เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยความเงียบงันเหมือนทุกวัน อายันตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ ใช้เวลาทั้งเช้าต้มข้าวต้มหมูใส่เห็ดหอมที่เขาตั้งใจทำให้ปราณ
กลิ่นหอมของข้าวต้มอุ่น ๆ ลอยคลุ้งไปทั่วห้องครัว อายันวางชามลงบนโต๊ะอย่างประณีต พยายามสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นในบ้านที่เต็มไปด้วยความเย็นชา
แต่แล้วเสียงฝีเท้าหนักแน่นก็ดังขึ้นจากโถงทางเดิน ปราณเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย สวมสูทเรียบร้อยเตรียมออกไปทำงาน
"พี่ปราณ ผมทำข้าวต้มให้ ทานก่อนไหมครับ?"
ปราณหยุดเดินเพียงเสี้ยววินาที แต่ไม่แม้แต่จะปรายตามองโต๊ะอาหาร "ไม่ล่ะ ฉันมีธุระด่วน"
อายันเม้มริมฝีปาก มองอีกฝ่ายหยิบกระเป๋าเอกสารแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมา
เสียงประตูปิดลงดัง ปัง และทุกอย่างก็กลับสู่ความเงียบเหมือนเดิม
อายันถอนหายใจเบา ๆ มองข้าวต้มที่เขาตั้งใจทำแต่ไม่มีใครแตะต้อง เขาไม่หิว แต่สุดท้ายก็ต้องกินมันเองอยู่ดี
—
ร้านดอกไม้ กับรอยยิ้มของคู่รัก
อายันมาถึงร้านดอกไม้ของตัวเองในช่วงสาย หยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมก่อนจะเริ่มต้นวันใหม่
ร้าน "ลูเกียร์ฟลอร่า" เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เขาเปิดมาหลายปีแล้ว ดอกไม้แต่ละช่อที่ส่งมอบให้ลูกค้าเต็มไปด้วยความหมายดี ๆ
วันนี้ก็เหมือนทุกวัน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคู่รักที่มาซื้อดอกไม้ให้กัน อายันส่งช่อกุหลาบแดงให้ชายหนุ่มที่ยิ้มกว้างเมื่อได้รับมัน แล้วมองตามคู่รักที่เดินออกไปจากร้านด้วยสายตาเหม่อลอย
เขาก็เป็นคนหนึ่งที่แต่งงานแล้วเหมือนกันนี่ แต่ทำไมเขาถึงไม่มีโอกาสได้ยิ้มแบบนั้นบ้าง?
"คุณอายันคะ วันนี้ดูใจลอยจัง" พนักงานสาวในร้านทักขึ้นเบา ๆ
อายันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะยิ้ม "แค่คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก"
แต่ความจริงคือมันมี ทุกอย่าง อยู่ในหัวของเขา
—
คำสั่งซื้อที่คุ้นเคย
ช่วงบ่าย อายันเดินเข้าไปในเรือนกระจกที่อยู่หลังร้าน มันเป็นพื้นที่ที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อเพาะพันธุ์ดอกไม้ และเป็นที่ที่เขามักจะใช้เวลาอยู่กับตัวเองเวลาที่รู้สึกเหนื่อย
"ทำไมพี่ปราณไม่เคยมองผมบ้างเลยนะ…" เขาพึมพำกับดอกกุหลาบที่กำลังผลิบาน ราวกับว่ามันจะให้คำตอบกับเขาได้
แต่ก่อนที่เขาจะได้จมอยู่กับความคิดของตัวเองไปมากกว่านี้ เสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้น
"สวัสดีครับ ผมอยากสั่งช่อดอกไม้"
เสียงทุ้มต่ำและคุ้นเคยนั้นทำให้อายันชะงัก เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่ามันเหมือนเสียงของปราณเหลือเกิน แต่ก็บอกตัวเองว่าไม่น่าจะใช่
"ต้องการดอกไม้ประเภทไหนครับ?" อายันถามตามปกติ
"ขอเป็นช่อดอกไม้ขนาดใหญ่สำหรับแสดงความยินดี… สีหวาน ๆ หน่อย"
"รับทราบครับ ขอทราบชื่อผู้รับด้วยไหมครับ?"
"พิมพ์ภัทร"
ร่างโปร่งนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกลั้นหายใจแล้วค่อย ๆ ก้าวออกมาจากห้องด้านหลัง และสิ่งที่เห็นก็คือแผ่นหลังกว้างของปราณที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์
พวกเขาชะงักไปชั่วขณะเมื่อสบตากัน
อายันยิ้มจาง ๆ แล้วโน้มศีรษะให้อย่างสุภาพ "คุณลูกค้าต้องการดอกไม้แบบไหนเพิ่มเติมไหมครับ?"
ปราณขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำเรียกขานนั้น แววตาวูบไหวไปชั่วครู่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
"ไม่ล่ะ แค่นี้ก็พอ"
อายันพยักหน้ารับ แล้วเริ่มลงมือจัดช่อดอกไม้โดยไม่พูดอะไรอีก
เขาทำมันอย่างบรรจง เลือกดอกไม้แต่ละดอกอย่างพิถีพิถัน แม้มือของเขาจะสั่นเล็กน้อย และแม้หยาดน้ำตาจะค่อย ๆ ไหลลงมาเงียบ ๆ ขณะที่เขามัดริบบิ้นรอบช่อ
—
ของขวัญแสดงความยินดี
วันรุ่งขึ้น อายันต้องไปมอบของขวัญให้พี่สะใภ้พร้อมกับปราณ พวกเขายืนอยู่ในห้องรับแขกของคฤหาสน์อัครเดช ขณะที่พิมพ์ภัทรยิ้มกว้างเมื่อได้รับช่อดอกไม้
"สวยจังเลยค่ะ คุณปราณเลือกมาเองเหรอคะ?"
"อืม"
อายันเงียบ มองภาพนั้นอยู่ห่าง ๆ ไม่พูดอะไร
ดวงตาของปราณเต็มไปด้วยความอ่อนโยนยามมองพิมพ์ภัทร แววตาเดียวกับที่เขาไม่เคยได้รับ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีบางอย่างในแววตานั้นที่ดูหม่นหมอง
อายันเข้าใจความรู้สึกนั้นดี
มันเป็นความรู้สึกของคนที่รัก… แต่ไม่มีวันได้ครอบครอง
—
เมื่อภรรยาเป็นเพียงเงา
คืนนั้น หลังจากกลับถึงคอนโด อายันก็เริ่มทำความสะอาดบ้านตามปกติ
เขาซักเสื้อผ้าของปราณทุกตัวด้วยความระมัดระวัง ศึกษาข้อมูลของเนื้อผ้าแต่ละชนิดเพราะกลัวว่าถ้าทำพลาดแล้วปราณจะไม่พอใจ เขาคอยจัดของทุกอย่างให้เข้าที่ คอยดูแลบ้านให้น่าอยู่ที่สุด
แต่สุดท้าย…
เขาก็เป็นเพียงเงาในบ้านหลังนี้ เป็นเพียง "คนดูแล" ไม่ใช่ภรรยาที่มีตัวตนในสายตาของปราณ
อายันไม่เคยบ่น ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น
เขาทำได้เพียงกลับเข้าไปในเรือนกระจกหลังร้าน มองดอกไม้ที่เขาปลูกไว้ แล้วพูดกับมันแทน
"รู้ไหม… ฉันเหนื่อยจังเลย"
ไม่มีเสียงตอบรับจากดอกไม้เหล่านั้น มีเพียงสายลมที่พัดผ่านพวกมันแผ่วเบา
อายันหลับตา ปล่อยให้หยาดน้ำตาไหลลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า
"ฉันควรทำยังไงดี?"