เสียงสายลมพัดแผ่วผ่านสวนหินในพระราชวัง เสียงใบไผ่เสียดสีกันราวกระซิบบางเบา ดวงแก้วยืนอยู่ข้างสระน้ำใสจนนิ่งราวกระจก
นางทอดสายตาลงไปในน้ำ—เห็นเงาของตนสะท้อนออกมา แต่มันไม่ใช่เพียงใบหน้านาง
ในเงา…มีเงาอีกตนหนึ่งยืนซ้อนอยู่เบื้องหลัง
นางก้าวถอยไปครึ่งก้าว ใจเต้นแรง ก่อนที่เงานั้นจะหายไป
---
ในช่วงบ่าย เว่ยหลงได้รับคำสั่งจากองค์จักรพรรดิให้พานางราชทูตจากสยามไปเยี่ยมชมหอสมุดหลวง
มันคือเกียรติอันยิ่งใหญ่…แต่เขารู้ว่าเบื้องหลังคำสั่งนั้น มีบางอย่างมากกว่าความเมตตา
“ข้าเชื่อว่าราชทูตดวงแก้วจะมีความรู้บางอย่าง…ที่หอหลวงควรจะเก็บรักษา” จักรพรรดิกล่าวไว้เช่นนั้น
---
หอสมุดหลวงตั้งอยู่ด้านหลังเขตราชวัง เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยราชวงศ์ก่อน
ภายในเต็มไปด้วยคัมภีร์นับพัน เล่มหนา เล่มบาง จัดเรียงไว้ตามหมวดหมู่ที่มีเพียงจารึกโบราณเข้าใจ
เว่ยหลงพานางเข้าไปในห้องพิเศษชั้นในสุด—ห้องที่เรียกว่า “ห้องคำทำนาย”
“ที่นี่…คือจุดเริ่มต้นของทุกเงา” เขากล่าวเบา ๆ พลางมองนางอย่างจับสังเกต
ดวงแก้วมองรอบห้อง สายตาหยุดที่ผนังด้านหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยสัญลักษณ์วงกลมซ้อนกัน
มือของนางยื่นไปแตะสลักนั้น—และทันใดนั้น แสงสีน้ำเงินจากลูกแก้วจันทราที่นางห้อยอยู่ที่คอ...เปล่งออกมาจนทั้งห้องสว่างวาบ
ผนังเปิดออก เผยช่องทางลับเบื้องหลัง
เว่ยหลงตกตะลึง นี่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่แม้แต่กับราชวงศ์เอง
ดวงแก้วหันมาหาเขา สีหน้าสงบอย่างน่าประหลาด
“ข้ารู้แล้ว…ว่าเหตุใดจึงถูกส่งมาเมืองนี้”
“เหตุใด?” เว่ยหลงถามเสียงแผ่ว
นางยิ้มบาง ๆ
“เพราะเงานี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากแผ่นดินจีน...แต่มันเริ่มจากเลือดของสองแผ่นดินที่ถูกผูกไว้ในอดีต”