ตอนที่ 049

ตอนที่ 49 ทำไมคุณถึงยอดเยี่ยมขนาดนี้

“ฮัลโหล! มีคนอยู่ไหมคะ?”

จางจื่ออันที่กึ่งนอนกึ่งนั่ง ถือหนังสือ ‘สารานุกรมสัตว์เลี้ยง’ อ่านอย่างเกียจคร้านอยู่บนเก้าอี้นอน เขาวางหนังสือลง มองเห็นคนเดินเข้าประตูมาพร้อมกันห้าคน นำทีมด้วยหญิงสาวผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่แทบจะกระโดดเข้าประตูมา และยังคุยกับโทรศัพท์ว่า

“ทุกคนเชิญชมได้เลยค่ะ นี่คือข้างในร้านขายสัตว์เลี้ยงมหัศจรรย์ค่ะ ดูๆ แล้วก็ไม่เห็นมีสัตว์เลี้ยงมหัศจรรย์อะไรเลยนี่นา!”

จางจื่ออันอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก็เข้าใจ เอ๋? หรือจะเป็นผู้ประกาศข่าวในทีวี?

แต่ว่าผู้ประกาศข่าวจะมาทำอะไรที่ร้านฉัน? เขาคิดอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะพุ่งเข้าไปทักทาย เมื่อครู่เพิ่งจะเล่นซ่อนหากับซิงไห่ ขึ้นชั้นบนลงชั้นล่าง ขาทั้งสองข้างล้าไปหมดจนตอนนี้ยังไม่หาย ฟีน่าลืมตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่งขึ้น เปลี่ยนจากท่านอนมาเป็นท่านั่ง กวาดสายตามองดูผู้ที่บุกรุกเข้ามาด้วยสายตาที่น่าเกรงขาม

ซิงไห่ที่กลัวมนุษย์ก็ขึ้นไปหลบอยู่บันไดของชั้นสอง

“เอ๋ ที่มือจับประตูยังแขวนกระดิ่งแมวด้วย น่ารักมาก!” เจียงเชียนเสวี่ยหันกล้องโทรศัพท์ไปทางมือจับประตู

[อยากเห็นเสวี่ยเจี้ยงใส่กระดิ่งแมวจัง]

[เสี่ยวเสวี่ยซื้อกระดิ่งแมวมาใส่เถอะ!]

[แล้วก็ใส่หูแมวกับหางแมวเข้าไปด้วย...โชว์เนินอกนิดๆ ก็น่ารักโคตรๆ แล้ว! ไม่ไหวแล้ว ผมขอตัวไปเช็ดเลือดกำเดา...]

[อยากเอาเสี่ยวเสวี่ยกลับมาเลี้ยงที่บ้าน...]

[พวกนายไม่ได้สังเกตเห็นอะไรสำคัญบ้างเหรอ? ไม่นึกเลยว่าสัตว์เลี้ยงของร้านนี้จะเลี้ยงแบบปล่อยได้!] มีผู้ชมคนหนึ่งตาแหลม

เจียงเชียนเสวี่ยหันกล้องโทรศัพท์กลับเข้าไปในร้านอีกครั้ง ก็เห็นเพียงแต่ลูกแมวไม่กี่ตัววิ่งหยอกล้อกันไปมาอย่างสนุกสนานอยู่บนพื้นภายในร้าน บ้างก็วิ่ง วิ่งจนหกล้มหัวคะมำ ลูกแมวหลายตัวอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม มองแล้วก็เหมือนกับกลุ่มก้อนขนนิ่มๆ

[เป็นลูกแมวที่น่ารักมาก!]

[น่ารักเป็นบ้า!]

[อยากจะยื่นมือเข้าไปหยิบออกมาจัง...]

เจียงเชียนเสวี่ยห่อปากเป็นรูปตัวโอ “เลี้ยงแบบปล่อยนี่มันแปลกมากเหรอ?”

[เสี่ยวเสวี่ยไม่ได้สังเกตเหรอว่าประตูร้านเปิดออกจนสุด เจ้าของร้านนี้ไม่กลัวสัตว์เลี้ยงจะวิ่งหนีเหรอ?]

“จริงด้วย” เจียงเชียนเสวี่ยมองดูประตูร้านที่เปิดอ้า แล้วหันกลับมามองดูเหล่าลูกแมวที่หยอกล้อกันแทบจะติดหน้าประตู แล้วก็หันกลับมามองเจ้าของร้านที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ถัดเข้าไปในร้านอย่างสบายใจเฉิบอีกครั้ง รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

[ฉันเคยเห็นร้านขายสัตว์เลี้ยงแบบเปิดขนาดใหญ่ระดับสูงอยู่ที่ต่างประเทศ แต่ก็ไม่ได้เลี้ยงแบบเปิดขนาดนี้ การเลี้ยงแบบเปิดของพวกเขามีการจัดเป็นสัดเป็นส่วน ไม่เคยเห็นร้านที่เลี้ยงแบบปล่อยทั้งร้านแบบนี้เลยจริงๆ ...]

[ที่พูดมาก็ถูกนะ เจ้าของร้านไม่กลัวแมวน้อยที่น่ารักพวกนี้วิ่งหนีบ้างเหรอ?]

[เสี่ยวเสวี่ยไปถามเจ้าของร้านเถอะ!]

คู่รักเห็ดทอดน้ำมันกับอุลตร้าแมนถูกเจ้าพวกลูกแมวที่น่ารักหว่านเสน่ห์ใส่เข้าแล้ว จึงนั่งลงยองๆ มองดูพวกมัน

เถ้าแก่อาเฟยที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับหน้าประตู สายตาดีไม่น้อย แอบมองสองขาของเจียงเชียนเสวี่ยที่ถูกคลุมไว้ด้วยกางเกงยีนรัดรูป ในใจคิดว่าฉันสามารถเล่นอยู่กับขาคู่นี้ไปได้ทั้งปี

เจียงเชียนเสวี่ยกระโดดหยองๆ สองสามก้าวไปหยุดอยู่ข้างๆ จางจื่ออัน โค้งตัวลงถาม “ขอโทษนะคะ คุณเป็นเจ้าของร้านใช่ไหมคะ?”

จางจื่ออันเลื่อน ‘สารานุกรมสัตว์เลี้ยง’ ลง พยักหน้า แล้วสายตาก็กลับไปอยู่ที่หนังสือต่อ ทำเหมือนได้ตอบไปแล้ว

[เป็นเจ้าของร้านที่วางมาดสุดๆ!]

[เจ้าของร้านกำลังคอสเพลย์เป็นเกอโยว*กำลังเอนหลัง...]

[เสี่ยวเสวี่ยถามเจ้าของร้านสิ ว่าทำไมคุณถึงยอดเยี่ยมขนาดนี้?]

เจียงเชียนเสวี่ยเม้มปากหัวเราะ เธอไม่ถามคำถามนั้นออกไปแน่

“คุณเจ้าของร้านคะ คุณไม่กลัวแมวน้อยจะวิ่งหนีไปเหรอคะ?” เธอถามพร้อมกับชี้ไปที่เหล่าลูกแมวน้อย

“ไม่กลัวครับ” จางจื่ออันตอบแบบเรียบๆ “พวกมันยังวิ่งไม่ได้” ในขณะที่พูดก็ไม่ได้ละสายตาออกจาก ‘สารานุกรมสัตว์เลี้ยง’ เลยตั้งแต่แรก

[เจ้าของร้าน ไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน?]

[รวยแล้วเอาแต่ใจตัวเอง!]

เจียงเชียนเสวี่ยถาม “คุณเจ้าของร้าน หรือว่าคุณ ฟิ้ว~ เสกคาถาใส่พวกมัน?” เธอทำท่าเลียนแบบสาวน้อยร่ายเวทมนตร์

[เสี่ยวเสวี่ยทำท่าเมื่อกี้อีกรอบหนึ่ง น่ารักเป็นบ้าเลย!]

[ไม่ไหวแล้ว ถ้ายังดูต่อไปอีกฉันต้องเสียเลือดหมดทั้งตัวจนตายแน่ๆ]

จางจื่ออัน “...ผมเสกคาถาไม่เป็น”

“ใช่! ฝีมืออ่อนด้อยของฝั่งตะวันตกไหนเลยจะมาเข้าตาของท่านอาจารย์ได้อย่างไร ท่านผู้นี้บรรลุวิชาฝึกสัตว์ขั้นสูงของเทพเซียนเก้าสวรรค์!”

ทันใดนั้นหวางเฉียนกับหลี่คุนก็อยู่ที่หน้าประตูร้าน พวกเขาโดดเรียนวิชาช่วงบ่ายของวันนี้ เพื่อมาทำความเคารพแสดงความจริงใจต่อท่านอาจารย์ของตน

พวกเขาเข้ามาอยู่ตรงหน้าจางจื่ออันอย่างรวดเร็ว ก้มลงคำนับ!

“คำนับท่านอาจารย์! ข้าน้อยหวางเฉียน...”

“ข้าน้อยหลี่คุน...”

“ขอให้ท่านอาจารย์มีแต่ความสงบสุข!”

จางจื่ออันเอาหนังสือปิดหน้าอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ไม่อยากเห็นหน้าของพวกเขา

[นี่มันอะไรกัน? ถ่ายหนังเหรอ?]

[ดูเหมือนจะมีมาเพิ่มอีกสองคน!]

เจียงเชียนเสวี่ยก็ตกใจเช่นเดียวกัน ทำไมสั่งให้สองคนนี้คุกเข่าก็เขาคุกเข่า? คุณพ่อมีเงินเยอะขนาดนั้นยังไม่เห็นมีใครเคยคุกเข่าให้ หรือว่าเจ้าของร้านคนนี้จะมีเบื้องหลังยิ่งใหญ่?

หวางเฉียนกับหลี่คุนเห็นว่าจางจื่ออันไม่สนใจพวกเขา ก็มีความคิดอันแน่วแน่ว่าท่านอาจารย์กำลังทดสอบความจริงใจของพวกเขาอยู่ พวกเขาสองคนลุกขึ้น มองไปรอบๆ ร้าน แล้วพูดออกคำสั่งว่า “ท่านอาจารย์ของข้ากำลังพักผ่อน หากเจ้าจะรอขอเชิญถอยไป...โอ๊ย!”

จางจื่ออันโมโหจนเขวี้ยง ‘สารานุกรมสัตว์เลี้ยง’ ใส่พวกเขา ถ้าพวกนายไล่ลูกค้าไป แล้วจะให้ฉันกินลมรึยังไง?

“พวกนายสองคนหุบปาก! ออกไปอยู่ฝั่งนู้น!”

หลี่คุนลูบศีรษะของตน ขณะเดียวกันก็พูดกับหวางเฉียนว่า “ทำตามที่ท่านอาจารย์สั่ง!”

“เก็บหนังสือขึ้นมาให้ฉัน!”

“ครับ ท่านอาจารย์!” หลี่คุนเก็บ ‘สารานุกรมสัตว์เลี้ยง’ ขึ้นมา ส่งสายตาไปหาหวางเฉียน ความหมายก็คือ เห็นไหม? นี่ต้องเป็นหนังสือวิชาฝึกสัตว์ขั้นสูงอันล้ำค่าแน่ๆ ในเมื่อท่านอาจารย์นำหนังสืออันล้ำค่าให้กับพวกเรา นั่นก็แสดงว่ายอมรับในตัวพวกเราแล้ว ก็เหมือนกับที่พระถังซัมจั๋งเคาะหัวซุนหงอคงสามครั้ง...

หวางเฉียนคิดได้ในทันที ชื่นชมในความสามารถการวิเคราะห์เหตุผลของหลี่คุน

หลี่คุนโค้งตัว ใช้สองมือส่ง ‘สารานุกรมสัตว์เลี้ยง’ ให้จางจื่ออันด้วยความเคารพ จากนั้นก็มายืนอยู่ข้างๆ หวางเฉียน กอดอกด้วยกันทั้งคู่ วางมาดสุดๆ

จางจื่ออันขี้เกียจสนใจคนสองกลุ่มนี้ จึงพลิกหนังสือไปยังหน้าที่อ่านถึงก่อนหน้านี้ และอ่านต่อ

ทุกคนในร้านงงกันไปหมด ในห้องไลฟ์สดก็สาดกระสุน ‘ทำไมคุณถึงยอดเยี่ยมขนาดนี้’ เข้ามาทางหน้าจอ

[นี่มันเหมือนคุณปู่กำลังสอนหลานอยู่เลย...]

[มั่ว! เห็นๆ อยู่ว่ามันเหมือนหลานสอนคุณปู่!]

[ก็ได้ๆ คุณหน้าอกใหญ่ งั้นคุณก็มีเหตุผล]

[นี่! คุณรู้ได้ไงว่าหน้าอกของฉัน 36D?]

[หน้าอก 36D ของผู้ชาย ก็ไม่เห็นจะมีอะไรให้ภูมิใจเนอะ...]

“เอ่อ...เจ้าของร้าน แมวน้อยนี่จับได้ไหม?” เห็ดทอดน้ำมันกับอุลตร้าแมนมองจางจื่ออันตาปริบๆ

“ได้ครับ” จางจื่ออันตอบอย่างมั่นใจ “ลูกสุนัขฝั่งนู้นก็จับได้ครับ” เขาชี้ไปทางเจ้าซามอยด์กับเจ้าชเนาเซอร์ที่อยู่ในกรง ได้เจอกับลูกค้าที่แฝงอยู่ในกลุ่ม ถึงแม้จะเป็นคู่รักที่น่าพะอืดพะอมเขาก็ต้องอดทน

พวกเขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าตรงนั้นมีสุนัขตัวน้อยที่น่าสงสารสองตัวถูกขังอยู่ ความสุขทั้งหมดถูกเหล่าแมวน้อยที่วิ่งเล่นอย่างอิสระแย่งไปหมด

[เจ้าของร้านลำเอียง ทำไมปล่อยแมวออกมาแต่ขังสุนัขไว้?]

[อาจจะเป็นเพราะเจ้าของร้านเกิดปีจอ?]

[ต้องเป็นเพราะเจ้าของร้านยังโสดอยู่แน่ๆ จึงขับไสไล่ส่งคนประเภทเดียวกัน!]

[คนโสดขับไสไล่ส่งคนประเภทเดียวกัน...ฮ่าฮ่าฮ่า...ฮือฮือฮือ...]

[แซวไปแซวมาก็ร้องไห้ซะแล้ว...]

[เด็กดี ไม่ร้องนะ ลุกขึ้นมา!]

[พวกนายอยากให้ฉันขำจนตายเลยเหรอ? เสี่ยวเสวี่ยห้ามบอกเจ้าของร้านเด็ดขาดนะ! อยากเห็นหน้ามาดขรึมของไอ้เจ้าของร้านนานๆ]

เห็ดทอดน้ำมันกับอุลตร้าแมนชำเลืองมองอย่างช้า กระซิบกระซาบกันอยู่สองคน เหมือนกำลังปรึกษากันว่าสุนัขหรือว่าแมวดี

เถ้าแก่อาเฟยก็เดินเตร่ช้าๆ มาหยุดอยู่ที่ข้างๆ เหล่าแมวน้อย นั่งยองๆ ลงมองสักพัก ก็ชี้ไปทางเจ้าแมวเปอร์เซียที่แพงที่สุดแล้วถามว่า

“น้องชาย ตัวนี้เท่าไหร่?”

*เกอโยว (葛优) นักแสดงตลกผู้มีชื่อเสียงของจีน เป็นที่จดจำกันในท่าเอนหลังอย่างหมดอาลัยตายอยากของเขา สร้างความขบขันให้ชาวจีนเป็นอย่างมาก