ตอนที่ 26 การสู้รบกันในฟอรัม
ฟอรัมเป่ยไห่เฉิง จื่อโหยวเทียนตี้บล็อก
พอถึงตอนเย็น ความคึกคักมีชีวิตชีวาในฟอรัมก็ค่อยๆ เริ่มขึ้น
โดยเฉพาะเหล่านักศึกษาโสดทั้งหลายที่อยู่ในมหาวิทยาลัยพวกนั้น ไม่ชอบเล่นเกมไม่ชอบไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด แต่มักจะชอบมาขลุกอยู่กับเว็บบอร์ดใหญ่ต่างๆ แล้วใช้ไอดีปลอมที่ไม่เหมือนกันมาพูดชี้แนะเกี่ยวกับชาติบ้านเมือง จากนั้นก็ถามปัญหาว่าจะทานเต้าหู้ใส่น้ำตาลหรือว่าซีอิ๊วดี จึงเหมือนกับใช้ก้อนอิฐทุบหัวกันไปมา
โลกยุทธภพของฟอรัม คือการใช้ปากทะเลาะกันในอินเทอร์เน็ต!
“ตอนเย็นที่บาร์โฮ่วไห่ พบหนุ่มหล่อคนหนึ่ง กับเพลงที่เพราะมากอีกด้วย!”
ข้อความนี้ถูกโพสต์อยู่ในจื่อโหยวเทียนตี้บล็อกและถูกผู้ดูแลบอร์ดปักหมุดไว้หน้าแรกสุด ทำให้ดึงดูดความสนใจของสมาชิกบอร์ดจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จำนวนการกดไลค์กับการตอบกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“แม่ง ผู้ดูแลบอร์ดขายตัวรับเงินคนอื่นช่วยคนสร้างกระแสเรอะ”
“อ่านกระทู้ให้ดีๆ อย่าพูดคำหยาบ คนเขาหล่อจริงๆ เพลงก็เพราะมาก ไม่ว่าอะไรก็อย่าเหมาว่าสร้างกระแส!”
“สนับสนุนความคิดเห็นของข้างบน ของข้างบน ของข้างบน น่าเสียดายที่สั้นเกินไป”
“พวกเธอรู้หรือเปล่าว่าชื่อเพลงอะไร ฉันค้นหาในอินเทอร์เน็ตแต่หาฉบับเต็มไม่ได้ ขอลิงค์ดาวน์โหลดหน่อย”
“ไม่ต้องถามแล้ว น่าจะเป็นเพลงต้นฉบับ ขอชื่นชม!”
“เพราะจังเลย เล่นได้เพราะมาก!”
“ธรรมดาจะตาย สไตล์เก่า ๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนบางทีอาจจะดัง แต่ตอนนี้เหรอ เหอะๆ”
“เหอะบ้านแกสิ ถ้าเก่งจริงแกก็ลองเขียนเองสักเพลงสิ เชอะ!”
“ใช่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าเพลงนี้เพราะมากจริงๆ แต่สั้นเกินไป!”
“จากการวิเคราะห์ของฉัน วิดีโอนี้น่าจะถ่ายที่บาร์แถวโฮ่วไห่ การตรวจสอบสำเร็จ”
“บาร์ไหนของโฮ่วไห่ล่ะ ฉันอยากไปดู”
“ผู้รู้ที่อยู่ข้างบนช่วยพาไปหน่อย...”
สำหรับโพสต์ที่ผู้ดูแลบอร์ดปักหมุดไว้หน้าแรก การวิพากษ์วิจารณ์ในบอร์ดมีแนวโน้มสองระดับอย่างเห็นได้ชัด บางคนพูดว่าเพราะมาก และทำการฟังซ้ำหลายรอบ แต่ที่น่าเสียดายคือเป็นท่อนที่ไม่สมบูรณ์
ทว่าก็ยังมีคนคิดว่าไม่ได้เก่งกาจอะไร เป็นเพลงที่ธรรมดามาก กระทั่งสงสัยว่าคิดอยากสร้างกระแสหรือเปล่า
มีบางคนแสดงการดูถูก ว่าการสร้างกระแสแบบนี้เขาเห็นมามากแล้ว อย่างแรกคือจงใจทำเป็นเปิดเผยของบางส่วนออกมา หลังจากดึงดูดความสนใจของทุกคนได้แล้วก็ค่อยๆ ปล่อยเนื้อหาออกมาทั้งหมด ก็เหมือนกับการตกปลา คนที่มีปัญญามากพอก็จะไม่ติดกับ
ความคิดของเขา ได้รับความเห็นด้วยจากคนจำนวนไม่น้อย
พวกที่วนเวียนอยู่ในฟอรัมเป่ยไห่เฉิงล้วนเป็นนักศึกษา พวกเขามักจะมีความกระตือรือร้นชอบกระพือข่าวและเชื่อมั่นในตัวเองสูง คิดว่าโลกทั้งใบเป็นของตัวเอง เกี่ยวกับท่าทีดูถูกเหยียดหยามของผู้มีอำนาจนั้น ล้วนมีกำลังสู้รบที่ เจ๋งมาก
มีบางคนชอบทำในทางตรงกันข้าม คนอื่นพูดดีแล้วแต่กลับคัดค้าน ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถแสร้งทำตัวเองให้สูงส่งได้มากพอ
คนเหล่านี้ในฟอรัมมักจะถูกเรียกว่า “งูพิษ” เป็นงูพิษที่ชอบพ่นพิษออกมา กัดไม่ปล่อย!
มีคนที่ใช้ไอดีว่า “เทียนหยากั้วลู่เค่อ” เห็นได้ชัดว่าเป็นต้นตำรับงูพิษของแท้ เขามีชื่อเสียงมากในบล็อกของ “จื้อโหยวเทียนตี้” แล้วก็ยังมีผู้สนับสนุนอยู่สองสามคน
แต่ที่ซวยก็คือ หลังจากเทียนหยากั้วลู่เค่อตอบกลับโพสต์เมื่อครู่ เสี่ยวหมี่ที่เพิ่งออนไลน์ดันเห็นพอดี
เสี่ยวหมี่คือคนที่ใช้ไอดี มินิเบบี้เขียนโพสต์นี้
ตอนเย็นเธอไม่ค่อยสบาย ดังนั้นจึงไม่ได้ไปเดินเล่นกับพวกรุ่นพี่ที่นอนห้องเดียวกัน และนอนอยู่บนเตียงก็น่าเบื่อ เธอจึงเปิดโน๊ตบุ๊คแล้วท่องอินเทอร์เน็ต
ผลปรากฏว่าพอเข้าไปในฟอรัมเป่ยไห่เฉิง เสี่ยวหมี่ก็ต้องตกใจกับการแจ้งเตือนของระบบจำนวนมาก
จากนั้นเธอจึงพบว่าโพสต์เมื่อวานตอนเย็นของตัวเองถูกผู้ดูแลบอร์ดแนะนำ และปักหมุดไว้หน้าแรกสุดของบล็อก “จื้อโหยวเทียนตี้” ยอดกดไลค์ 30000 ขึ้นไป ยอดการตอบกลับ 1000 ขึ้นไป!
ต่อให้เป็นการปักหมุดไว้หน้าแรกก็ตาม แต่ความนิยมแบบนี้ก็ถือว่าน่าตกใจมากเช่นกัน ทำให้เสี่ยวหมี่ทั้งตกใจและดีใจ และอ่านการตอบกลับของคนอื่นอย่างมีความสุข จนกระทั่งเห็นการตอบกลับของเทียนหยากั้วลู่เค่อ
เสี่ยวหมี่จึงโกรธอกแทบจะแตกตาย!
คนอื่นที่พูดธรรมดาเธอไม่สนใจ เพราะในฟอรัมนี้พวกขี้อิจฉาคนอื่นมีเยอะแยะ คนอื่นถามว่าสร้างกระแสหรือเปล่าเธอก็ไม่สนใจ เพราะในโลกของยุทธภพมีใครบ้างไม่เจ็บตัว?
เสี่ยวหมี่ก็มีประสบการณ์คลุกคลีอยู่ในฟอรัมมานานแล้วเช่นกัน
แต่โพสต์ของเทียนหยากั้วลู่เค่อนั้นมันร้ายมากจริงๆ เขาแสร้งทำเป็นผู้วิเคราะห์ที่มีประสบการณ์แล้วพ่นพิษใส่อย่างบ้าคลั่ง มองมินิเบบี้ว่าเป็นนักสร้างกระแสมืออาชีพ พูดกระแทกแดกดันเหมือนมีหลักฐานชัดเจน นอกจากนี้ยังได้รับการเห็นด้วยจากคนจำนวนไม่น้อย
แล้วแบบนี้เสี่ยวหมี่จะทนได้อย่างไร?
อย่าเห็นว่าปกติเสี่ยวหมี่จะทำตัวเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย แต่เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่อดทนกล้ำกลืนแบบนี้เงียบๆ โดยไม่พูดอะไรเด็ดขาด ดังนั้นเธอจึงเขียนโพสต์ใหม่ใน “จื้อโหยวเทียนตี้” แล้วส่งออกไป
“คุณเทียนหยากั้วลู่เค่อ ฉันไม่ใช่นักสร้างกระแสมืออาชีพ คุณกล้าเปิดเผยตัวตนของคุณไหม?”
หัวข้อยาว บวกอารมณ์โกรธสุดขีด บวกเนื้อหาของการเรียกชื่อท้ารบ ทันใดนั้นก็ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก
ภายในโพสต์นี้ เสี่ยวหมี่ได้แนะนำที่มาของวิดีโอที่ปักหมุดไว้หน้าแรกอีกหนึ่งรอบ และตอบคำถามหลายคนที่ถามด้วยความเป็นห่วง นอกจากนี้ยังโพสต์รูปภาพที่แต่งแล้วกับหมายเลขบัตรรับประทานอาหาร
เธอซึ่งเป็นคนละเอียดยังเพิ่มกระดาษโน้ตที่มีไอดีฟอรัมของตัวเองอยู่ข้างๆ บัตรรับประทานอาหาร เพื่อยืนยันตัวตน!
โพสต์สุดท้าย เสี่ยวหมี่ถามเทียนหยากั้วลู่เค่อว่า
“ฉันรับรองว่าฉันไม่ใช่นักสร้างกระแสมืออาชีพ คุณกล้าหรือไม่กล้ายืนยันตัวตนของตัวเอง ถ้าหากไม่กล้า อย่างนั้นก็กรุณาหุบปากเหม็นๆ ของคุณซะ!”
โพสต์ของเธอเพิ่งส่งออกไปเพียงครึ่งนาที ก็มีการตอบกลับเป็นร้อยข้อความ
“ว้าว เป็นรุ่นน้องของมหาวิทยาลัยครูปักกิ่ง!”
“เทียนหยากั้วลู่เค่อเป็นพวกเรียนไม่เก่ง น้องอย่าโกรธไปเลยนะ โกรธแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ”
“ฉันเห็นไอ้นี่ขัดหูขัดตามานานแล้ว น้องด่าได้ดีมาก!”
“ขอรูปภาพของน้องหน่อยครับ จากที่กะทางสายตาแล้วน่าจะเป็นคนสวยมาก!”
“พิมพ์เลขตัวใหญ่ขนาดนี้พี่ก็ยังมองออกว่าเป็นคนสวย ผมนับถือจริงๆ ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างจริงใจครับ”
“โง่! แกถอดแว่นดูแล้วหรือยัง”
“ขอสนับสนุนรุ่นน้อง เหยียบเทียนหยากั้วลู่เค่องูพิษที่ชอบว่าคนอื่นไปทั่วตัวนี้ให้ตายไปเลย!”
“เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน ชื่อเพลงไม่เลว ขอฉบับเต็มหน่อยสิ!”
“ไม่มีฉบับเต็มมั้ง...”
ความคิดเห็นในการตอบกลับล้วนโอนเอนไปข้างหนึ่งเท่านั้น ถึงแม้เสี่ยวหมี่จะแต่งรูปภาพส่วนตัวกับหมายเลขบัตรแล้ว แต่โลโก้ของมหาวิทยาลัยครูปักกิ่งบนนั้นกลับชัดเจนมาก จึงมีน้ำหนักมากในการยืนยันตัวตนของเธอ
มหาวิทยาลัยครูปักกิ่งมีชื่อเสียงเรื่องนักศึกษาหญิงมากและยังสวยมากอีกด้วย นักศึกษาหญิงของมหาวิทยาลัยครูปักกิ่งที่อยู่ในฟอรัมเป่ยไห่เฉิง จึงมีอำนาจเหนือใครโดยธรรมชาติ การบดขยี้เทียนหยากั้วลู่เค่อที่เป็นหมาโสดจึงเป็นเรื่องง่ายและสบายมาก
หวางหวิ่ผู้ดูแลบอร์ด “จื้อโหยวเทียนตี้” ก็รู้ใจปักหมุดสติกเกอร์ท้ารบของเสี่ยวหมี่ไว้หน้าแรกสุด
เนื่องจากได้ยินเพลงที่ทำให้ตัวเองรู้สึกซาบซึ้ง ดังนั้นเขาถึงได้แนะนำโพสต์วิดีโอของเสี่ยวหมี่ เพราะฉะนั้นเขาถึงไม่ชอบใจงูพิษไร้เหตุผล ไม่ยอมคนอย่างเทียนหยากั้วลู่เค่อเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ในฐานะผู้ดูแลบอร์ด เขาจึงไม่สามารถลงไปต่อว่าอีกฝ่ายได้ด้วยตัวเอง
ตอนนี้ผู้ดูแลบอร์ดออกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรุ่นน้องของมหาวิทยาลัยครูปักกิ่ง หวางหวิ่ก็เป็นฝ่ายสนับสนุนการสู้รบของเธออย่างเต็มที่
หลังจากปักหมุดโพสต์สติกเกอร์ท้ารบไว้หน้าแรกแล้ว การตอบกลับแทบระเบิด เท่ากับเป็นการจับเทียนหยากั้วลู่เค่อมัดห้อยแล้วเฆี่ยนตี!
เทียนหยากั้วลู่เค่อที่มีชื่อเสียงว่าเป็นงูพิษและมีกำลังสู้รบที่แข็งแกร่งในฟอรัมมาโดยตลอด แต่ให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมปรากฏตัว
เทียนหยากั้วลู่เค่อไม่ใช่ไอ้โง่ที่มีสมองธรรมดา เขารู้ดีว่าใครเหยียบได้ใครไม่ควรหาเรื่อง เขาพ่นพิษใส่มินิเบบี้ให้ตายได้ง่ายมาก แต่หลังจากนั้นไม่นานกลับมีผลเสียตามมาอย่างรุนแรง
ควรทราบว่าในฟอรัมเป่ยไห่เฉิง มีคนโสดเป็นจำนวนมาก ทุกคนล้วนเป็นเหมือนสัตว์ที่ดุร้ายแม้แต่เชือกก็มัดไม่อยู่ พอเห็นรุ่นน้องโดยเฉพาะรุ่นน้องที่สวยแล้ว มีหรือจะปล่อยโอกาสเอาอกเอาใจรุ่นน้องทิ้งไป
พวกเขาสามารถติดตาม IP ของเทียนหยากั้วลู่เค่อ หาชื่อ อายุ ที่อยู่หอพักของเขาได้...
แค่คิดก็รู้สึกน่าหวาดกลัว!
ถ้าหากไม่อยากตายสภาพน่าเกลียด เทียนหยากั้วลู่เค่อจึงได้แต่เป็นเต่าหดหัว เขาไม่สามารถเป็นศัตรูกับกลุ่มคนโสดจำนวนมหาศาลได้!
ตัวเขาเองก็เป็นคนโสดเหมือนกัน จึงเข้าใจพวกเดียวกันเป็นอย่างดี
เทียนหยากั้วลู่เค่อแสร้งทำเป็นสุนัขตาย ผู้คนจำนวนมากต่อว่าเขาไปเรื่อยๆ ก็หมดแรงแล้ว พวกเขาจึงเปลี่ยนหัวข้อกลับไปที่โพสต์ของวิดีโอ แล้วถามถึงรายละเอียดมากขึ้น
ไม่ว่าจะชอบเพลงนี้จริงๆ หรือไม่ หากสามารถได้คุยใกล้ชิดกับรุ่นน้องแล้วล้วนเป็นเรื่องดี
ความเหงายามค่ำคืนแก้ได้อย่างไร มีเพียงคุยกันในบอร์ดเท่านั้น!
เสี่ยวหมี่ที่ชนะงูพิษแล้วจึงตอบคำถามพวกเขาด้วยความอดทน นอกจากบอกชื่อเพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน ให้พวกเขาแล้ว ก็ยังบอกสถานที่ที่ไปฟังเพลง รวมทั้งความรู้สึกและความชอบเพลงนี้ของตัวเอง
เผลอแป๊บเดียว เพลง “เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน” ก็อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมของมันมากที่สุด กลายเป็นที่กล่าวขานชื่นชมของผู้คนอย่างเงียบๆ เกิดเป็นต้นกล้าใหม่เขียวขจีอย่างไร้สุ่มเสียง
....................................................................................