ตอนที่ 182 พลังของสำนักชิงอวิ๋น (4)
รถม้าของสำนักชิงอวิ๋นหยุดอยู่นอกวัง ทหารนอกวังดูเหมือนจะเตรียมพร้อมมาแล้ว พวกเขาเข้าแถวต้อนรับอยู่ที่ประตูวัง มั่วเฉี่ยนยวนสวมชุดมังกรยืนอย่างสง่าและใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ฉินอวี่เยียนลงมาจากรถม้า ใบหน้าที่งดงามของนางดึงดูดสายตาผู้คนมากมาย
“ยินดีต้อนรับคุณหนูฉิน” มั่วเฉี่ยนยวนกล่าวด้วยท่าทางอ่อนน้อมถ้อมตนโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นฮ่องเต้ เขากล่าวต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
เจียงเฉินชิงขมวดคิ้วและมองไปที่ฮ่องเต้ที่ยังหนุ่มอยู่ "เจ้าเป็นฮ่องเต้ของรัฐชีหรือ" ไม่มีความเคารพในน้ำเสียงนั้น
มั่วเฉี่ยนยวนไม่โกรธ ตอบด้วยรอยยิ้มว่า "อดีตฮ่องเต้พระวรกายไม่แข็งแรงจึงได้สละราชบัลลังก์ให้แก่ข้าเมื่อไม่นานมานี้ และตอนนี้ข้าก็คือฮ่องเต้ของรัฐชี"
"เจ้าคือมั่วเฉี่ยนยวนหรือ" เฉินชิงกล่าว
“ใช่”
ทันทีที่เจียงเฉินชิงได้ยิน ใบหน้าของเขาก็เย็นชาขึ้นมาทันที พลังวิญญาณในร่างกายของเขาเริ่มแผ่ขยายออกไปและความกดดันที่รุนแรงทำให้มั่วเฉี่ยนยวนเริ่มหายใจลำบาก
“ดูเหมือนว่าคำพูดของอวิ๋นเซียนจะเป็นความจริง เจ้าและยัยเด็กชั่วสกุลจวินนั่นรังแกลูกศิษย์สำนักชิงอวิ๋นของข้า”
ทันทีที่พูดจบเจียงเฉินชิงก็คิดจะลงมือทันที
ตอนที่ไป๋อวิ๋นเซียนแจ้งข่าวกลับไปยังสำนักชิงอวิ๋น นางเคยกล่าวไว้ว่าจวินอู๋เสียและองค์รัชทายาทมั่วเฉี่ยนยวนได้ร่วมมือกัน ตอนนี้เจียงเฉินชิงเชื่อคำพูดของไป๋อวิ๋นเซียนแล้วเมื่อเขาได้เห็นว่าบัลลังก์ของรัฐชีตกอยู่ในมือของมั่วเฉี่ยนยวน
“ผู้อาวุโส โปรดฟังข้าอธิบายก่อน จะมีผู้ใดในรัฐชีกล้าแตะต้องคุณหนูไป๋แม้แต่ปลายเล็บเล่า ที่คุณหนูไป๋แจ้งข่าวกลับไปที่สำนักชิงอวิ๋นนั้นมีเหตุผลจริงๆ แต่ไม่ใช่อย่างที่นางแจ้ง” มั่วเฉี่ยนยวนเหงื่อออกไปทั้งตัว และพยายามบังคับให้ตัวเองสงบลง
“ลุงเจียง ให้เขาพูดให้จบ” ทันใดนั้นฉินอวี่เยียนที่เงียบมาตลอดก็กล่าวห้ามเจียงเฉินชิง
เจียงเฉินชิงแค่นเสียงหึออกมาเบาๆ เก็บพลังวิญญาณที่กระจายออกไปกลับมา แต่ดวงตาคู่นั้นกลับเพ่งมองไปที่มั่วเฉี่ยนยวน
มั่วเฉี่ยนยวนตกใจจนเหงื่อโชกไปทั้งร่าง เขาคิดว่านิสัยของไป๋อวิ๋นเซียนนั้นรุนแรงมากแล้ว แต่เมื่อเทียบกับเจียงเฉินชิงที่เมื่อลงมือก็เอาชีวิตคนอย่างคนบ้าแล้ว ไป๋อวิ๋นเซียนนั้นถือว่าเป็นกระต่ายขาวตัวเล็กๆ เท่านั้น
ฉินอวี่เยียนก้าวออกมาหนึ่งก้าว บนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“ฝ่าบาทอย่าได้กังวล ลุงเจียงแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของอวิ๋นเซียนเท่านั้น หากเข้าใจอะไรผิด ก็อธิบายกันตั้งแต่เนิ่นๆ เสียจะดีกว่า” น้ำเสียงของฉินอวี่เยียนอ่อนโยนราวกับสายน้ำในหุบเขา ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสบายไปทั้งตัว
น้ำเสียงที่อ่อนโยนและคำพูดที่สมเหตุสมผลนั้นทำให้นางได้รับคำชื่นชมจากผู้คนที่อยู่ด้านข้างอย่างมากมาย
สมเป็นคุณหนูใหญ่แห่งสำนักชิงอวิ๋นจริงๆ ท่าทางที่ดูมีสง่าราศีและได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดีแบบนี้ สตรีทั่วไปไม่อาจเทียบได้จริงๆ
“ขอบคุณคุณหนูใหญ่ที่เมตตา จริงๆ แล้วเรื่องนี้...เกี่ยวข้องกับรัฐชีของข้า ทุกท่านเดินทางมาเหน็ดเหนื่อย เข้าไปพักในวังหลวงกันก่อนดีหรือไม่ เมื่อเห็นคุณหนูไป๋ทุกท่านก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง” มั่วเฉี่ยนยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจของเขากลับไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย
เป็นถึงฮ่องเต้ของรัฐหนึ่ง เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสของสำนักชิงอวิ๋น อยากตีก็ตีไม่ได้ อยากฆ่าก็ฆ่าไม่ได้ ยังจะมีหน้าอะไรให้พูดอีกหรือ
ฉินอวี่เยียนยิ้มและพยักหน้า "ถ้าอย่างนั้นจะดีมาก รบกวนด้วย"
"ที่ไหนกัน ที่ไหนกัน"
เมื่อเห็นฉินอวี่เยียนกล่าว ก็ไม่มีใครกล่าวอะไรอีก
เจียงเฉินชิงจ้องไปที่มั่วเฉี่ยนยวน "คิดว่าคนอย่างเจ้าก็คงทำอะไรออกมาไม่ได้ หากเข้าไปในวังหลวง แล้วพบว่าเจ้าไม่ซื่อสัตย์แม้แต่เล็กน้อย ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าสำนักชิงอวิ๋นของข้าไม่ใช่ใครจะรังแกได้ " หลังจากพูดจบ เจียงเฉินชิงก็เดินตามฉินอวี่เยียนเข้าวังหลวงทันที
มั่วเฉี่ยนยวนมองตามหลังคนของสำนักชิงอวิ๋น แผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่ความกังวลนั้น ไม่ได้ทำให้เขากลัวแม้แต่น้อย เขากัดฟันและมองแผ่นหลังที่หยิ่งยโสเหล่านั้น