ตอนที่ 14 โอสถทลายลมปราณ
วันรุ่งขึ้นเย่หยวนไปยังหอโอสถอีกครั้ง
เย่หยวนรู้สึกได้ว่าสายตาของคนที่อยู่ในหอโอสถมองเขาต่างไปจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง ทุกคนล้วนมองไปยังนายน้อยเย่ด้วยความชื่นชม
เขาเคยเห็นสายตาที่มองเขาด้วยความชื่นชมมานับไม่ถ้วนจากชีวิตก่อนหน้า เย่หยวนจึงไม่ค่อยสนใจกับสิ่งเหล่านี้เท่าไหร่ ที่วันนี้เขามายังหอโอสถก็เพื่อมาเอาสมุนไพรต่างๆ เพื่อนำไปเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่ตนเองให้เร็วที่สุด โดยการใช้โอสถเป็นตัวกระตุ้น
เนื่องจากภายในร่างนี้มีจิตวิญญาณของจักรพรรดิโอสถสิงสู่อยู่ จึงไม่มีทางเลยว่าเขาจะเลือกสรรสมุนไพรไม่เป็น
ในตอนนี้เขาได้มีสูตรโอสถอยู่ในใจแล้ว แต่โอสถที่เขาสามารถปรุงได้นั้นมีน้อยเกินไป เขาสามารถหลอมโอสถได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ยังดีที่มีความทรงจำและทักษะของจักรพรรดิโอสถดั่งกาลอดีตอยู่ในร่าง มิเช่นนั้น...แค่อาณาจักรแก่นแท้แห่งปราณระดับหนึ่งอย่างเดียวคงทำได้เพียงเศษโอสถเท่านั้น
เขาใช้เวลาเกือบทั้งคืนในการค้นหาสูตรโอสถระดับหนึ่งที่เหมาะสมกับตัวเย่หยวนมากที่สุด และเขาก็นึกออกว่าในบรรดายาระดับหนึ่ง มีโอสถชนิดหนึ่งนามว่า โอสถทลายลมปราณอยู่และโอสถชนิดนี้ก็เหมาะสมกับเขาในตอนนี้ที่สุดแล้ว
โอสถทลายลมปราณ เป็นโอสถที่มีไว้ทลายขีดจำกัดของพลังปราณ และยังมีไว้บำรุงและเสริมสร้างความแข็งแกร่งอีกด้วย
มันเป็นโอสถระดับหนึ่งที่สามารถเพิ่มพลังปราณ ทั้งยังช่วยในการบ่มเพาะพลังเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีโอสถอีกหนึ่งตัวที่ผู้คนต่างนิยมกันอย่างมากก็คือ โอสถทลายแก่นแท้แห่งปราณ
แต่หากคนธรรมดากินยาชนิดนี้เข้าไปเป็นปริมาณมาก แทนที่จะเพิ่มพลังปราณกลับกัน…มันกลับสร้างความเจ็บปวดต่อร่างกายอย่างมากแทน
โอสถทลายแก่นแท้แห่งปราณเป็นเพียงโอสถชนิดเดียว ที่หากกินเข้าไปมันจะช่วยย่นระยะเวลาการฝึกฝนได้หลายเดือนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าการก้าวขึ้นสู่อาณาจักรแก่นแท้แห่งปราณระดับเก้า มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย แต่อย่างไรก็ตาม...การตามหายาทลายแก่นแท้แห่งปราณนั้นยากพอๆกับการตามหาขนนกวิหคอมตะอย่างไงอย่างนั้น เฉพาะแค่ตระกูลราชวงศ์และลูกหลานของขุนนางชั้นสูงเท่านั้นที่จะสามารถหามาใช้ได้
แต่โอสถทลายลมปราณ เป็นโอสถที่ได้รับการต่อยอดจากยาทลายแก่นแท้แห่งปราณอีกทีหนึ่ง เรียกได้ว่า...โอสถตัวนี้มีฤทธิ์ที่เหนือกว่ายาทลายแก่นแท้แห่งปราณอยู่หลายเท่า ดังนั้นมันจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะที่สุดแล้วสำหรับเย่หยวน เพื่อเสริมสร้างพลังปราณของเขาเป็นการด่วน แน่นอนว่าเย่หยวนในปัจจุบันมีสูตรโอสถระดับสูงจนผู้คนตะลึงอีกมากมาย หากเขาได้กินโอสถเหล่านี้เขาไป...เขาจะแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าตอนนี้เขายังอ่อนแอเกินไปที่จะหลอมสร้างขึ้นมา
“นายน้อยเย่ ที่ท่านมาวันนี้ก็เพื่อเอาสมุนไพรกระมัง?”
เมื่อผู้คุมหอโอสถเห็นเย่หยวน เขาก็เดินมาทักเย่หยวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มในทันที ซึ่งแตกต่างจากเมื่อวานลิบลับ
เย่หยวนตอบกลับพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อยพูดว่า
“ถูกต้อง นี่เป็นสมุนไพรที่ข้าต้องการ…ช่วยเตรียมให้ข้าอย่างละสามชุด”
เย่หยวนส่งรายชื่อสมุนไพรให้ผู้คุมหอในทันที มันเป็นรายชื่อสมุนไพรที่เป็นวัตถุดิบในการหลอมโอสถทลายลมปราณ แม้คุณภาพโอสถชนิดนี้จะเหนือกว่ายาทลายแก่นแท้แห่งปราณ แต่วัตถุดิบที่ใช้ล้วนแต่เป็นสมุนไพรระดับหนึ่งทั้งสิ้นที่สามารถหาซื้อได้ทั่วๆไป แน่นอนว่าในหอโอสถแห่งนี้ก็มีสมุนไพรเหล่านี้แน่นอน
เมื่อผู้คุมหอกวาดตามองไปที่ใบรายชื่อสมุนไพรของเย่หยวน ทว่าจู่ๆสีหน้าเขาก็ดูหม่นหมองในทันที เมื่อเย่หยวนสังเกตเห็นจึงได้ทักถามไปว่า
“มีอะไรผิดพลาดอย่างนั้นรึ?”
“นายน้อยเย่ สมุนไพรที่ระบุไว้ในใบรายชื่อเหล่านี้…ข้าสามารถเตรียมให้ท่านได้หมด เว้นแต่...หญ้าหกแฉก”
ผู้คุมหอได้เผยสีหน้าลำบากใจออกมา
เมื่อเย่หยวนได้ยินดังนั้นเขาก็ประหลาดใจอย่างมาก
“ตามที่ข้ารู้...หญ้าหกแฉกนั้นมีน้อยมากก็จริง แต่มันก็เป็นสมุนไพรที่สามารถหาได้ทั่วไป เป็นไปได้รึที่หอโอสถแห่งนี้จะไม่มีให้ข้า ข้าขอเพียงสามส่วนเอง?”
เมื่อผู้คุมได้ยินที่เย่หยวนผู้เขาก็หัวเราะออกมาเล็กน้อยพร้อมตอบกลับว่า
“นายน้อยเย่ หอโอสถของเราย่อมเตรียมพร้อมเสมอ...และหญ้าหกแฉกนั้นพวกเราก็มีอยู่พอดีสามส่วน แต่ทั้งสามส่วนนั้นก็ได้ถูกจองไปแล้วโดยใครบางคน พร้อมกับวางเงินจองไว้เสร็จสรรพตั้งแต่เมื่อวาน”
เมื่อมาถึงจุดนี้ ในใจของผู้คุมหอโอสถก็กล้าๆกลัวๆหลังพูดเสร็จ...เขากลัวว่าเมื่อนายน้อยได้ยินดังนั้นแล้วเขาจะโกรธขึ้นมา ถ้าเกิดนายน้อยเย่ไม่พอใจขึ้นมาละก็...ทั้งวันเขาอาจไม่ได้ทำงานอย่างสงบสุขเป็นแน่อย่างในอดีต แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน…มันทำให้พวกเขารู้ว่า นายน้อยเย่ของพวกเขาได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง คงมีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่ทรงทราบ เมื่อนายน้อยเย่ได้ยินดังนั้น เขาจะโกรธหรือไม่
เมื่อได้เห็นสีหน้าของนายน้อยที่ดูไม่กระวนกระวายใจเท่าใด ผู้คุมหอโอสถพลันรู้สึกโล่งใจขึ้นทันตา เขาไม่คิดเลยว่าภายในเวลาวันเดียว คนๆหนึ่งจะสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ขนาดนี้?
“ทราบไหมว่าใครกันที่จองสมุนไพรเหล่านี้?”
“ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูรุ่นราวคราวเดียวกับท่าน นอกจากนี้เขายังต้องการสมุนไพรชนิดนี้โดยด่วนอีกด้วย”
ผู้คุมหอโอสถรีบตอบกลับในทันที
เย่หยวนได้ถามต่อทันทีว่า
“เขาได้บอกหรือไม่ว่า…เขาเอาสมุนไพรเหล่านี้ไปหลอมโอสถชนิดใด? ข้าต้องการคุยกับเขา”
เมื่อผู้คุมได้ยินดังนั้น เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่า…เย่หยวนต้องการจะบังคับให้ผู้จองคนนั้นยกเลิกให้ได้ หากเกิดเรื่องเช่นนี้อาจส่งผลเสียงอย่างมากต่อชื่อเสียงหอโอสถ
เย่หยวนเห็นสีหน้าที่ไม่สบายใจของผู้คุม เขาจึงรีบกล่าวต่อว่า
“สบายใจได้ ข้าไม่ทำเรื่องเสียชื่อเสียงแน่นอน”
ในตอนนี้ผู้คุมไม่สามารถบอกได้ว่า นายน้อยเย่ตรงหน้าเขามันใช่นายน้อยคนเดิมอย่างที่ผ่านๆมาหรือไม่ แต่เมื่อเห็นว่านายน้อยเย่ไม่มีเจตนาที่จะมาทำลายชื่อเสียง และดูเหมือนว่าเขาต้องการเพียงส่วนลำต้นของหญ้าหกแฉกเพียงสามส่วนเท่านั้น
“ชายหนุ่มท่านนั้นได้กล่าวว่า เขาจะมาเอามันในรุ่งเช้า…ในตอนนี้เขาคงกำลังเร่งฝีเท้ามาที่นี่อยู่ก็เป็นได้?”
ผู้คุมหอได้บอกความจริงไป
ผู้คุมได้แต่ถอนหายใจและได้แต่ภาวนาว่า อย่างให้เกิดปัญหาใดๆขึ้นเลย…ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจนายน้อยเย่ แต่ที่ผ่านมานายน้อยเย่ต่างทิ้งความประทับใจและความระถึกมากมายให้พวกเขาต้องมาสะสางตลอด
หลังจากที่เย่หยวนได้นั่งจิบชาไปสักพัก จู่ๆก็ได้ยินเสียงประตูหอโอสถเปิดในทันที
“เถ้าแก่ ข้ามารับหญ้าหกแฉกที่จองไว้เมื่อวาน”
“เอ่อ...”
ผู้คุมหอได้แสดงสีหน้าที่ลำบากใจขึ้นมาอีกครั้ง
ชายหนุ่มคนนี้น่าจะมีอายุราวสิบห้าถึงสิบหกปี เมื่อได้เห็นสีหน้าการแสดงออกของผู้คุมหอ เขาก็โกรธอย่างมาก
“เถ้าแก่ เมื่อวานเราตกลงกันแล้วมิใช่รึ? แถมท่านก็รับเงินมัดจำไปแล้วด้วย แล้วไฉนท่านถึงกลับคำแบบนี้!”
“โดยปกติ ทางเราจะไม่กลับคำพูดอย่างแน่นอนหากลูกค้าได้วางเงินมัดจำไว้แล้ว ข้าเพียงอยากทราบว่าเหตุใดท่านถึงต้องการที่จะซื้อหญ้าหกแฉกเพียงเท่านั้นเอง?”
คนที่พูดแทรกขึ้นคือ เย่หยวน
เมื่อชายหนุ่มได้ยิน เขาก็ได้หันศีรษะมองไปโดยรอบเพื่อหาต้นเสียง ยามนี้ปรากฏเป็นชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันในชุดผ้าไหม เมื่อเจอต้นเสียงเขาจึงตอบกลับอย่างห่วนๆว่า
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า?”
ผู้คุมตกใจอย่างมากเมื่อได้ยินการตอบกลับของชายหนุ่ม เจ้าหนุ่มคนนี้ยังอยากมีชีวิตอยู่หรือปล่าว? ขณะที่ผู้คุมกำลังจะพูดขึ้น...แต่จู่ๆก็หยุดลงโดยสายตาของนายน้อยเย่ที่หันมาห้ามเอาไว้
เย่หยวนพูดกลับว่า
“แน่นอน มันไม่ใช่เรื่องที่ข้าควรยุ่ง แต่ข้าแค่สงสัยเฉยๆว่า เหตุใดเจ้าถึงซื้อสมุนไพรเหล่านี้แทนที่จะซื้อตัวโอสถสำเร็จรูปไปเลยน่าจะง่ายกว่า”
“โอสถระดับหนึ่งมีเพียงไม่กี่ชนิดที่มีหญ้าหกแฉกเป็นส่วนประกอบ และหากให้ข้าเดา...มันมีความเป็นไปได้อยู่เพียงสามทางเลือก ทางเลือกที่หนึ่งคือ...เจ้าต้องการหญ้าหกแฉกก็เพื่อจะไปหลอมโอสถจิตเทวะ ซึ่งเป็นโอสถที่มีผลต่อการบ่มเพาะพลัง เพื่อก้าวขึ้นสู่อาณาจักรหลอมรวมวิญญาณต่อไป”
“แต่ดูแล้ว เจ้าน่าจะอยู่เพียงอาณาจักรแก่นแท้แห่งปราณระดับสี่เท่านั้น จึงมิน่าใช่ทางเลือกแรกที่กล่าวไป ส่วน...ทางเลือกที่สองก็คือ เจ้าจะนำหญ้าหกแฉกไปหลอมโอสถบำรุงหัวใจ เพื่อนำไปบำรุงและเสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจ โอสถชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ติดอยู่ในปัญหาคอขวดไม่สามารถพัฒนาไปต่อได้ แต่เมื่อสังเกตดูแล้ว...เจ้าไม่น่าจะมีปัญหาคอขวดแต่อย่างใด”
“แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้อีกหนึ่ง นั้นคือทางเลือกที่สาม...โอสถฟื้นคืนร่างกาย โอสถประเภทนี้จัดอยู่ในโอสถรักษาระดับหนึ่ง ท่านคงกำลังร้อนใจในการรีบมาเอาสมุนไพรตัวนี้เพื่อไปหลอมกลั่น หวังจะนำไปรักษาคนสำคัญบางคนอยู่ใช่หรือไม่?”
เมื่อชายหนุ่มได้ยินสิ่งที่เย่หยวนวิเคราะห์ไปทั้งหมด เขาก็ตกตะลึงอย่างมาก
เขาตะลึงอย่างมากที่ว่า… เหตุใดเขาถึงมีความรู้ความเข้าใจด้านโอสถลึกซึ้งขนาดนี้กัน และเขายิ่งตะลึงหนักยิ่งขึ้นเมื่อสิ่งที่เขาวิเคราะห์ไปนั้นถูกต้องทั้งหมด
การวิเคราะห์ของเย่หยวนนั้นราวกับว่า เขาสามารถรู้สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าของชายหนุ่มผู้นี้ดั่งเล่าให้ฟัง และสิ่งที่เย่หยวนกล่าวมาล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น
…………………………………..