียใจหรือดีใจดีนะ

ไม่นานผมกับไนน์ก็ระเบิดหัวเราะออกมาลั่นบริเวณนั้น ผู้คนที่เดินไปมาหันกลับมามองด้วยความฉงน

ตอนนี้ความอายสายตาคนรอบข้างได้หายไปหมดเหลือแต่ความบ้าบอที่ผมผ่านมาได้กับเจ้านี้ แล้วดูเหมือนไนน์ก็ไม่ได้แคร์สายตาคนอื่นเช่นกัน

ดูเหมือนตอนนี้ไนน์จะมั่นใจขึ้นมาบ้างแล้ว

ค่อย ๆ เติบโตไปนะ ดวงเดือนของพี่

เสื้อผ้า...เช็ค