ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 12 โดนรังเกียจ (1)

เจ้าแมวดำนอนสบายอยู่บนตักของจวินอู๋เสีย กำลังเพลิดเพลินไปกับการที่ถูกเจ้านายของมันลูบหัว

“เจ้านาย จวนหลินอ๋องแห่งนี้ไม่ปลอดภัย พวกเราไปจากที่นี่กันเถอะ” แมวดำหรี่ตาลงด้วยความเคลิบเคลิ้ม เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ทำให้มันเข้าใจแล้วว่าร่างที่เจ้านายของมันครอบครองอยู่นี้ไม่ได้สวยหรูเหมือนอย่างที่เห็น จวนหลินอ๋องแห่งนี้มีแค่จวินเสี่ยนเป็นเสาหลักอยู่เพียงแค่คนเดียว และด้วยอายุของจวินเสี่ยน เกรงว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว ราชวงศ์เองก็เริ่มจับจ้องจวนหลินอ๋องแล้วเช่นกัน ขนาดจวินเสี่ยนยังไม่ตาย องค์ชายรองยังกล้ามาหยามหน้าถึงที่จวน หากจวินเสี่ยนตาย เห็นทีว่าคนในจวนหลินอ๋องคงรอดยาก

แต่ดูจากการกระทำของเจ้าของร่างเดิม มันก็สมควรอยู่หรอกที่จะพบกับจุดจบเช่นนี้

“ไม่ไป” จวินอู๋เสียยังคงเล่นหยอกล้อกับเจ้าแมวดำอย่างสบายอกสบายใจ

โลกใบนี้ไม่เหมือนกับโลกเดิมที่นางเคยอยู่ ฮ่องเต้คืออำนาจสูงสุด จวนหลินอ๋องแม้จะใกล้ล่มสลาย แต่ก็ถือเป็นสถานที่หลบภัยที่ดีที่สุดเช่นกัน

ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะความเป็นหมอสภาพร่างกายของนางในตอนนี้นางจึงรู้ดี นางจำเป็นต้องฟื้นความแข็งแรงกลับมาให้ได้ก่อน ยิ่งไปกว่านั้นในโลกที่ไม่คุ้นเคยใบนี้ก็มีอันตรายซุกซ่อนอยู่มากเกินไป นางไม่รู้เลยว่าตัวเองจะต้องไปเจอกับอะไรบ้างหากนางออกไปตอนนี้

“เสาหลักของจวนหลินอ๋องก็คือจวินเสี่ยน ตราบใดที่มีข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เขาตายจากไปง่ายๆ เป็นอันขาด” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นางเป็นหมอ ใครก็ตามที่นางอยากปกป้อง นางล้วนปกป้องได้ทั้งนั้น

“จะว่าไป สุขภาพของร่างนี้ย่ำแย่เกินไปหน่อยหรือไม่ แม้แต่ภูติวิญญาณก็ยังไม่มี หากร่างนี้มีภูติวิญญาณล่ะก็ ข้าก็คงสามารถฝึกฝนวิชาของโลกใบนี้ได้”

“ภูติวิญญาณคืออะไรกันแน่” เจ้าแมวดำไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโลกใบนี้เลยสักนิด

จวินอู่เสียยกมือขวาขึ้นมา แล้วเหยียดนิ้วออกไปให้มันดู

นิ้วมือที่เรียวเล็ก ขาวผ่องดุจหยก

หากเป็นคนปกติ เมื่ออายุครบสิบสี่ปีก็จะมีวงแหวนปรากฏขึ้นบนนิ้วที่มือขวาของพวกเขา ทว่านี่กลับไม่มีอะไรอยู่บนนิ้วของนางเลย

เหมียว? เจ้าแมวดำยื่นขาที่เต็มไปด้วยขนนุ่มนิ่มขึ้นมา มันเกาะนิ้วเรียวงามของนางไว้แน่นแล้วแลบลิ้นเลียเบาๆ

แต่แล้วมันก็ต้องหรี่ตาลงอย่างกะทันหัน

“เจ้านาย เหมือนที่นิ้วมือของท่านจะมีพลังแปลกๆ บางอย่างแฝงอยู่นะ นั่นอาจเป็นภูติวิญญาณของท่านก็ได้!” ลิ้นของเจ้าแมวดำนั้นสามารถรับรู้ความรู้สึกได้ไว เพราะมันไม่ใช่แมวธรรมดา หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณของจวินอู๋เสีย ร่องรอยเล็กๆ ของวิญญาณนี้มันจึงสามารถรับรู้ได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ

จวินอู๋เสียเลิกคิ้วเล็กน้อย ลูบคลำไปที่นิ้วนางของตน นิ้วมือที่ขาวสะอาดหมดจดยังมองไม่เห็นสิ่งแปลกปลอมใดๆ ทั้งนั้น แต่ตอนที่นางลองใช้นิ้วลูบคลำนิ้วนางที่มือข้างขวาดู นางก็รู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างที่วนเวียนอยู่ที่ปลายนิ้วของนาง กระแสวิญญาณที่กระเพื่อมขึ้นลงเป็นระลอกอยู่รอบๆ ทำให้หัวใจของนางเต้นตูมตาม ความรู้สึกที่นิ้วมือของจวินอู๋เสียยิ่งมาก็ยิ่งก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

และทันใดนั้นเอง แสงสีเงินก็สว่างวาบออกมาจากนิ้วนางของนางแล้วเปล่งแสงสว่างจ้าไปทั่วห้อง!

ดอกบัวสีขาวบริสุทธิ์ที่ถูกโอบล้อมด้วยแสงสีเงินยวงปรากฏขึ้นมาลอยอยู่กลางอากาศ

เหมียว! ดอกไม้หรือ! เจ้าแมวดำกะพริบตาปริบๆ มันมองไปที่จวินอู๋เสียด้วยความสงสัย

ไม่ใช่เจ้านายเพิ่งอธิบายให้มันฟังว่าภูติวิญญาณสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภท ประเภทหนึ่งคืออาวุธ ส่วนอีกประเภทคือสัตว์ร้ายหรอกหรือ

แต่ภูติวิญญาณของจวินอู๋เสียนั้นจำแลงร่างออกมาเป็น...ดอกบัวสีขาว

ภูติวิญญาณประเภทพฤกษา ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลย

อู๋เสียยกมือขึ้นเล็กน้อย ดอกบัวสีขาวนั้นก็ลอยหายเข้าไป ปรากฏเป็นวงแหวนบนนิ้วนางข้างขวาของนาง

จวินอู๋เสียยังไม่ทันได้ตรวจสอบดอกบัวนั้นอย่างละเอียด ก็มีเสียงเคาะประตูดังขัดขึ้นก่อน

จวินอู๋เสียสะบัดมือ จากนั้นแสงสีเงินนั้นก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

“เข้ามา”

จวินอู๋เย่าเปิดประตูเข้ามา เขายืนพิงประตูอย่างเกียจคร้านโดยถือถ้วยยาไว้ในมือข้างหนึ่ง

“ได้เวลากินยาแล้ว”