ความเงียบที่เจ็บปวด

อายันกลับถึงคอนโดในตอนกลางคืน ร่างกายยังคงอ่อนล้าเพราะพิษไข้ที่เพิ่งหายจากการนอนโรงพยาบาลมา

สองวันเต็มที่เขาหายไป

สองวันเต็มที่ไม่มีใครตามหา

เขาป่วยหนักเพราะล้มพับกลางป่า มือถือก็หล่นหาย ตอนนั้นเขาคิด… หรือบางทีปราณอาจจะห่วงเขาบ้าง?

แต่เปล่าเลย…

เมื่อกลับมา ก็พบว่าอีกฝ่ายใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"ไปไหนมา?"

"กลับมาแล้วเหรอ?"

เสียงทุ้มเย็นชาดังขึ้นเมื่ออายันเดินเข้ามาในห้องรับแขก ปราณนั่งอยู่ที่โซฟา กำลังอ่านข้อความในโทรศัพท์โดยไม่แม้แต่จะเงยหน้ามามอง

หัวใจของอายันเต้นช้าลงอย่างเจ็บปวด เขารอให้ปราณพูดต่อ

แต่… ไม่มีคำถาม ไม่มีความห่วงใย ไม่มีแม้แต่คำพูดธรรมดาที่ควรจะมี

"พี่ปราณ…" อายันพยายามเปิดปากพูด แต่น้ำเสียงกลับแผ่วเบา

"หืม?"

"ผม… ผมหายไปตั้งสองวัน"

"อืม"

"พี่ไม่สงสัยเลยเหรอว่าผมไปไหน?"

ครั้งนี้ปราณเงยหน้าขึ้นมามองเพียงแวบเดียว ก่อนจะกลับไปจดจ่อกับโทรศัพท์ "ก็กลับมาแล้วไม่ใช่หรือไง?"

อายันยืนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ

"ใช่… กลับมาแล้ว"

แต่เขาไม่แน่ใจเลยว่าความรู้สึกของตัวเองมันจะกลับมาเหมือนเดิมได้หรือเปล่า

ไม่เคยสนใจอะไรเลย

อายันมองปราณที่กำลังจัดเอกสารสำหรับงานวันพรุ่งนี้ ราวกับว่าเขาเป็นอากาศธาตุในห้องนี้

เขาเคยพยายามบอกปราณไหม… ว่าตัวเองทำงานอะไร?

พวกเขาแต่งงานกันมาได้หลายเดือนแล้ว แต่ปราณยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาทำงานที่ร้านขายดอกไม้ ถึงขนาดไปซื้อดอกไม้ให้คนที่ตัวเองรักจากร้านของภรรยาโดยไม่รู้ตัว

พี่ปราณ… ไม่เคยสนใจอะไรเกี่ยวกับเขาเลยจริง ๆ

"อายัน พรุ่งนี้พี่ต้องออกไปข้างนอกแต่เช้า อย่าลืมล็อกห้องให้ดี"

อายันกัดริมฝีปากแน่น "ครับ"

ไม่มีแม้แต่คำถามว่าเขาทำงานอะไร ไม่มีแม้แต่ความสงสัยว่าเขาหายไปไหนมา

ไม่มี… แม้แต่ความเป็นห่วง

อายันหันหลังให้ปราณ เดินกลับเข้าห้องของตัวเอง หัวใจแน่นไปหมด

ของฝากที่กินไม่ได้

วันต่อมา ปราณกลับมาจากทำงานพร้อมกับของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาวางกล่องขนมลงบนโต๊ะ

"พิมพ์ฝากมาให้"

อายันชะงักไป ก่อนจะมองกล่องขนมตรงหน้า ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ หม่นลง

มันคือขนมที่ทำจากอัลมอนด์ ซึ่งเป็นของที่เขาแพ้อย่างรุนแรง

พี่ปราณ… ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากินอะไรได้หรือไม่ได้

อายันเงยหน้ามองปราณที่ไม่ได้สนใจอะไรเลย หยิบเอกสารขึ้นมาอ่านต่อเหมือนทุกวัน

เขาไม่แม้แต่จะมองมา ไม่แม้แต่จะรับรู้ถึงความรู้สึกของคนที่ยืนอยู่ตรงนี้

อายันกำมือแน่นก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปเงียบ ๆ

ที่ที่เดียวที่พึ่งพิงได้

คืนนี้เขาไม่อยากอยู่บ้าน

ไม่อยากอยู่ในที่ที่มีแต่ความเย็นชาและไร้ตัวตน

อายันเดินกลับไปที่ร้านดอกไม้ของตัวเอง เปิดไฟเพียงดวงเดียวก่อนจะเข้าไปในเรือนกระจกหลังร้าน

เขาทรุดตัวลงนั่งท่ามกลางเหล่าดอกไม้ มองดอก "ราตรีสวรรค์" ที่กำลังบานสะพรั่งในความมืด

"พวกนายโชคดีจังเลยนะ…"

เสียงของอายันแผ่วเบา

"พวกนายไม่ต้องรอให้ใครมองเห็น ไม่ต้องเรียกร้องความรักจากใคร"

"แต่ฉัน…"

เขายิ้มขมขื่น น้ำตาไหลร่วงลงมาก่อนที่เขาจะรู้ตัว

"ฉันต้องทำยังไงดี?"

ความกดดันจากครอบครัว

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ อายันเหลือบมองก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ

"ครับ คุณแม่"

["อายัน แต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่มีข่าวดีสักที?"]

อายันนิ่งเงียบก่อนจะฝืนยิ้ม แม้จะรู้ดีว่าแม่มองไม่เห็นก็ตาม

"ต้องใช้เวลาครับ"

["ใช้เวลาอะไรกันนักกันหนา ลูกกับปราณเป็นสามีภรรยากันแล้วนะ ไม่ได้เป็นเด็ก ๆ แล้ว"]

ใช่… พวกเขาเป็นสามีภรรยากันแล้ว

แต่ปลายเล็บของพวกเขายังไม่เคยแตะกันด้วยซ้ำ

"ผมจะพยายามนะครับ" อายันตอบไปเพียงเท่านั้น ก่อนจะกดวางสาย

เขาไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว

ความเงียบที่แสนโดดเดี่ยว

คืนนั้น อายันนั่งอยู่ในเรือนกระจกจนดึก

เขาไม่ได้กลับบ้าน

เพราะบ้านหลังนั้นไม่มีที่ว่างสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว

"ฉันควรทำยังไงดี… หรือว่าควรพอได้แล้ว?"