สามีภรรยา?

เสียงพิธีกรประกาศปิดท้ายงานแต่งงานที่แสนอบอ้าวในใจของอายัน แขกเหรื่อทยอยออกจากโรงแรมหรูไปทีละคน ขณะที่ตัวเขายังคงยืนอยู่กลางงานด้วยรอยยิ้มที่ฝืนทน บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยถึงความเหมาะสมของ "คู่บ่าวสาว" แต่มีเพียงอายันเท่านั้นที่รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่ใครเข้าใจ

"อายัน ไปได้แล้ว"

เสียงของปราณทุ้มต่ำแต่เย็นชา อายันเงยหน้าขึ้นมองชายที่ยืนอยู่ข้างเขา คนที่ตอนนี้กลายเป็น "สามี" ของเขาตามกฎหมายแล้ว แต่ไม่มีสักเสี้ยววินาทีที่อีกฝ่ายมองเขาด้วยความรู้สึกดี ๆ

ปราณสูงกว่าเขาเล็กน้อย ไหล่กว้างสมบูรณ์แบบในชุดสูทสีดำสนิท ใบหน้าคมสันเต็มไปด้วยความสุขุม แต่ดวงตาคู่นั้นไม่ได้แฝงความอบอุ่นใด ๆ เลยแม้แต่น้อย

เขาไม่ต้องการการแต่งงานครั้งนี้ และเขาก็ไม่พยายามปกปิดมันเลย

อายันกำหมัดแน่นเพื่อควบคุมความรู้สึก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องเผชิญกับความเมินเฉยของปราณ แต่มันก็ยังคงเจ็บปวดเสมอ

คอนโดที่เย็นเฉียบกว่าฤดูหนาว

ห้องชุดหรูใจกลางเมืองเป็นสถานที่ที่อายันถูกพามาในค่ำคืนวันแต่งงาน ไม่มีการฮันนีมูน ไม่มีคำพูดอ่อนโยน ไม่มีแม้แต่การจับมือ มีเพียงความเงียบงันที่เย็นยะเยือกเมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้องที่ควรจะเป็น "เรือนหอ"

อายันมองแผ่นหลังกว้างของปราณที่เดินเข้าไปในห้องนอนโดยไม่แม้แต่จะรอเขา เสียงปิดประตูดังขึ้นโดยไม่มีการหันกลับมามอง เขาถูกทิ้งให้อยู่ในห้องนั่งเล่นเพียงลำพัง ราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนตั้งแต่แรก

เขารู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ แต่หัวใจของเขาก็ยังอดปวดหนึบไม่ได้

อายันไม่ได้ร้องไห้ เขาเคยผ่านช่วงเวลาที่แย่กว่านี้มาแล้ว สิ่งที่เขาทำคือการสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินเข้าไปในครัว

"ถ้าเขาไม่รัก อย่างน้อยก็ขอให้ฉันได้ดูแลเขาก็ยังดี"

ความพยายามที่ถูกเมินเฉย

วันแรกของการแต่งงาน อายันตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารให้ปราณ เขาไม่ได้ทำเองมานาน แต่เขาจำได้ว่าเคยได้ยินจากพี่เลี้ยงของปราณว่าอีกฝ่ายชอบทานอาหารรสอ่อน ๆ ตอนเด็ก ๆ

เขาใช้เวลาทั้งเช้าเตรียมอาหารอย่างตั้งใจ วางจานทุกอย่างอย่างประณีตบนโต๊ะอาหารแล้วรอ รอให้คนที่เขารักเดินออกมาจากห้องนอน

แต่สิ่งที่เขาได้รับคือลำแสงจากประตูที่เปิดออก พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวตรงไปยังประตูหน้าห้องโดยไม่แม้แต่จะปรายตามองโต๊ะอาหาร

อายันรีบลุกขึ้น "พี่ปราณ! ทานข้าวก่อนไหม ผมตั้งใจทำให้…"

ปราณหยุดเท้าเพียงชั่วครู่ ก่อนจะตอบด้วยเสียงเรียบเฉย "ไม่จำเป็น ฉันไม่มีเวลาสำหรับเรื่องพวกนี้"

ไม่จำเป็น…

คำพูดสั้น ๆ นั้นทำให้มือที่กำลังจะยื่นไปหาหยุดชะงัก อายันมองแผ่นหลังที่หายออกจากประตูไปโดยไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ

เขานั่งลงที่โต๊ะอาหาร มองอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำแต่ไม่มีใครสนใจ ริมฝีปากแย้มยิ้มบาง ๆ ให้กับตัวเอง

"ไม่เป็นไรหรอก วันแรกก็คงเป็นแบบนี้แหละ"

หนึ่งเดือนต่อมา

ความเงียบงันยังคงเป็นสิ่งเดียวที่อยู่ระหว่างพวกเขา

ทุกเช้า อายันจะตื่นมาทำอาหารให้ แต่ไม่มีสักครั้งที่ปราณแตะมัน เขาเลือกที่จะไปทำงานแต่เช้าและกลับดึกจนบางครั้งอายันเผลอคิดว่าเขาอาจตั้งใจหลีกเลี่ยงการอยู่กับเขา

อายันพยายามทำทุกอย่างเพื่อเข้าใกล้อีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการชวนคุยในระหว่างมื้อเย็น (ที่มักจะทานคนเดียวเสมอ) หรือแม้แต่การรอให้ปราณกลับบ้านเพื่อจะได้เห็นหน้ากันบ้าง

แต่ทุกครั้งก็จบลงด้วยความว่างเปล่า

คืนนั้น อายันนั่งรอปราณที่โซฟาอีกครั้ง ขณะที่เวลาล่วงเลยไปจนเกือบเที่ยงคืน ในที่สุดประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น

เขารีบลุกขึ้น "พี่ปราณ กลับมาแล้วเหรอครับ—"

แต่เสียงของเขาถูกกลืนหายไปเมื่อปราณเดินผ่านเขาไปเหมือนอากาศธาตุ ราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนในสายตาอีกฝ่ายเลย

อายันเม้มปากแน่น ก่อนจะยิ้มจาง ๆ ให้ตัวเอง "พี่ปราณ ทานอะไรมาหรือยังครับ ผมอุ่นอาหารให้เอาไหม—"

"ไม่ต้อง" เสียงเย็นชานั้นตัดบทเขาทันที

"แต่ว่า…"

"อายัน" ปราณหันกลับมามองเขาครั้งแรกในรอบหลายวัน แต่ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย "นายจะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่?"

อายันนิ่งไป ใจเต้นช้าลงราวกับถูกบีบ "ผมแค่…"

"เลิกพยายามเถอะ ฉันไม่ได้ต้องการมัน"

เสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับความเงียบที่โอบล้อม อายันยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ก้อนแข็ง ๆ ติดอยู่กลางอกเหมือนจะกลืนกินเขาทั้งเป็น

มือที่กำแน่นสั่นเล็กน้อย แต่เขาก็ยังยิ้มออกมาเหมือนเดิม

"ไม่เป็นไรหรอก… สักวันพี่จะมองเห็นผมใช่ไหม?"

แต่เขาไม่แน่ใจแล้วว่าสักวันนั้นจะมาถึงจริง ๆ หรือเปล่า