ตอนที่ 10 แขกไม่ได้รับเชิญ (4)
นาง...ไม่โกรธอย่างนั้นหรือ
“พูดจบหรือยัง” จวินอู๋เสียมองไปที่คนสารเลวทั้งสองด้วยแววตาเฉยชา
ความนิ่งสงบของจวินอู๋เสียไม่ได้ทำให้จวินชิงแปลกใจแค่คนเดียว แต่มันยังอยู่เหนือความคาดหมายของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยด้วย
หากเป็นเช่นนี้ แล้วตอนนั้นที่จวินอู๋เสียพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับเขา แล้วมาวันนี้ พอโดนเขาทำลายการหมั้นหมายลงต่อหน้าต่อตา เหตุใดนางถึงไม่โกรธสักนิดเลยเล่า
“จวินอู๋เสีย พวกเราจากกันด้วยดีเถอะ ให้อวิ๋นเซียนช่วยรักษาเจ้า แล้วจากนี้ไปพวกเราทั้งคู่ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก” เพราะไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียคิดอะไรอยู่ มั่วเซวี่ยนเฝ่ยเลยขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ใช้สายตาพิจารณามองไปยังไป๋อวิ๋นเซียน
“โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ เหตุใดเจ้าไม่ออกไปดูข้างนอกสักหน่อยเล่า” จวินอู๋เสียหรี่ตาแล้วพูดออกไป
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยชะงักกึก
จวินอู๋เสียหัวเราะเบาๆ
“ความหมายของอู๋เสียก็คือ อยากไสจะหัวไปไหนก็ไป” จวินอู๋เย่าอธิบายให้เขาฟังด้วยความ ‘หวังดี’
สีหน้าของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดในทันที “จวินอู๋เสีย เรื่องถอนหมั้น ถึงเจ้าไม่ตกลงอย่างไรก็ต้องตกลง เสด็จพ่อร่างราชโองการเอาไว้แล้ว และมันจะถูกประกาศให้ทั้งโลกได้รู้ในวันพรุ่งนี้ เจ้าสำเหนียกตัวเองไว้สักหน่อยเถอะ”
ไป๋อวิ๋นเซียนที่เงียบมาตลอดในที่สุดก็เอ่ยปาก นางพูดด้วยน้ำเสียงสูงส่งว่า “คุณหนูจวิน ท่านอาจารย์ของข้าเคยบอกไว้ ชีวิตนี้บางสิ่งบางอย่างเราไม่อาจฝืนได้ ในสถานการณ์เช่นนี้คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักหากเจ้าจะดึงดันต่อไป มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ที่จะพยายามฝืนบังคับบางสิ่งที่มันเกินกว่าความสามารถของเจ้า”
ง่ายๆ ก็คือ แนะนำให้จวินอู๋เสียเลิกเกาะแกะมั่วเซวี่ยนเฝ่ยเสียที!
เจ้านาย! สตรีผู้นี้กำลังด่าท่านอยู่! เจ้าแมวดำแทบอยากจะพุ่งออกไปตะปบหน้าชายโฉดหญิงชั่วคู่นี้ด้วยความโกรธ สองคนนี้มันจะหน้าไม่อายเกินไปแล้ว
“ข้าเหนื่อยแล้ว” จวินอู๋เสียไม่มองคู่บุรุษสตรีตรงหน้าอีกต่อไป แสร้งทำท่าอิดโรยแล้วส่งสายตาไปให้จวินอู๋เย่า
จวินอู๋เย่ายืนขึ้นทันที เหยียดแขนทั้งสองข้างออกมาแล้วช้อนร่างเล็กของอู๋เสียเข้าไปในอ้อมแขน เดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองอีก
สีหน้าของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยดูไม่ได้อย่างถึงที่สุด จวินอู๋เสียไม่เคยไม่เห็นหัวเขาขนาดนี้มาก่อนเลย แต่มาวันนี้จวินอู๋เสียจะมองเขาเต็มตาสักครั้งก็ไม่มี เอาแต่มองผ่านเขาไปตั้งแต่ต้นจนจบ
“นี่ก็สายมากแล้ว เชิญแขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่านกลับไปยังที่พักของพวกท่านเถิด” จวินชิงพูดส่งแขกด้วยสีหน้าไม่พอใจ หากไม่ใช่เพราะสถานะสูงส่งของทั้งคู่ล่ะก็ เขาคงเรียกทหารกองทัพรุ่ยหลินให้มาลากตัวบุรุษสตรีหน้าไม่อายคู่นี้ออกไปตั้งนานแล้ว
ขณะที่มั่วเซวี่ยนเฝ่ยกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ไป๋อวิ๋นเซียนก็ลุกขึ้นยืนก่อน นางมีสีหน้าขุ่นเคืองใจชัดเจน
“อวิ๋นเซียน เจ้าคงเสียใจ” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยไม่สนใจเรื่องจวนหลินอ๋องแม้แต่น้อย เขาสนเพียงไป๋อวิ๋นเซียนของเขาเท่านั้น มั่วเซวี่ยนเฝ่ยคิดในใจว่าจวินอู๋เสียช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียจริง
ไป๋อวิ๋นเซียนหน้าบูดเดินออกจากจวนหลินอ๋องไปโดยไม่พูดไม่จาสักคำ มั่วเซวี่ยนเฝ่ยเดินตามนางไปติดๆ จากนั้นคนทั้งคู่ก็หายลับไป
ในโถงห้องรับแขกที่เงียบสงบ จวินชิงหน้าขาวซีด จวนหลินอ๋องของเขายังไม่เคยโดนเหยียดหยามเช่นนี้มาก่อนเลย คงเป็นเพราะพวกนั้นเห็นว่าตอนนี้ท่านพ่อของเขาแก่ตัวลงมากแล้วสินะ เพราะว่ากองทัพรุ่ยหลินไม่มีคนที่เหมาะสมจะมาสืบทอดตำแหน่งแม่ทัพต่อ พวกราชวงศ์ถึงเริ่มไม่เห็นหัวพวกเขามากขึ้นทุกที วันนี้พอได้เห็นมั่วเซวี่ยนเฝ่ยเป็นแบบนี้ หากรัฐชีมีสำนักชิงอวิ๋นคอยหนุนหลังอยู่จริงๆ ต่อไปพวกเขาก็คงไม่จำเป็นต้องไว้หน้าจวนหลินอ๋องอีกแล้วล่ะ
จวินอู๋เย่าที่อุ้มจวินอู๋เสียออกจากห้องรับแขกยิ้มร่าเริง
“เจ้าไม่โกรธเลยหรือ” จวินอู๋เย่าก้มลงถามจวินอู๋เสีย เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องรับแขกเมื่อสักครู่นี้ เห็นได้ชัดว่ามั่วเซวี่ยนเฝ่ยตั้งใจพาคนรักใหม่มาตบหน้าอดีตคู่หมั้นชัดๆ
แต่นางกลับไม่มีร่องรอยของความขุ่นเคืองใดๆ เลยนี่สิ
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ส่งสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามกลับไป
รอยยิ้มบนมุมปากของจวินอู๋เย่ากดลึกขึ้นอีกส่วน ประกายวิบวับในดวงตาแฝงถึงความลุ่มลึกยากจะคาดเดาเล็กน้อย
“อู๋เสียเอ๋ย เจ้าช่างใจกว้างจริงๆ”