ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1 อดีตชาติและปัจจุบันชาติ

ขณะที่ราตรีมืดมิดเข้าปกคลุมป่าเขา เปลวไฟสีส้มร้อนแรงจากทางบ้านพักที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางสถานที่นี้เพียงลำพังก็ส่องประกายสว่างจ้า เสียงกรีดร้องของปีศาจดังก้องไปทั่วหุบเขาที่เงียบสงัดแห่งนี้

เด็กสาวอายุราวสิบสี่สิบห้าปีถือคบเพลิงที่ลุกโชนไว้ในมือข้างหนึ่ง จ้องมองภาพนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก

บ้านไม้ที่ถูกราดด้วยน้ำมัน มิอาจต้านทานความร้อนแรงของเปลวไฟที่กำลังปะทุได้เลย เปลวไฟสีส้มแดงตะกละตะกลามเข้ากลืนกินทุกสิ่ง เหลือทิ้งไว้เพียงเสียงไฟที่กำลังเผาไหม้เท่านั้น

ทำลายมันเสีย เผาทิ้งให้หมด!

คุกที่แสนโหดร้ายนี้ สมควรให้มันหายไปตลอดกาล!

เจ้าของมือที่ถือคบเพลิงอยู่เอียงศีรษะเล็กน้อย กำลังมองไปที่ผลงานชิ้นเอกของตน

คุกที่กักขังเธอมานานกว่าสิบปี ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายต้องมากลายเป็นทะเลเพลิงด้วยน้ำมือของเธอเอง

และผู้ที่สมรู้ร่วมคิดกับเธอด้วยก็คือปีศาจตนนั้น

“พวกเราจะไปที่ไหนกันหรือ” แมวดำที่นั่งอยู่บนบ่าของเด็กสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงใสๆ เจ้าตัวเล็กเลียไปที่อุ้งเท้าใหญ่ของมัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าเย็นชาของผู้เป็นเจ้านายด้วยดวงตาที่ใสแจ๋ว

“ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ไม่ใช่ที่นี่ก็พอ” เด็กสาวมองผลงานชิ้นเอกของตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหันหลังเดินไปทางป่า เสียงกระทบของโซ่ที่เคยล่ามข้อเท้าเล็กๆ ขาดสะบั้นลง ยิ่งเธอเดินเข้าไปในป่าลึกมากเท่าไหร่ จิตใจก็ยิ่งว่างเปล่าไร้ความรู้สึกมากขึ้นเท่านั้น

ขณะที่เด็กสาวกำลังหันหลังเตรียมจะเดินจากไป ร่างหนึ่งที่โดนไฟคลอกก็ผลุนผลันออกมาจากกองเพลิง ดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความบ้าคลั่งจ้องเขม็งไปยังแผ่นหลังของเด็กสาว ได้ยินเพียงเสียงร้องเสียสติดังก้องไปทั่วบริเวณว่า

“อู๋เสีย! แกกลับมานี่เดี๋ยวนี้นะ! แกจะต้องอยู่ที่นี่กับฉันตลอดไป! แกเป็นของฉัน!”

สายสัมพันธ์ฉันปู่หลานตลอดสิบกว่าปีหายวับไปเพียงชั่วข้ามคืน

ผลงานที่มุ่งมั่นตั้งใจสร้างขึ้นมาอย่างดี กลับกลายเป็นตัวก่อโศกนาฏกรรมทำให้เกิดฝันร้าย!

เด็กสาวหยุดฝีเท้าลง ค่อยๆ หันตัวกลับมามองชายที่ถูกไฟคลอกอยู่ พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณตาย แต่ฉันรอด”

ชายผู้นั้นแผดเสียงร้องลั่น เด็กสาวมองไปยังฝันร้ายที่สุดของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะพูดอย่างเฉยเมยและไม่หันหน้ากลับไปมองอีก “ลาก่อนตลอดกาลค่ะ คุณปู่”

แมวน้อยที่นั่งอยู่บนไหล่ของเธอหัวเราะเยาะ...เหอะ คุณปู่งั้นเหรอ

ไอ้บ้าเสียสติที่ยอมสูญเสียตนเองเพื่อศึกษาวิชาแพทย์ ไอ้ชั่วที่เอาหลานสาวแท้ๆ ของตัวเองมาทำเป็นผลงาน กักขังเธอไว้ให้อยู่แต่ในป่าทึบอย่างโดดเดี่ยวนี่น่ะเหรอ เขามีสิทธิ์อะไรมาเรียกแทนตัวเองว่า ‘ปู่’ ของเจ้านายมัน!

“เจ้านาย ท่านจะทำอย่างไรต่อไป” แมวดำเมินเฉยต่อเสียงไฟด้านหลังนั่นอย่างสิ้นเชิง มันยื่นหัวเข้ามาแล้วถามเจ้านายของมัน

เด็กสาวก้มหน้าลง มองมือที่เรียวยาวและนุ่มของตัวเองก่อนจะตอบไปว่า “ฉันจะไปสอบเป็นสัตวแพทย์”

“ฮ่าๆๆ ถ้าตาแก่นั่นรู้ว่าหมอเทวดาที่เขาอุตส่าห์ปั้นขึ้นมากับมือกลายไปเป็นหมอรักษาสัตว์ล่ะก็ จะต้องตายตาไม่หลับอย่างแน่นอน” แมวประหลาดบนไหล่ของเด็กสาวหัวเราะจนตัวโยก

“ตายตาไม่หลับเหรอ” เด็กสาวหลุบตาลง มุมปากแสยะยิ้มออกมา

หนึ่งปีผ่านไป เด็กสาวสอบผ่านได้รับใบประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์ แล้วย้ายมาลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองA เข้าสู่เส้นทางของการเป็นสัตวแพทย์อย่างไม่มีวันหวนกลับ

......

แต่ชีวิตเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน ช่วงระหว่างวินาทีความเป็นความตาย ขณะที่เธอกำลังทำการผ่าตัดอยู่ในห้องผ่าตัดนั้นเอง จู่ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น จากนั้นเธอก็ตกลงไปในความมืดมิด ก่อนจะโผล่มาอยู่ในอีกโลกใบหนึ่ง

เม็ดฝนจำนวนมากเทสาดลงมาอย่างหนัก อู๋เสียที่พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยหินก็ตั้งสติวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

เธอโผล่มาอยู่ในอีกโลกที่แปลกใหม่ เข้ามาแทนที่ดวงวิญญาณที่ตายจากไปแล้ว กลายเป็นคนใหม่ไปแล้วจริงๆ น่ะหรือ จะว่าไปก็น่าขำ เพราะร่างกายนี้ดันบังเอิญมีชื่อว่า ‘อู๋เสีย’ เหมือนกัน แตกต่างกันตรงที่อีกฝ่ายแซ่จวิน...จวินอู๋เสีย