ตอนที่ 60 เรื่องที่น่าประหลาดใจ
ตอนเช้า เสี่ยวฉินไช่ยังคงแวะมาให้อาหารเจ้าหนูแฮมสเตอร์เหมือนเช่นเคย ขณะเดียวกันเธอก็เริ่มสนใจเจ้ากระต่ายหูตกด้วย ดูท่าทางแล้วเหมือนเธอจะชอบสัตว์เลี้ยงที่ ‘ตัวเล็ก’ ...หรือถ้าจะพูดให้ถูกกว่านี้ก็คือชอบสัตว์ตัวเล็กๆ ที่มีฟันหน้าสองซี่
จางจื่ออันมองดูฟันหน้าสองซี่ของเสี่ยวฉินไช่ที่อยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนฟันแล้วหัวเราะกับตัวเองอยู่เงียบๆ
ช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับตอนที่เสี่ยวฉินไช่ออกจากร้านไป ซุนเสี่ยวเมิ่งก็ขับรถผ่านมาหยุดอยู่ตรงข้างถนน
จางจื่ออันไม่รอให้เธอถาม เดินไปข้างหน้าต่างของรถเธอ แกล้งตีหน้าเศร้าอยู่ใกล้ๆ
"เสี่ยวเมิ่งจ๋า เมื่อคืนวานฉันนอนไม่ค่อยหลับ เธอคิดดูนะตอนนี้เราก็เป็นเหมือนเพื่อนกัน เธอจะใจไม้ไส้ระกำสั่งให้เพื่อนไปทำความสะอาดได้ลงคอเหรอ? เรื่องที่เราพนันกันไว้ ฉันว่าก็..."
“จะให้เป็นโมฆะเหรอ? หุบปากไปเลย!” ซุนเสี่ยวเมิ่งปฏิเสธทันที "ถ้าภายในเจ็ดวันนี้ ยังขายสัตว์เลี้ยงทั้งเจ็ดตัวพวกนั้นไม่ได้ วันจันทร์หน้าเจ็ดโมงเช้า นายก็ไปรออยู่หน้าคลินิกของฉันแต่โดยดี ฉันเตรียมทั้งชุด ไม้กวาด ไม้ถูกับน้ำยาฆ่าเชื้อไว้ให้นายหมดแล้ว!”
เขารอประโยคนี้อยู่ รีบถามกลับทันที "แล้วถ้าฉันขายได้..."
"ถ้านายขายได้ ฉันก็จะเลี้ยงข้าวเที่ยงนายหนึ่งอาทิตย์ ไม่กลับคำแน่นอน!” ซุนเสี่ยวเมิ่งสวมแว่นกันแดด พูดอย่างมั่นใจ
"ดี แค่มีคำพูดนี้ของเธอก็พอแล้ว" จางจื่ออันมั่นใจเกินร้อย ตอนนี้เขาขายได้สี่ตัวแล้ว เหลืออีกหกวันกับการขายให้ได้สามตัวเป็นเรื่องง่ายอยู่แล้ว
ท่าทีของเขาที่เปลี่ยนจากความเย่อหยิ่งเป็นว่าง่ายทำให้เธอสงสัย มองดูนาฬิกา ยังเป็นเวลาเช้าอยู่ และก็ไม่มีลูกค้านัดตอนเช้า เลยว่าจะลงรถไปดูสักหน่อย
จางจื่ออันชี้ไปยังประตูร้านที่ล็อกอยู่ “ปิดร้านชั่วคราว ฉันจะออกไปข้างนอกสักหน่อย ถึงยังไงเช้าขนาดนี้ก็ไม่มีลูกค้ามาอยู่ดี”
ซุนเสี่ยวเมิ่งหมดคำจะพูด “นายก็เป็นซะยังงี้ สามวันจับปลาสองวันตากแห* ทำๆ หยุดๆ แล้วยังอยากจะเปิดร้านขายสัตว์เลี้ยงอีก? การเปิดร้านเป็นของตัวเองเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ฉันว่าตอนนี้ยังไม่สายที่จะหางานทั่วๆ ไปทำนะ”
จางจื่ออันหยักไหล่ยิ้มโง่ๆ
เธอโบกมือลา สตาร์ทรถออกไป
จางจื่ออันเพียงแค่อยากพูดหยอกเธอแก้กลุ้ม ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงตั้งหน้าตั้งตารออาหารเที่ยงเจ็ดวันที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ แต่ว่าตอนนี้ต้องทำอาหารให้ฟีน่า ออกไปทานข้าวข้างนอกแล้วก็ยังต้องกลับมาทำ ยุ่งยากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
คนอื่นอาจจะรู้สึกว่าเธอพูดเยาะเย้ย แต่เขารู้ดีว่าที่เธอพูดมันเป็นเรื่องจริง คำพูดหยาบคายแต่มีเหตุผล เธอเป็นคนที่อยู่ในอาชีพสายนี้ ได้เห็นร้านขายสัตว์เลี้ยงหลายร้านที่เปิดร้านและปิดตัวลง ร้านขายสัตว์เลี้ยงหน้าใหม่กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่ปิดตัวลงภายในหนึ่งปี ถ้าตัดสินใจว่าจะปิดร้านอยู่แล้ว ก็รีบๆ ปิดแล้วหาลู่ทางใหม่ไว้แต่เนิ่นๆ จะดีกว่า
เพียงแต่ว่าเธอไม่เข้าใจเขาทั้งหมด ถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่มีความสามารถ แต่ยังมีสองผู้ช่วยที่ทรงพลัง ถ้าไม่มีซิงไห่ที่ทำให้ลูกค้าคนแรกเข้าร้าน เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะประคับประคองร้านไปได้สักเท่าไหร่ และฟีน่าก็ทำให้เขามองเห็นอนาคตอันรุ่งเรืองของร้านในวันข้างหน้า
บุญคุณต้องทดแทน เรื่องที่สัตว์เลี้ยงต้องตอบแทนคือทำให้มนุษย์ซาบซึ้ง แต่เมื่อมนุษย์ได้รับสิ่งตอบแทนจากสัตว์เลี้ยงแล้วจะแกล้งโง่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้หรือ? คนแบบนี้ยังนับว่าเป็นมนุษย์อยู่เหรอ? ชาติหน้าไปเกิดเป็นแมลงสาบเถอะ ไม่คู่ควรกับคำว่า ‘มนุษย์’ สองพยางค์นี้เลยสักนิด!
ซิงไห่ชอบเล่นซ่อนหา ถึงแม้เขาจะเหนื่อยก็ต้องพามันเล่น ส่วนฟีน่าชอบสิ่งของที่ระยิบระยับ...ดังนั้นวันนี้เขาจึงปิดร้านเตรียมตัวไปร้านขายหยกขายไข่มุกที่อยู่ใจกลางเมืองแต่เช้า ถึงจะเสียลูกค้าไปสักหน่อยก็ไม่เป็นไร
แต่เขามีประสบการณ์มาเยอะแล้ว จึงเขียนติดประตูไว้ว่า ‘ส้วมเต็ม เจ้าของร้านปวดถ่ายหนัก จึงออกไปหาห้องน้ำ คุณลูกค้าโปรดรอสักครู่’
เขาคงไม่สบายใจเป็นแน่หากต้องทิ้งฟีน่ากับซิงไห่ไว้ในร้าน ดังนั้นจึงเข้าเกม ‘นักล่าสัตว์เลี้ยง’ เอาพวกมันใส่เข้าไปในคอกสัตว์เลี้ยง ที่จริงแล้วซิงไห่ก็สามารถออกจากร้านไปกับเขาได้แต่ซิงไห่กลัวคน ไม่อยากไปในที่ที่มีคนเยอะๆ ส่วนฟีน่านี่ก็ไม่มีมนุษย์คนไหนอยู่ในสายตานางอยู่แล้ว แต่ระดับความประทับใจของมันยังมีไม่มากพอ เกมแนะนำว่ามันไม่สามารถออกจาก ‘วัง’ ได้ (หมายความว่าบริเวณพื้นที่ของร้าน)
เกมนี้มีคอกสัตว์เลี้ยงให้ทั้งหมดสิบคอก แบ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิตอยู่จริงกับสัตว์เลี้ยงเสมือนจริงอย่างละห้าคอก ตอนนี้คอกสัตว์เลี้ยงเสมือนจริงถูกยึดไปแล้วสองคอก คอกของสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิตอยู่จริงยังคงว่างเปล่าทั้งหมด
จางจื่ออันสังเกตเห็น ด้านหลังคอกสัตว์เลี้ยงที่กำลังส่องแสงสว่าง ยังมีคอกสัตว์เลี้ยงที่ไม่ส่องแสง เมื่อกดเข้าไปก็แสดงคำว่า ‘ยังไม่ปลดล็อก’
"ผู้ชี้แนะ คอกสัตว์เลี้ยงใช้ได้แค่สิบคอกนี้เหรอ?” เขาถาม
ผู้ชี้แนะ : ทางเกมของเรายอมรับว่าให้คอกสัตว์เลี้ยงได้แค่สิบคอก ถ้าผู้เล่นจับสัตว์เลี้ยงเชื่องๆ ที่เป็นระดับมหากาพย์หรือสูงกว่าได้ ก็จะสามารถปลดล็อกคอกสัตว์เลี้ยงอิสระได้เป็นพิเศษ ซึ่งคอกสัตว์เลี้ยงอิสระจะจัดสรรได้ด้วยตนเอง
“เชื่องหมายความว่าอะไร?” เขาถามอีก
ผู้ชี้แนะ : ระดับความประทับใจถึงระดับรักใคร่ฉันมิตรหรือมากกว่า
“แต่ระดับความประทับใจของซิงไห่ก็ถึงระดับรักใคร่ฉันมิตรแล้ว ทำไมยังไม่ปลดล็อกให้ฉันอีก? หรือว่ามันไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงระดับมหากาพย์”
จะคิดยังไงก็เป็นไปไม่ได้ กระทั่งฟีน่าที่ชอบทำเรื่องเหลือเชื่อยังเอ่ยปากยอมรับด้วยปากของตัวเองว่าซิงไห่เป็นคู่ต่อสู้ที่พอฟัดพอเหวี่ยงได้ และจากสายตาที่ชอบเหยียดหยามของฟีน่า แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของสิ่งที่มันพูดนั้นล้วนถูกต้องทั้งหมด
เขากดเข้าไปยังหน้าลักษณะพิเศษของซิงไห่
ชื่อเรียก : แมวนำโชค
ระดับความล้ำค่า : ไม่ระบุ
อัพเดทลักษณะเฉพาะ : เปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี แม้อยู่ในสถานะวิกฤตก็สามารถพลิกให้กลายเป็นดีได้ ปลอบประโลมยามผิดหวัง!
ปลดล็อกประวัติที่มา : (กดเพื่อดูรายละเอียด)
ปลดล็อกชื่อจริง : แมวทฤษฎีควอนตัมของแอร์วิน!
ไม่ใช่ระดับมหากาพย์จริงๆ ด้วย คำว่า ‘ไม่ระบุ’ นี่มันคืออะไรกัน!
ผู้ชี้แนะ : ในรายชื่อของสัตว์เลี้ยงที่ทางเราเสนอให้ผู้เล่นจับได้นั้น ไม่มีแมวทฤษฎีควอมตัมของแอร์วินอยู่ในรายชื่อ ดังนั้นจึงไม่สามารถพิจารณาระดับของมันได้
"ขี้โกงจริงๆ !”
เขายังกดเข้าไปในหน้าลักษณะพิเศษของฟีน่า
ชื่อเรียก : แมวเรียกทรัพย์
ระดับความล้ำค่า : ระดับมหากาพย์/ในตำนาน
ลักษณะพิเศษ : วสันตฤดูมาเยือนแล้ว หากข้ายังไม่ส่งเสียงก่อน แมวตัวใดจะกล้าส่งเสียง!
ประวัติที่มา : ยังไม่ปลอดล็อก
ชื่อจริง : ยังไม่ปลดล็อก
"ฟีน่านี่ถือว่าเป็นระดับมหากาพย์เลยใช่ไหม?” เขาถาม
ผู้ชี้แนะ : ใช่จ้า มันเป็นแมวเรียกทรัพย์ระดับสูงที่สุด
"ระดับสูงสุด? หมายความว่าแมวเรียกทรัพย์ไม่ได้มีแค่ฟีน่า?” เขาอึ้ง เขาคิดว่าแมวเรียกทรัพย์มีเพียงตัวเดียวเท่านั้น
ผู้ชี้แนะ : ในการเรียกชื่อทั่วไปที่เหมือนกันสามารถครอบคลุมถึงสัตว์เลี้ยงที่ไม่เหมือนกันจำนวนหนึ่งได้ มีเพียงแค่ชื่อจริงที่จะมีเพียงหนึ่งเดียว อย่างแมวทฤษฎีควอนตัมของแอร์วินก็ไม่ได้เป็นแมวนำโชคที่มีเพียงตัวเดียว
จางจื่ออันครุ่นคิด ช่างเถอะ ไม่คิดเรื่องพวกนี้แล้ว เดินไปดูไปดีกว่า เกมนี้ดูจะเหมือนจะซับซ้อนสักหน่อย การจะจับสัตว์เลี้ยงได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต่อไปอาจจะจับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นไม่ได้ รักษาตัวที่มีอยู่เถอะ
ไม่ว่าจะยังไง ระดับความประทับใจของฟีน่าก็ต้องรีเฟรชอย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่เพื่อความอิ่มอกอิ่มใจของเขา ไม่ใช่แค่เพื่อปลดล็อกคอกสัตว์เลี้ยงให้มากขึ้นเท่านั้น แต่เพื่อความพึงพอใจในความปรารถนาของฟีน่าด้วย
เขาเป็นคนเดาวิธีรีเฟรชระดับความประทับใจของซิงไห่ออก แต่พอปรากฏตัวฟีน่าก็พูดออกมาตรงๆ เลยว่า ‘ข้าชอบสิ่งของที่ระยิบระยับ’ เรียบง่าย เปิดเผย โหดร้าย เหมือนกับนิสัยของมัน เห็นได้ชัดว่านี่เป็นวิธีรีเฟรชระดับความประทับใจของฟีน่าที่ดีที่สุด...เพียงแค่วิธีนี้เป็นวิธีที่ออกจะขี้โกงไปหน่อย คือใช้สิ่งของมีค่ามากองไว้ตรงหน้า!
เขาเล่นเกมมาหลายปี สุดท้ายก็กลายเป็นนักสู้เพื่อเงิน กลายเป็นผู้เล่น 24K** ที่เมื่อก่อนเขาเคยดูถูกที่สุดไปแล้ว...
*สามวันจับปลาสองวันตากแห เป็นสำนวน อุปมาว่าทำไม่เสมอต้นเสมอปลาย ขยักขย่อน
**ผู้เล่น 24K เป็นคำสแลง หมายถึงคนที่เล่นเกมออนไลน์แล้วเติมเงิน 'จำนวนมาก' เพื่อซื้อของต่างๆ ในเกมเพื่อให้ตัวละครของคนคนนั้นเก่งหรือเทพ (คล้ายกับคำว่า ‘เทพทรู’ ของไทย)
">