ตอนที่ 035

ตอนที่ 35 หนุ่มขี้อายฝ่ายเทคนิคซ่อมคอมพิวเตอร์

"วิธีอะไร?” จ้าวฉีไม่ได้คิดว่าเธอจะมีวิธีที่ดีอะไร แต่ว่าก็ลองฟังดูสักหน่อย

"รอแป๊บหนึ่ง" ซือซือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดรายชื่อ หาหมายเลขโทรศัพท์หมายเลขหนึ่ง แล้วกดโทรออก

"ฮัลโหล! พี่เสี่ยวหลิว!”

เมื่อปลายสายรับโทรศัพท์ เสียงของซือซือก็ดัดเป็นเสียงสองที่ทั้งนุ่มนวลและอ่อนหวานโดยอัตโนมัติ

“ใช่ค่ะ พี่เสี่ยวหลิว ซือซือเอง!”

"อ้อ...ใช่แล้ว พี่เสี่ยวหลิว มีเรื่องหนึ่งอยากให้พี่ช่วย...ไม่ค่ะ คอมพิวเตอร์ของฉันไม่ได้พัง คืออย่างนี้ พี่รู้จักเว็บหอดูทะเลของเมืองเราอยู่ใช่ไหมคะ? มีไอดีในเว็บนั้นสี่ห้าไอดีด่าฉัน โกหกฉัน พี่เสี่ยวหลิวช่วยฉันหาที่อยู่ของพวกเขาออกมาให้ฉันได้ไหมคะ? อ้อ...ฉันไม่ได้จะทำอะไร แค่อยากรู้ว่า...ผิดกฎหมายไหม?”

สีหน้าของซือซือเย็นชาลง "งั้นก็แสดงว่าพี่ทำไม่ได้ใช่ไหมคะ? งั้นฉันไปให้พี่อาเหรินช่วยก็ได้ค่ะ!”

ปลายสายมีเสียงวิงวอน ลุกลี้ลุกลน

"อ้อ? ได้ค่ะ ฉันจะลองให้โอกาสพี่ดูสักครั้ง อีกสักพักฉันจะส่งไอดีพวกนั้นไปให้พี่นะคะ แค่นี้ก่อนนะคะ!”

จ้าวฉีมองดูเธออย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี "ใครเหรอ?”

ซือซือเปลี่ยนเป็นพูดด้วยน้ำเสียงปกติ "จะใครล่ะ ก็เสี่ยวหลิวฝ่ายเทคนิคไง"

"อ๋อ" จ้าวฉีคิด ภาพทรงจำที่มีต่อคนคนนี้มีไม่มาก "เขาสนใจในตัวเธอ?”

"แค่ผู้ชายขี้อายคนหนึ่ง ไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหน" ซือซือเบะปากเหยียดหยาม จะจีบฉันยังไม่กล้าพูดต่อหน้า ส่งอีเมลยังส่งในนามชื่อแผนกมาให้ฉันเลย"

"เธอก็อย่าไปให้ความหวังเขาเล่นๆ น่าสงสารออก" จ้าวฉีกล่าวโน้มน้าว

"ฉันจะไปหลอกให้ความหวังเขาได้ยังไงล่ะ ถ้าคอมพัง ฉันก็ยังให้เขาซ่อมให้อยู่ดี" ซือซือหัวเราะอย่างชั่วร้าย

ไม่นาน โทรศัพท์ของซือซือก็ดังขึ้น ที่อยู่ไอพีของไอดีเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาเสร็จสรรพ ล้วนเป็นสถานที่เดียวกัน และที่อยู่ของไอพีเหล่านั้นก็ถูกปักหมุดไว้บน กูเกิ้ลแมพ ของเมือง บอกถึงถนนและเขตที่อยู่ไว้อย่างแม่นยำ

"ฮ่า! เก่งขั้นเทพ!” จ้าวฉีแลบลิ้น "เขามีความสามารถขนาดนี้ เธอยังไม่รีบคว้าไว้อีก? อย่ามัวแต่ฝันกลางวันทั้งวันถึงประธานบริษัทอะไรนั่นอยู่เลย!”

"ก็เพราะว่าเป็นแบบนี้ถึงทำให้คนรังเกียจใช่ไหมล่ะ? ถ้าผู้ชายขี้อายคนนี้เป็นคนที่มีนิสัยเป็นผู้ตามก็น่าสมเพชเลยละ..." ซือซือพูดด้วยใบหน้าเศร้า

เธอรับโทรศัพท์

"ขอบคุณพี่เสี่ยวหลิวมากนะคะ ฉันมองคนไม่ผิดจริงๆ ...อ้อ ได้ งั้นวันหลังฉันจะให้พี่เลี้ยงข้าวฉัน แมคพิซเคพวกนั้นไม่เอานะ...อืม ฉันวางสายแล้วนะคะ"

จ้าวฉีคิดว่าตนเองฟังผิดไป ไม่เข้าใจตรรกะแบบนี้ "เขาช่วยเหลือเธอ ยังต้องให้เขาเลี้ยงข้าว?”

"แน่ล่ะสิ นี่ฉันให้โอกาสเขาได้กินข้าวกับฉันเลยนะ! เขาสิต้องขอบคุณฉัน!” ซือซือทำท่าทาง "เธอคิดว่าไงล่ะ"

"แมคพิซเคคืออะไร?”

"ก็แมคโดนัลด์ พิซซ่า กับเคเอฟซีไง พวกผู้ชายขี้อายพอไปเลี้ยงข้าวก็ชอบเลี้ยงแต่อะไรพวกนี้" ซือซือรีบพูดเร่ง "ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้แล้ว รีบจัดการเรื่องของเธอให้เสร็จ เรายังต้องไปร้านกาแฟนะ!”

จ้าวฉีส่ายหน้าอย่างจนปัญญา "ช่างเถอะ ไม่ยุ่งเรื่องของเธอแล้ว"

เธอค้นหาใน กูเกิ้ลแมพ ‘ร้านสาขาย่อยขายสัตว์เลี้ยงฝานซิง’ แสดงผลการค้นหาออกมาสองที่ ร้านหนึ่งเป็นร้านขายตรงฝานซิงที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง อีกร้านหนึ่งเป็นร้านสาขาย่อยฝานซิงที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมือง เมื่อเทียบกับแผนที่บนโทรศัพท์ของซือซือ ที่อยู่ของหน้าม้าจะอยู่ที่ร้านสาขาย่อยฝานซิง

ตอนนี้หลักฐานแน่นหนาแล้ว

หลังจากที่จัดการกับข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้นิดหน่อย เธอก็ส่งหลักฐานเหล่านี้ในรูปแบบของรูปภาพไปบนเว็บ รวมถึงที่อยู่ไอพีกับตำแหน่งแผนที่ที่สอดคล้องกันกับไอดีหน้าม้าพวกนั้น

หน้าเว็บก็ลุกเป็นไฟทันที จำนวนการแสดงความคิดเห็นยิ่งทวีคูณอย่างบ้าคลั่ง!

[โอ้! นึกไม่ถึงเลยว่าสาวสวยจะเป็นนักเทคนิคด้วย?]

[มีทั้งเหตุผลมีทั้งหลักฐาน ทำให้น่าเชื่อถือ!]

[เป็นหน้าม้าของร้านฝานซิงจริงๆ ด้วย ไม่ผิดจริงๆ!]

[ฝานซิงรีบออกมาจัดการเรื่องนี้โดยด่วน! (ยิ้มเยาะ) ]

[ไชน่า เทเลคอมคงต้องบอกว่าฉันยอมแล้ว!]

ยังมีบางความคิดเห็นที่ตอบกลับด้วยความใจเย็นรอบคอบ [นี่...เอาที่อยู่ไอพีและที่อยู่ของคนอื่นมาเผยแพร่ตามอำเภอใจ แบบนี้ไม่ดีมั้ง?]

[ใช่ นี่ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเหรอ?]

จ้าวฉีตอบกลับ [พวกเขาเป็นนิติบุคคล ไม่ใช่บุคคลธรรมดา ถ้าเกิดเป็นของบุคคลธรรมดาฉันก็ไม่เผยแพร่หรอกไอพีเป็นไอพีของนิติบุคคล ที่อยู่ก็เป็นที่อยู่ของนิติบุคคล]

มีคนมากมายอยู่ทีมจ้าวฉี [มีอะไรจะเผยแพร่ไม่ได้ล่ะ? กล้าทำผิดยังจะไม่ยอมให้ใครตำหนิอีกเหรอ?]

[เป็นลูกผู้ชายก็ต้องออกมายอมรับผิด อย่าหดหัวอยู่ในกระดองเหมือนเต่าแบบนี้!]

[ร้านฝานซิงรีบออกมาแสดงความบริสุทธิ์สิ ทำไมยังหดหัวอยู่?]

[ได้ข้อสรุปแล้วนี่? ผู้ดูแลเว็บไซต์ทำไมยังไม่ออกมาจัดการกับไอดีหน้าม้าพวกนั้นอีก?]

พูดแล้วก็แปลก ตั้งแต่หลังจากที่เกิดเรื่องร้ายแรงมากขึ้น ผู้ดูแลห้องสัตว์เลี้ยงก็ดูเหมือนจะหายไปกันหมด

[ผู้ดูแลเว็บคงไม่ได้เงินจากร้านฝานซิงไปหรอกนะ?]

[ก็ไม่แน่!]

[ขัดขวางหนทางร่ำรวยก็เท่ากับเป็นฆาตกรฆ่าบุพการี...]

ซือซือกำลังเร่งให้จ้าวฉีพาไปร้านกาแฟอีกครั้ง จ้าวฉีจึงปิดหน้ากระทู้ของตนลง มองดูหน้าหลักของห้องสัตว์เลี้ยงผ่านๆ มีคนตั้งกระทู้ขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง ประณามร้านฝานซิง หนึ่งในนั้นมี ‘ถูกร้านฝานซิงหลอกลวงแล้ว ทุกคนไปที่ร้านฝานซิงเพื่อรักษาสิทธิ์ด้วยกันเถอะ’

"คงไม่เป็นเรื่องใหญ่อึกทึกหรอกนะ?” พอเรื่องมาถึงวันนี้ จ้าวฉีก็กลัวอยู่บ้าง

เธอไม่ทันได้ดูละเอียดมาก วางอาหารและน้ำไว้ให้หลานหลาน หลังจากที่แต่งหน้าเพิ่มนิดหน่อย ก็ถูกซือซือลากออกจากบ้านตรงดิ่งไปที่ร้านกาแฟที่เปิดใหม่ร้านนั้น

วันต่อมา เช้าวันอาทิตย์ เป็นวันที่สบายๆ อีกวันหนึ่ง

การเปิดร้านของตัวเองนั้นไม่มีเรื่องดีๆ อย่างพวกปิดเทอมฤดูหนาว ปิดเทอมฤดูร้อน วันหยุดสุดสัปดาห์อะไรหรอก หนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวัน ล้วนเป็นเวลาเปิดร้าน โดยเฉพาะวันเสาร์วันอาทิตย์ ยิ่งวันจันทร์ยิ่งเป็นช่วงที่การค้าขายคึกคัก ด้วยเหตุนี้ ยามปกติตามถนนคนเดินในเวลากลางวันจึงมีแต่คนแก่และเด็กซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อต่ำ มีเพียงช่วงสุดสัปดาห์ที่จะเป็นช่วงเวลาของกลุ่มวัยรุ่น

จางจื่ออันก็เป็นกลุ่มวัยรุ่น ไม่ต้องพูดถึงช่วงมหาลัย ในช่วงทำงานถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์ก็ต้องนอนขี้เกียจอยู่แล้ว หลังจากที่กลับมาเปิดร้านขายสัตว์เลี้ยงที่เมืองปินไห่ เขาก็ชินกับการต้องตื่นเช้าไปแล้ว พอถึงเวลาหกโมงเช้าจะทำอย่างไรก็นอนไม่หลับแล้ว

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเดินลงมาถึงชั้นล่าง วันนี้มีเวลาว่างซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยาก ไม่ต้องจัดการเรื่องเก็บมูลของสัตว์ทั้งสามตัวแล้ว ยังรู้สึกเหงานิดหน่อย

แต่ว่าก็ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกเยอะ

อันดับแรกต้องถือโอกาสที่สัตว์เลี้ยงมีน้อย ทำความสะอาดถูพื้นทุกซอกทุกมุม หลังจากนั้นก็ฆ่าเชื้อโรค เรื่องนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ

หลังจากนั้นก็เช็ดกระจก รดน้ำให้ต้นจันทน์

จากนั้นก็เอาของใช้สัตว์เลี้ยงและเครื่องบริโภคของสัตว์เลี้ยงที่ขายไปแล้วมาเติมให้เต็ม ของพวกนี้เป็นของที่พ่อและแม่ได้ซื้อไว้ก่อนแล้ว ในห้องเก็บของยังเหลืออีกเยอะ ช่วงนี้จึงยังไม่ต้องซื้อ

สุดท้าย เขาเอาชั้นโชว์ที่อยู่ในห้องเก็บของชั้นสองลงมาพร้อมกับอีกสามชั้นที่ว่างอยู่ก่อนหน้านี้ มาจัดเรียงใหม่ จัดให้ส่วนแสดงสัตว์เลี้ยงเป็นรูปตัวยู

งานเหล่านี้เขาเป็นคนทำคนเดียวทั้งหมด ต้องเป็นทั้งเถ้าแก่ทั้งพนักงาน ที่จริงแล้วก็เหนื่อยกว่าตอนทำงานบริษัทไม่น้อย แต่ว่าข้อดีก็คือความกดดันน้อย ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องคอยดูสีหน้าของเถ้าแก่ พูดอีกอย่างหนึ่งคือถึงเหนื่อยกาย แต่สบายใจ

การอยู่ใกล้ชิดกับพวกสัตว์เลี้ยงซื่อๆ ตลอดเวลา มนุษยสัมพันธ์ก็เปลี่ยนเป็นใสบริสุทธิ์ ไม่ต้องคอยคิดเรื่องต่อสู้ด่าทอกันในสำนักงาน ไม่ต้องคอยกังวลกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง ทุกคืนพอหัวถึงหมอนก็นอนหลับสบาย มิน่าล่ะหลายๆ คน จึงมีความฝันที่อยากจะเปิดร้านขายสัตว์เลี้ยงสักร้าน

พอจัดเก็บทุกอย่างเสร็จ เหงื่อเขาก็ไหลออกมา แต่ความรู้สึกที่มีเหงื่อไหลนั้นดีมากๆ เลยทีเดียว เพราะเป็นเหงื่อที่ไหลเพื่อตนเอง ไหลเพื่อร้านของตน ไหลเพื่อครอบครัวของตน ยังจะมีอะไรที่วิเศษไปกว่านี้อีก?