“ท่านจางหลิงรบกวนเจ้าจนไม่ได้พักผ่อน ข้านำสมุนไพรสำหรับนอนหลับและสมานแผลมา...” ทาสรับใช้นำอาหารและน้ำวางลงบนโต๊ะไม้ตัวใหญ่ ‘นายหญิง’ ยังคงซุกตัวนอนอยู่ใต้ผ้าห่มขนสัตว์ฟูฟ่อง แม้ไร้สามีเคียงข้างกาย นางหันไปทางสตรีจิ้งจอกด้วยแววตาเย็นชา
“วางไว้ ข้าจัดการของข้าเอง”
หลังไล่สาวรับใช้ไปอย่างไม่ไยดี นางปิดตาลงมองหาสามี พบหางสีนิลทั้งเก้าพลิ้วไหวท่ามกลางศัตรูนับสิบนอกกำแพงเมือง แม้ว่าเขาจะจัดการเสี้ยนหนามเพียงชั่วพริบตา นางยังคงเป็นกังวล จวบจนสำนึกรู้ของนางกลับมา ทาสรับใช้ออกจากห้องไป นางปัดมือปิดประตูไม้ด้วยเวทหยิน เสียงซุบซิบนินทาของพวกนางดังวนเวียนอยู่ด้านนอกระเบียง
‘ดูนางสิ ได้รับการปรนเปรอจนน่าอิจฉา ข้าล่ะอยากเป็นผีเสื้อสีชาดจริง ๆ’
‘แน่ใจนะว่าเจ้าได้ยินไม่ผิด เท่าที่ข้ารู้มา พวกนางมีนัยน์ตาสีอำพัน ปีกสีม่วงอำพัน’
‘คนที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นคนแรกก็เจ้ามิใช่รึไง’
‘เป็นไปได้ไหมว่านางใช้เวทลวงตาหลอกท่านจางหลิง!’
‘เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่นายท่านจะไม่รู้เรื่องนี้ พวกเจ้าอย่าพูดเสียงดังไป’
‘ข้าก็พูดตามที่ข้าเห็น วัน ๆ นางอยู่แต่ในเรือน ไม่มีใครเคยเห็นปีกสีชาดของนาง’
ทาสสตรีจะเงียบเสียงลงได้ก็ต่อเมื่อสัมผัสรับรู้พลังจิ้งจอกเก้าหาง เขามีอีกร่างมาเฝ้าภรรยาตามที่เอ่ยว่าจะไม่ปล่อยให้นางคลาดสายตา การมีชีวิตอยู่ของเขาเพื่อปกป้องนาง หากนางไม่เอ่ยขอเวลาส่วนตัวของนางบ้าง เขาแทบจะตัวติดนาง นางเดินไปทางไหนในเรือน เขาก็ตามนางเช่นเงา
ถึงยามไฮ่[1] นางไปร่วมงานสังสรรค์เมามาย การร่ายรำของสตรีในเรือนรับรอง บุรุษจิ้งจอกส่งเสียงเอะอะโวยวาย อวดอ้างวิชาเรื่องการต่อสู้กับเผ่าเทพต่อหน้าท่านผู้นำ อันเป็นธรรมเนียมเมืองปีศาจ
ด้านนอกเรือนปรากฏพื้นดินชุ่มชื้นปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน จันทรากลมโตทอแสงนวลอ่อน จากที่ควรปรากฏจันทร์รุธิระสาดแสงแห่งโลหิตตกกระทบลงพสุธา นัยน์ตาจิ้งจอกหลายคู่ทอดมองไปยังสตรีในอาภรณ์สีนิลสนิทแลดูสง่างาม สมเป็นคนโปรดท่านเจ้าเมืองจางหลิง ชุดของนางเปิดเผยผิวกายบริเวณเนินอกอวบอิ่มเยี่ยงปีศาจราตรี นางปรากฏกายพร้อมกลุ่มควันสีชาด
“หน้าตาเจ้าดูเป็นกังวลใจ มีเรื่องรบกวนเจ้าหรือ? ภรรยา”
บุรุษร่างกำยำบนฟูกขนาดใหญ่รายล้อมด้วยเหล่าปีศาจที่มาร่ำสุรา พวกจิ้งจอกแต่งกายเย้ายั่วในเรือนไม้กว้างขวาง ไม่มีใครกล้าตำหนินางผู้เดินทางมาล่าช้า แม้แต่ทาสส่วนหนึ่งยังอันตรธานไปก่อนนางเอ่ยฟ้อง
“ข้าพยายามจะนอน แต่บ่าวรับใช้พูดจากันเสียงดังเหลือเกิน ช่างเถิด ข้าไม่อยากเสียเวลาหาสาวใช้ใหม่”
“งั้นหรือ? ไหนใครพูดให้ร้ายเจ้า”
จางหลิงเป็นผู้ถือครองสมบัติวิเศษมากมาย ทั้งยังมีตบะแก่กล้า ก็ควรรู้เรื่องคำนินทาว่าร้ายนาง หลายวันมานี้มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ตลอด บางเรื่องเขาไม่จัดการให้นาง ราวกับว่าจะทดสอบความอดทนของนาง
ถิงถิงสะบัดหน้าบึ้งตึงบนตั่งไม้แกะสลักงานประณีต ที่นั่งของนางอยู่ในทางฝั่งซ้ายถัดจากเจ้าของเรือน
“พวกนางว่าปีกสีชาดข้าไม่มีอยู่จริง ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?”
“ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าฝึกฝนพลังประหลาดที่ว่าได้สำเร็จหรือไม่ เจ้าค่อนข้างเกียจคร้าน เจ้าเอาแต่กิน ๆ นอน ๆ” เขาพูดอ้อมค้อมเพื่อรักษาเรื่องราวในตำราสีชาด ขณะเสียงหัวเราะดังจากบุรุษสตรี ทักท้วงว่าเป็นเพราะท่านจางหลิงรบกวนนางจนไม่เป็นอันกินอันนอน นางมีหน้าที่ปรนเปรอเรื่องบนเตียงให้ท่านผู้นำก็ถูกต้องแล้ว
ใช่สิ... พวกเขาย่อมเข้าข้างนางด้วยกลัวเกรงในอำนาจ จำได้ว่าจิ้งจอกนิลผู้น้องไม่พอใจนางเรื่องอาภรณ์งดงามและเครื่องประดับล้ำค่าเกินหน้าเกินตาสตรีอื่นในเรือน ไม่อนุญาตให้นางสวมใส่ของมีราคา การนอนร่วมเตียงกับท่านผู้นำเป็นเรื่องไม่เหมาะควร นางเป็นแค่อาหารของจิ้งจอก ให้นางไปพำนักอาศัยร่วมกับปีศาจสตรีซึ่งถูกจับตัวมาเป็นแหล่งพลังวิญญาณ นางมาเรือนนี้ได้เฉพาะตอนที่เขากระหายเท่านั้น
นางถูกรังแกถึงเรือนนอน ไม่มีใครกล้ายื่นมือช่วยเหลือ แต่นางยืนกรานว่านางไม่ไปจนกว่าจางหลิงจะกลับมา จึงเกิดการต่อสู้เล็กน้อย หากไม่ทันตัดสินผู้แพ้ชนะ จิ้งจอกเก้าหางผู้นี้ออกคำสั่งให้นำตัวน้องสาวไปขังในคุกใต้ดินไม่มีกำหนดการปล่อยตัว แถมฆ่าผู้อาวุโสที่ขัดใจเขาด้วยไปอีกสอง
“เจ้าอย่าเล่นตัวนักเลย พี่ใหญ่ไม่เคยโปรดปรานสาวงามเกินสามราตรี ไม่เรียกใครภรรยา ปีศาจน้อยอายุขัยเพียงห้าพันปีเช่นเจ้าไยเป็นกรณีพิเศษ?”
“ไม่แปลกที่พวกท่านจะสงสัยในตัวข้า ขอให้เชื่อเถิดว่าข้ารักใคร่ในตัวสามีไม่น้อยไปกว่าที่เขาเมตตาเอ็นดูข้า เราสองมีวาสนาครองคู่”
นางถือโอกาสนี้อวดด้ายแดงจากเทพผู้เฒ่าจันทราบนปลายนิ้วที่เชื่อมถึงกัน จิ้งจอกผู้น้องของจางหลิงอีกสี่ซึ่งมีข้อกังขานางเลยเงียบไป ต่อให้การได้รับของขวัญจากเทพจะทำให้พวกเขาไม่พอใจอยู่บ้างก็ตามที
“ข้าชอบด้ายวาสนาเส้นนี้นักภรรยา เจ้าและข้ามีวาสนาครองคู่ น่าเสียดายเพียงเรื่องเดียว ข้าควรพบเจ้าเร็วกว่านี้”
แล้วนางก็ถูกเกี้ยวพาราสีจนเอียงอาย แม้นางจะมีความคิดว่าคู่ครองมักพบกันในเวลาที่เหมาะสม
บุรุษจิ้งจอกในอาภรณ์หลุดหล่นเผยให้เห็นแผงอกกำยำ คว้าเอวบางเข้ามาโอบกอดไม่ห่างกายระหว่างนั่งจิบสุรา เขายกสุราหนึ่งจอกขึ้นดื่มแล้วส่งเสียงดัง “เป็นภรรยาข้า ศัตรูรอบกาย เจ้ายังจะต้องอดหลับอดนอนรู้ไหม!?”
“ผีเสื้อไม่พักผ่อนนอนหลับนานนักหรอกเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นก็ดี... เอาเป็นว่าอีกสองราตรี งานแต่งยิ่งใหญ่ของข้าและเจ้าจะจัดขึ้นในเมืองจิ้งจอกนิล เชิญพวกท่านมาร่วมแสดงความยินด้วยแล้วกัน”
สุราในมือยกขึ้นอีก เรียกเสียงอวยพรของเหล่าจิ้งจอก จางหลิงแสดงความรักต่อนางด้วยจุมพิตดูดดื่ม ลมหายใจสีชาดทอเป็นละอองสายผ่านริมฝีปากของเขาและนาง
ปีศาจผู้ไร้ประสบการณ์เคลิบเคลิ้มไปกับอารมณ์ประหลาดที่เขาป้อนประคอง มันแสนอ่อนหวานนุ่มละมุน ผิดจากจุมพิตเร่าร้อนซึ่งพบเพียงตัณหาราคะ กระทั่งเขาผละจุมพิตจากนาง แววตาฉ่ำปรือไม่ละวางไปจากริมฝีปากเอิบอิ่มของบุรุษเพศ เขาเรียกบ่าวรับใช้เข้ามาด้วยการปัดมือเบา ๆ
“พวกเจ้าไปนำสมุนไพรบำรุงครรภ์ปีศาจจากเรือนใต้มาให้ข้า จะมีบุตรจิ้งจอกสักสิบ… ยี่สิบ ลองนึกภาพจิ้งจอกน้อยหน้าตาน่าเอ็นดูวิ่งเล่นเต็มเรือนดูซี ข้าแทบอดใจไม่ไหว”
“ขอรับท่านจางหลิง!”
งานง่ายดายเช่นนี้ไม่ต้องถึงมือคุนเหลียง แม้ว่าคนสนิทคงจะตามไปดูความเรียบร้อยถึงเรือนใต้ จางหลิงหันไปถามนาง “เจ้าคิดว่ายังไง? มีบุตรชายบุตรสาวให้ข้าได้สักกี่คน”
“มะ... มีบุตร... จิ้งจอกน้อยรึ!?” นางเบิกตากว้างตกใจ อ้อมแขนแข็งแรงกระชับกอดนาง ย้ำคำเดิมว่าใช่! เขากำลังพูดถึงเรื่องมีบุตร
[1] 亥: 21.00 – 23.00 น.