19-2 狡猾的狐狸 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

นีเทียนต้าเซินรักษาสัจจะที่มอบให้ปีศาจเรื่องข้อตกลงสามประการ แม้ว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับธุระเรื่องการจัดสถานที่วิวาห์

การบุกรุกของบุคคลภายนอกเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เมื่อพวกเขาล้มป่วยในโลกความจริง หลี่หวังหยางเป็นปีศาจตบะแก่กล้า ช่ำชองการใช้เวทลวงตาและภาพมายา คงจับชีพจรของสถานที่ลึกลับอีกแห่งได้ตอนรักษามารดาผีเสื้อและบุตรสาวทั้งสองของนาง

ถิงถิงไม่แปลกใจเรื่องท่านปู่ ด้วยวิสัยโลภมาก ไม่ยอมคน ก็คงจะสรรหาหนทางมาพบเทพมรณาจนได้ นางคาดว่าพวกเขาวางแผนร่วมกัน เดินทางผ่านกระจกแห่งโลกมายาเพื่อมาทวงถามพรแห่งชีวิต ในขณะที่ฮู่โหมวเพียงมาบอกลานาง มอบคำอวยพรให้บ่าวสาวมีความสุขในวันข้างหน้า

ต่างฝ่ายได้ปรับความเข้าใจกันนับว่าเป็นเรื่องดี หากเทพมรณาในร่างจำแลงไม่ปรากฏกายพร้อมกลุ่มเมฆา แถมมาเพื่อลักพาตัวนางไป

“เจ้าตำรานั่น... พาเจ้าไปเที่ยวที่ไหนมารึ สนุกไหมเล่า? ถิงถิง” ในน้ำเสียงคั่งแค้น ใบหน้าหล่อเหลาเกิดรอยย่นตรงหว่างกลางคิ้ว คล้ายปีศาจแมงมุมอย่างที่เคยกล่าวว่านางอัปลักษณ์ยามเกรี้ยวกราด

ท่าทางของสามีเหมือนคลุ้มคลั่ง หลังเรียกภรรยากลับมาด้วยการสูดลมหายใจครั้งหนึ่ง ละอองสายสีชาดไหลผ่านปลายจมูกโด่งเป็นสันคม

“เขาพาข้าไปดูนครมรณาก่อนท่านถือกำเนิด ตำราทั้งสามเล่มล้วนเกิดจากจิตเทพบรรพกาล แม้ละสังขารทางกาย กลับมีจิตใจที่เสียสละต่อดวงวิญญาณ”

“เจ้าชื่นชมตำราสีชาดมากกว่าข้า... ผู้เสียสละให้ดวงวิญญาณมานับหลายหมื่นปี?”

“หามิได้เลย” นางตอบ หน้าผากแซมด้วยเม็ดเหงื่อในห้องกว้างขวางที่มีเตาผิงไฟในฤดูเหมันต์ แววตาขุ่นเคืองของเขาราวจะแช่แข็งนาง บุรุษจิ้งจอกขยับเข้ามาใกล้นางทั้งในอาภรณ์หลุดหล่น เขี้ยวคมปรากฏตรงมุมปากทั้งสองข้าง ไอปีศาจจำนวนมากแผ่ซ่านอยู่รอบอาภรณ์สีนิล

“...รูปงามกว่าข้าหรือไม่?”

“เขามาในรูปลักษณ์ที่เหมือนท่าน ข้าไม่มีโอกาสได้เห็นร่างจริงของเขา”

“ไยเจ้าดูระแวดระวังเหมือนกุเรื่องมาหลอกข้า เหมือนสตรีชั่วช้าบนเมืองมนุษย์ที่ลักลอบออกจากเรือนยามดึกดื่นไปหาชู้รักของพวกนาง”

“ถ้าท่านไม่ไว้วางใจ เทพปีศาจระดับสูงเช่นท่านอาจพิสูจน์ความจริงด้วยการมองความทรงจำของภรรยา...”

นัยน์ตาสีชาดทอประกายแสงเจิดจ้าครั้งหนึ่งโดยที่นางไม่รู้ตัว แต่เมื่อผลปรากฏว่านางไม่มีสิ่งใดปิดบัง เขาส่ายหน้าหลีกเลี่ยงการสบตานางด้วยความรู้สึกละอาย

“ก็ใช่ว่าข้าไม่ไว้ใจเจ้า ข้าไม่ชอบเจ้าตำรานั่น จิ้งจอกเงินอดีตคู่หมั้นของเจ้าด้วย แล้วข้าถามเจ้าไป ไม่รู้ว่าเจ้าจะพูดความจริงหรือไม่”

“ถิงถิงเข้าใจ ไม่โกรธเลย”

แต่ก่อนที่สามีจะโกรธนางมากไปกว่านี้ นางตัดสินใจขยับมือทั้งสองขึ้นโอบรอบเอวสอบเต็มอ้อมแขน ซุกหน้าเข้าหาแผงอกอุ่น “ท่านไม่ควรอยู่ในร่างจิ้งจอกนิลนานเกินไป นีเทียนต้าเซิน ท่านใจร้อนเหมือนจิ้งจอกมากขึ้นทุกวัน เรื่องมีบุตรจิ้งจอก ข้าไม่เห็นด้วย ข้าจะมีบุตรให้ท่านเมื่อเราสองกลับเมืองมรณา ท่านจะมีบุตรกี่คนก็ได้”

“เจ้ารับปาก?”

“รับปาก”

นีเทียนต้าเซินก้มมองนาง กอดร่างบางจนจมอยู่ในอ้อมแขน “ข้าเกเร พูดจาไม่ดีกับเจ้า ขอโทษเจ้าด้วย ปีศาจน้อยของข้า” ในน้ำเสียงอ่อนโยนถึงเพียงนั้น เขาหายใจเข้าลึก สูดกลิ่นหอมอ่อนจากเรือนผม อารมณ์เกรี้ยวกราดบรรเทาลงโดยไร้สาเหตุ ปีศาจน้อยลอบยิ้มในอ้อมอกสามี

“ข้าไม่โกรธท่านจริง ๆ ถึงคราวท่านพูดจาไม่รู้เรื่อง ข้าก็ชอบท่านอยู่ดี”

“จริงของเจ้า”

ต่างฝ่ายหัวเราะ พริ้มปิดตาลงในช่วงเวลาอันแสนอบอุ่นอ่อนโยน เสียงลมพัดไหวด้านนอกเรือนประหนึ่งเสียงพิณสวรรค์ ในฤดูเหมันต์เช่นนี้ สามีจุดเตาผิงให้นางด้วยไฟที่ไม่มีวันมอดดับจากภพภูมิปีศาจแห่งไฟกัลป์

ถิงถิงเงยหน้าขึ้นมองอาภรณ์สีนิลหลุดหล่นอยู่บนบ่า เลื่อนมือไปวางทาบบนหน้าอกกว้าง สัมผัสเม็ดเหงื่อที่ไหลซึมบนเรือนกายรุ่มร้อน

“ท่านกำลังกระหาย...”

“อื้ม... ข้าใช้ร่างปีศาจผู้โปรดปรานการเข่นฆ่าทารุณ มีความคิดชั่วร้ายไม่ว่างเว้นสักวัน ข้าเกือบกลายร่างเป็นจอมมารแล้วล่ะ”

“เป็นเพราะท่านหวงแหนข้า”

“ใช่”

ภาพทับซ้อนเข้ามาในหัวเมื่อครั้งนางอยู่กับร่างจำแลงเทพมรณา นั่นเป็นเหตุให้เขาคลางแคลงใจว่าเทพบรรพกาลผู้นั้นอาจได้จุมพิตแรกของนาง

บัดนี้เขาใช้อ้อมกอดเล็ก ๆ เพื่อสงบโทสะที่คุกรุ่นดั่งไฟ ก้มลงจูบนาง ลูบไล้พวงแก้มอุ่นด้วยปลายนิ้ว เข้าข้างตนเองว่าอย่างไรเสียนางไม่มีใจเป็นอื่น

เผ่าพันธุ์ผีเสื้อมีรักเดียว ต่อให้เป็นในโลกตำรา ไม่ว่าที่ใด นางขาดคนรัก นางก็ตาย

บุรุษในอาภรณ์สีนิลจูบนางแล้วหัวเราะชั่วร้ายเช่นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ นางหอบหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อม สองลมหายใจสีชาดสอดประสานเข้าหากันเป็นละอองสาย เขาเอาหน้าผากชนกับหน้าผากของนาง

“การควบคุมอารมณ์เป็นเรื่องยากนัก ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าจิ้งจอกคล้ายคลึงปีศาจอสรพิษมากกว่าเสียอีก ปีศาจราตรีรักสนุก ท่องเที่ยวเตร็ดเตร่ไปทั่ว พวกเจ้าหลงใหลในโลกมายาความงดงาม เรื่องตัณหาราคะถึงมีมากอย่างไร นับว่าน้อยกว่าจิ้งจอกพวกนี้ ทั้งใจร้อนโกรธง่าย”

“เกิดความใคร่ก็ตอบสนอง โกรธแค้นใจไม่ว่าเรื่องอะไรก็แสดงออกอย่างไม่ปิดบังอ้อมค้อม จิ้งจอกค่อนข้างซื่อตรง แม้เจ้าเล่ห์สักหน่อย”

นางยิ้มมุมปาก ไร้ความเอียงอาย รับรู้ถึงฝ่ามือหนาสะกิดเข้ากลางแผ่นหลัง มือซุกซนดึงเอวคอดบาง พานางไปนั่งบนโต๊ะไม้ตัวใหญ่

โดยปกติแล้วการตื่นตัวของบุรุษจิ้งจอกกลายเป็นเรื่องปรกติสุข แม้ว่านางไม่คุ้นชินกับโต๊ะ... พาลให้นึกถึงห้องทำงานในเมืองมรณา

“ตรงนี้หรือ?”

“ยังกับว่าไม่เคย”

“เอ้อ... ข้า... อุ้บ!” ไม่ขาดคำ เขากัดหัวไหล่นางแล้วจูบนางอีก นางโอบรอบคอแกร่ง ตอบรับจุมพิตอ่อนโยนเร่าร้อน สองขาอ่อนระทวย เมื่อเขาแสดงความรักต่อนางด้วยริมฝีปากที่แตะลงบนผิวกาย บนต้นคอเพรียวระหงไปถึงเนินอก ชายกระโปรงสีนิลถูกเลิกขึ้นเหนือบั้นท้าย

ทำไมนางจะไม่รู้ สตรีจิ้งจอกล้วนปรารถนาการเป็นแหล่งอาหารของท่านจางหลิง แม้ไม่อาจได้รับแม้กระทั่งอ้อมกอดและจุมพิต การร่วมรักอย่างดิบเถื่อนเพื่อสูบพลังวิญญาณนับเป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งพวกนางไม่มีสิทธิร้องขอ ทว่ากลับมีสตรีผู้เดียวได้รับอนุญาต

สาวรับใช้ข้างนอกกระซิบนินทาเรื่องน้ำเสียงอันเป็นสุขของปีศาจราตรีสาว ทั่วทุกแห่งในเรือนเต็มไปด้วยแววตาริษยา ร่องรอยแดงช้ำ รอยเขี้ยวเล็ก ๆ บนเรือนกายนางเปรียบเสมือนตราเกียรติยศ ลึก ๆ นางก็ชอบใจ นางมักเปิดเผยผิวกายช้ำแดงให้พวกเขาเห็นโดยทั่วกัน

บุรุษจิ้งจอกเล้าโลมนางด้วยปลายลิ้นบนต้นขาที่ถูกยกขึ้น แต่แล้วเขาก็หยุดมือ นางเบิกตากว้าง เขาก้มลงกอดนางแนบแน่น ฝังริมฝีปากตรงขมับเนียน

“เจ้าเหนื่อย เจ้าพัก งานวิวาห์ในเมืองจิ้งจอกจะเริ่มในรุ่งอรุณ เราสองคงยุ่งวุ่นวายน่าดู ข้าจะกลับนครมรณา จัดการธุระเล็กน้อย…”

หนีไม่พ้นอีกสองเทพมาระรานเทพอาวุโสกว่าเรื่องภรรยา! ใบหน้าของนางดูผิดหวังเป็นกังวล แม้รู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะเทพโดยกำเนิด สามีก้มลงกระซิบข้างหูนาง ‘ข้าไปไม่นาน’ แล้วจูบแก้มนาง

หางทั้งเก้าพลันหายไปเบื้องหน้าสายตา ขณะร่างกายนางยังคงรุ่มร้อนพิษจูบ นางยกมือขึ้นแตะริมฝีปากอย่างเสียดาย กว่าจะนึกขึ้นได้

นีเทียนต้าเซินจะแยกร่างจิตไปอีกสักกี่ร่างก็ย่อมได้ มิใช่ว่าเขาเจตนายั่วยวนนาง แล้วจากไปหรอกหรือ!?