ตอนที่ 034

ตอนที่ 34 ซือซือ

ซือซือเป็นผู้หญิงที่ถึงแม้ว่าสภาพอากาศจะเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วแต่ก็ยังสวมเสื้อผ้าราวกับอยู่ในช่วงรับลมเย็นของกลางฤดูร้อน เธอได้แต่บ่นกับตัวเองตลอดที่ไม่ได้เกิดอยู่ประเทศญี่ปุ่น ไม่อย่างนั้นในวันที่หิมะตกจะใส่กระโปรงสั้นออกไปข้างนอกก็คงไม่โดนพ่อกับแม่ด่าเละแบบนี้

ถ้าดูจากลักษณะหน้าตา ซือซือจัดอยู่ในประเภทสาวหวาน แอ๊บแบ๊ว เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็เป็นสไตล์สาวญี่ปุ่นคิคุอาโนเนะ ก็คือจะมาเป็นสเต็ป จะมีเครื่องประดับที่เป็นเซ็ทเข้าชุดกันหลายชิ้น เวลาพูดก็มักจะดัดเสียง ต้องบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือเสื้อผ้าที่ใส่ เธอได้รับความนิยมจากชายหนุ่มที่โลกส่วนตัวสูงมากมาย

แต่เธอกลับไม่ถูกจริตกับชายหนุ่มที่โลกส่วนตัวสูง สิ่งที่เธอใฝ่ฝันคือให้ตนเองได้แต่งงานกับท่านประธานสุดโหดที่สร้างตัวขึ้นมาด้วยลำแข้งของตนเอง ถ้าจะให้ดีก็ขอให้พ่อและแม่เสียชีวิตทั้งคู่ ไม่มีพี่น้อง แม้แต่พวกญาติที่ยากจนสักคนก็ไม่มี ถ้าอายุต่ำกว่าสามสิบห้าก็ยิ่งดี แต่ว่าคนแบบที่เธอเฝ้ารอนั้นยังไม่ปรากฏตัวขึ้นในชีวิตจริง เธอก็ยังคงค้นหาต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย...

ซือซือกับจ้าวฉีทำงานอยู่บริษัทเดียวกัน ทั้งสองคนสนิทกันมาก มักจะออกไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ เหตุผลก็ธรรมดามาก ทั้งสองคนมีสไตล์ที่แตกต่างกัน ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนแย่งความสนใจไป ถือเป็นการเติมเต็มลักษณะพิเศษให้แก่กัน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาอพาร์ทเม้นต์ของจ้าวฉี เข้ามาในอพาร์ทเม้นต์อย่างคุ้นเคย ขึ้นลิฟต์ มือข้างซ้ายถือขนมถุงใหญ่ๆ หนึ่งถุง

ลิฟต์หยุดแล้ว เธอเดินมาถึงห้องประตูห้องของจ้าวฉี แล้วกดกริ่ง

ไม่นาน ก็ได้ยินเสียง ตึกตึกตึก ของรองเท้าแตะที่ดังมาจากหลังประตู ในตาแมวมีเงาคนเคลื่อนไหวไปมา ซือซือรีบชูมือสองนิ้วขึ้นตามสัญชาตญาณเหมือนตอนถ่ายเซลฟี่

"ฉีฉี ฉันเอง!”

มีเสียงปลดล็อกประตู ประตูเปิดออกแล้ว

"ผ...ผี!” ซือซือหันหลังกลับเตรียมวิ่งหนีก็ถูกจ้าวฉีดึงไว้จากด้านหลัง

"ผีเผออะไรกัน! รีบๆ เข้ามาข้างใน!”

จ้าวฉีดึงเธอที่ต่อสู้ไม่หยุดเข้ามาข้างในแล้วปิดประตู

ซือซือสังเกตดูจ้าวฉีด้วยความหวาดกลัวอยู่หลายรอบ ถึงมั่นใจว่าเธอไม่ใช่ผี

ตอนนี้เป็นเวลาช่วงบ่ายแล้ว จ้าวฉีกลับเหมือนเพิ่งตื่นนอน เผ้าผมยุ่งเหยิง ผ้าม่านก็ไม่เปิด ภายในห้องมืดสนิท ดังนั้นใบหน้าสีขาวของจ้าวฉีที่ยิ่งเพิ่มมาส์กหน้าสีขาวเข้าไปอีกจึงน่าตกใจมากขึ้นไปอีก

"ฉีฉี นี่เธอ..." ซือซือชี้ไปที่เธอ พูดไม่ออก

จ้าวฉีเกาหัว "อ้อ มัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาทะเลาะ จนลืมล้างหน้าไปเลย เธอหาที่นั่งไปเลยนะ ฉันไปล้างหน้าก่อนแล้วค่อยว่ากัน" พูดเสร็จ เธอก็หยิบเอาผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นก็ได้ยินเสียงจ๋อมจ๋อมของน้ำ

ทะเลาะ? ทะเลาะกับใคร? ผู้ช่วยเปี่ยวที่เพิ่งมาใหม่เหรอ?

ซือซือมีเครื่องหมายคำถามเต็มหัวไปหมด แต่ไม่ได้ตามเข้าไปถามถึงในห้องน้ำ

คอมพิวเตอร์ในห้องนอนยังคงเปิดอยู่ หน้าจอส่องแสงออกมา เธอจึงวางถุงขนมไว้ เปิดผ้าม่านในห้องออกจนหมด พร้อมทั้งเปิดหน้าต่างเพื่อรับลม ในห้องจึงสว่างขึ้นมา

"เมี๊ยว..."

พอเธอหันหลังกลับ ก็ได้มองเห็นเจ้าตัวขนปุกปุยฟูฟ่องนั่งอยู่ข้างๆ หมอนของจ้าวฉี มองดูเธอที่เป็นคนแปลกหน้าด้วยความประหลาดใจและระมัดระวังตัว

"เฮ้ เธอคงเป็นหลานหลานสินะ? น่ารักจริงๆ น่ารักกว่าในรูปอีก!” ซือซือไม่ได้มีความระวังตัวต่อเจ้าตัวน่ารักนี้เลย นัยน์ตามีรูปหัวใจลอยเต็มไปหมด และโผเข้าไปหาทันที

หลานหลานตกใจกระโดด และเดินถอยหลังไปอีกสองสามก้าว หดตัวขึ้น

"คิๆ ไม่ต้องกลัวนะ ฉันเป็นพี่ซือซือของหนูไง รอแป๊บหนึ่งนะ ฉันจะไปหยิบของขวัญมาให้!”

ซือซือหยิบเอาขนมมันฝรั่งรสซีฟู้ดออกมาจากในถุง แกะถุงขนม หยิบเข้าปากตัวเองก่อนสักสองสามชิ้น จากนั้นจึงส่งให้หลานหลานหนึ่งแผ่น

"มาเร็วหลานหลาน อร่อยนะ! มาหาพี่นี่! เมี๊ยวๆ!”

จ้าวฉีใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดหน้าเดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อเห็นจึงรีบห้ามทันที "อย่าเอาขนมรสเค็มขนาดนั้นให้มันกิน! ถ้ามันกินเกลือเยอะจะไม่ดี! เธอกินเองเถอะ!”

"ใส่ร้าย! เธอใส่ร้ายแน่ๆ!” ซือซือเอาแผ่นมันฝรั่งใส่เข้าปากอย่างรวดเร็ว พูดด้วยความขุ่นเคือง "เธอกลัวว่าฉันจะเอาหลานหลานไปถึงพูดแบบนี้ใช่ไหม!”

จ้าวฉีเอาหลักสูตรมือใหม่ที่จางจื่ออันปริ้นให้ออกมาให้เธอดู "เธอดูเองสิ"

เธอดูผ่านๆ ก็หมดความสนใจ "ยาวเกินไม่อ่าน! มีแต่พวกผู้ชายโลกส่วนตัวสูงถึงจะพูดว่านู้นไม่ได้นี่ไม่ได้...เอ้อ ฉีฉี เมื่อกี้เธอบอกว่าเธอทะเลาะกับใครนะ?”

"บนอินเทอร์เน็ต ไม่รู้จัก" จ้าวฉีกลับมานั่งที่หน้าคอมพิวเตอร์ใหม่ กดรีเฟรชหน้าเว็บ จากนั้นก็กดแป้นพิมพ์รัวๆ

"ไม่นะ! ฉีฉีเธออย่ากลายเป็นสาวโลกส่วนตัวสูงสิ! ฉันเคยได้ยินมาว่ามีแค่หนุ่มสาวโลกส่วนตัวสูงเท่านั้นที่จะชอบทะเลาะกันในโลกโซเชี่ยล" ซือซือพูดด้วยความเป็นห่วง

"ประเด็นคือฝั่งตรงข้ามทำตัวน่าโมโหมาก เธอรู้ไหม" จ้าวฉีพิมพ์ยาวๆ ไปหนึ่งแถว กดแสดงความคิดเห็น จากนั้นจึงมานั่งติดริมเตียง

อุ้มหลานหลานขึ้นมากอดไว้บนตัก

"เกิดอะไรขึ้น?” ซือซือ เคี้ยวมันฝรั่งไปด้วย ถามไปด้วย

จ้าวฉีเล่าเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดหนึ่งรอบ

หลังจากที่จ้าวฉีโพสต์กระทู้โจมตีกลับไป กระทู้นั้นก็กลายเป็นประเด็นร้อนในเว็บทันที แน่นอนว่าก็เพราะมีคุณงามความดีของรูปเธอด้วย โลกอินเทอร์เน็ตไร้พรมแดนนี้มีชายหนุ่มโลกส่วนตัวสูงเป็นหลัก จึงขาดแคลนทรัพยากรสาวสวย

หน้าม้าของร้านฝานซิงก็มาปรากฏแค่อยู่ในกระทู้ที่ถามว่าร้านขายสัตว์เลี้ยงร้านไหนดี ดังนั้นจนถึงวันนี้ตอนเช้าจึงเพิ่งจะตอบกลับมา แต่ว่าสถานการณ์เลวร้ายลงจนไม่สามารถแก้ไขได้ คนที่เคยถูกร้านฝานซิงหลอกก่อนหน้านี้ก็ทยอยกันออกมาต่อว่า ยิ่งมีพวกจีนมุงเข้ามาผสมโรง หน้าม้าของร้านฝานซิงหาเหตุผลมาไม่ได้ ก็เริ่มพูดโกหกปลิ้นปล้อน ผู้คนก็เริ่มประณามด่าว่า ดังนั้นก็ยังกลายเป็นความโกรธแค้นในวงกว้าง

เนื่องจากเป็นวันสุดสัปดาห์ คนที่ว่างงานก็มีมากกว่าปกติ จำนวนความคิดเห็นและคนให้ห้องสัตว์เลี้ยงจึงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สูงกว่าห้องแลกเปลี่ยนสิ่งของ และห้องรวมมิตร ชื่อไอดีเหล่านั้นของหน้าม้าร้านฝานซิงที่ถูกจ้าวฉีกล่าวถึงได้กลายเป็นเป้าที่ผู้คนต่างเข้าโจมตี นอกจากนี้ยังมีชื่อผู้ใช้อื่นที่น่าสงสัยว่าจะเป็นของพวกเขา

ประเด็นสำคัญตอนนี้ก็คือทั้งสองฝ่ายต่างบอกว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นหน้าม้า และก็ไม่มีหลักฐานมายืนยัน ผู้เล่นทั่วไปจะไม่สามารถดูที่อยู่ IP ของกันและกันได้ ผู้ดูแลเว็บไซต์สามารถดูได้ แต่ตัวสุดท้ายของที่อยู่ IP ก็จะถูกแทนที่ด้วยเครื่องหมายดอกจัน มีเพียงผู้จัดการเว็บที่สามารถดูได้หมด แต่ตอนนี้เรื่องคงยังไม่ต้องถึงมือผู้จัดการเว็บไซต์

ผลข้างเคียงก็คือร้านขายสัตว์เลี้ยงมหัศจรรย์ชื่อนี้ที่ถูกพูดถึงครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่ถกเถียงกันอยู่นั้นก็มีกลุ่มจีนมุงที่แปลกประหลาดถามอยู่ตลอดว่าสรุปแล้วร้านขายสัตว์มหัศจรรย์ตั้งอยู่ที่ไหน และก็มีกลุ่มจีนมุงจิตใจดีที่เข้ามาตอบ

"ไอ้หยา จำเป็นต้องตั้งใจขนาดนี้ไหม คิดเสียว่าพวกเขาเป็นกลุ่มหมาบ้ากลุ่มหนึ่ง ไม่ต้องไปสนใจก็จบแล้ว" ซือซือไม่เข้าใจว่าทำไมจ้าวฉีต้องตั้งใจขนาดนี้

ถ้าจะให้พูดว่าทำไม จ้าวฉีคิดว่าเป็นเพราะได้รับอารมณ์โกรธมาจากผู้ช่วยเปี่ยวที่บริษัท ต้องหาช่องทางระบายอย่างเร่งด่วน “ในเมื่อยังไม่สบายใจ ฉันก็จะหยุดไม่ได้!” เธอพูดอย่างแน่วแน่

ซือซือมองดูเวลา จึงเตือนว่า "แต่คืนนี้พวกเรานัดกันแล้วว่าจะไปร้านกาแฟที่เพิ่งเปิดใหม่"

จ้าวฉีโบกมือพูด "เธอไปเถอะ ฉันไม่ว่าง"

ซือซือร้อนใจ ร้านกาแฟร้านนั้นจัดร้านแบบสวยโอ่อ่า รอบๆ ร้านก็มีบริษัทใหญ่ๆ หลายบริษัท ไม่แน่ว่าอาจจะได้เจอประธานบริษัทสุดโหดอะไรแบบนี้ อย่างน้อยลูกคนรวยรุ่นหนุ่มสาวก็มารวมตัวกันนี่นา ไปด้วยกันสองคนยังสามารถเพิ่มอัตราการชำเลืองมองและอัตราความสำเร็จขึ้นอีก ถ้าหากว่าบุกเดี่ยวแล้วล่ะก็ เธอก็กลัวๆ อยู่บ้าง

เธอกลอกตาไปมา แล้วบอกข้อเสนอ "ฉีฉี เธอยังหาหลักฐานที่ชัดเจนไม่เจอใช่ไหม? ฉันมีวิธี"