บทที่ 49 การแข่งขันยาวิเศษ

บทที่ 49 การแข่งขันยาวิเศษ

จูจูเก็บยาล้างสิ่งโสมมออกมาจากหม้อปรุงยาแล้วออกมาจากห้องปรุงยา หน้านิ่วคิ้วขมวดพลางทบทวนในใจ ทำอย่างไรถึงจะทำให้เจ้าหมูน้อยเชื่อฟังและยอมร่วมมือนะ ขอแค่เวลาส่วนใหญ่มันเชื่อฟังและยอมพ่นไฟออกมาก็พอ ถ้าทำแบบนี้ก็ช่วยปกปิดฐานะของมันได้เป็นอย่างดี ปกติแล้วผู้ปรุงยาจะมีสำนักที่ใช้ฝึกสัตว์ ปีศาจเพื่อใช้เป็นแหล่งเชื้อเพลิงไฟ ถ้าหากว่าคนอื่นคิดว่าเจ้าหมูน้อยเป็นปีศาจที่ทำได้แค่พ่นไฟล่ะก็ นั่นก็จะทำให้มันปลอดภัยขึ้นเยอะเลย และจะไม่ทำให้มันเป็นจุดสนใจอีกด้วย

จูจูคิดไปด้วยขณะเดินไปที่ส่วนแรกของห้องปรุงยา นางเดินมาได้ครึ่งทางก็ถูกคนเรียกเอาไว้ นางเงยหน้าขึ้น ไม่รู้ว่าในตำหนักมีการเรียกรวมลูกศิษย์ที่เป็นหัวหน้าของแต่ละหุบเขาเมื่อไหร่ เฉิงขุยเปิ่นก็เป็นหนึ่งในนั้น และกำลังมองมาที่นางด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

หนึ่งในลูกศิษย์ที่สวมเครื่องแบบสีเทาของหุบเขาอิงปั้งเดินออกมา เขาแสร้งทำว่ายิ้มพลางพูดว่า “ศิษย์พี่หญิงจู วันนี้เป็นวันที่หุบเขาของเราจะมอบยาให้แก่ลูกศิษย์หุบเขาอื่นๆ ไม่ทราบว่ายาของท่านเตรียมเป็นอย่างไรบ้าง?”

คนที่พูดชื่อว่าปี้เล่อ ก่อนหน้านี้เขาสนิทกับเฉิงขุยเปิ่นมาก พอเฉิงขุยเปิ่นออกไป เพราะแรงกดดันของเจิ้งฉวนทำให้เขาไม่กล้าก่อเรื่องอะไร จูจูมาทำงานที่นี่ก็ตรวจสอบดูแลอย่างเคร่งครัดทำให้พวกเขาไม่สามารถหาผลประโยชน์จากส่วนต่างได้อีก ถึงแม้ภายนอกเขาจะแสดงออกว่าเป็นมิตร แต่ในใจกลับรู้สึกเกลียดจูจูมาก

แต่ว่าจูจูเป็นศิษย์เอกของเจิ้งฉวน และดูแล้วยิ่งนานวันเข้าเจิ้งฉวนยิ่งให้ความสำคัญกับนาง โหยวเชียนเริ่นก็ไม่พูดอะไร เรียกได้ว่าหุบเขาอิงปั้งนั้นมีคำตัดสินของเจิ้งฉวนถือเป็นคำขาด ลูกศิษย์พวกนี้จึงไม่กล้าทำอะไรง่ายๆ

รอมาสองเดือน ในที่สุดโอกาสก็มาถึง แน่นอนว่าจะต้องทำให้จูจูขายหน้าต่อหน้าทุกคนเสียหน่อย ถึงแม้เจิ้งฉวนจะช่วยนางยังไง แต่นางก็คงไม่มีหน้ากล้าดูแลห้องปรุงยาต่อเป็นแน่

“ยาที่ข้าปรุงหรือ?” จูจูแปลกใจมาก การแจกจ่ายยาไม่ใช่นำไปไว้ที่คลังด้านหลัง นับจำนวนแล้วเอามาไว้ที่ด้านหน้าตำหนัก แบ่งให้แต่ละหุบเขาตามจำนวนคน แล้วนำไปให้ตัวแทนของแต่ละหุบเขาก็เสร็จแล้วไม่ใช่หรือ? ทุกๆ สามเดือนผู้ฝึกพลังจะได้รับยาล้างสิ่งโสมมหนึ่งเม็ดและยาดึงรากวิญญาณหนึ่งขวด ในคลังก็ยามีเก็บอยู่มากมายทำไมต้องเจาะจงมาที่ยาที่นางปรุงด้วย?

ปี้เล่ออธิบายด้วย “ความหวังดี” ว่า “ตามกฎแล้วทุกๆ สามเดือนหัวหน้าห้องปรุงยาจะต้องปรุงยาล้างสิ่งโสมมระดับกลางยี่สิบเม็ด หรือ ยาดึงรากวิญญาณยี่สิบขวด เพื่อมอบให้ศิษย์ที่มีความสามารถของแต่ละหุบเขาใช้ ในขณะเดียวกันก็เป็นการตัดสินความสามารถของหัวหน้าห้องปรุงยาอีกด้วย ศิษย์พี่หญิงจูอย่าบอกนะ ว่าท่านไม่รู้?”

จูจูส่ายหน้า “ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”

“ศิษย์น้องปี้ ทำไมจะต้องไปทำให้ศิษย์พี่หญิงจูลำบากใจด้วยล่ะนางเป็นศิษย์เอกของผู้อาวุโสเจิ้งเชียวนะ ถึงจะปรุงยาไม่ได้สักเม็ดก็ไม่มีใครกล้าว่านางว่าความสามารถไม่พอหรอก” เฉิงขุยเปิ่นรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้เพื่อเสียดสีนางทันที

เป็นเพราะเด็กผู้หญิงสกปรกคนนี้จึงทำให้เขาถูกไล่ออกจากตำแหน่งหัวหน้าห้องปรุงยากลายมาเป็นลูกศิษย์สายในธรรมดาๆ ที่ไม่มีตำแหน่งและอำนาจอะไร ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสซูจิงจะเก็บเขาเอาไว้และให้ความสำคัญกับเขามากขึ้น แต่คนที่เคยถูกเขาเก็บเงินส่วนต่างจากค่ายากลับแอบหัวเราะเยาะเขา ความรู้สึกที่ตกลงมาสู่นรกแบบนี้เกือบจะทำให้เขาทุกข์ระทมจนแทบจะเป็นบ้า

เขาแอบได้ยินข่าวจากพรรคพวกมาว่าสองเดือนนี้จูจูใช้วัตถุดิบในการปรุงยาไปอย่างไร้ประโยชน์และทุกครั้งก็ล้มเหลว จึงถือโอกาสตามธรรมเนียมของหุบเขาอิงปั้งโจมตีนางรวมทั้งผู้ที่คอยสนับสนุนนางอย่างเจิ้งฉวน

ไม่ใช่บอกว่าจะทำให้คนไร้ประโยชน์อย่างนางกลายเป็นอัจฉริยะได้ไม่ใช่หรือ? นี่ก็เกือบจะครึ่งปีแล้วถ้าเขาทำให้ทุกคนเห็นว่าคนไร้ประโยชน์สุดท้ายก็คือคนไร้ประโยชน์แล้วตำแหน่งปรมาจารย์ปรุงยาระดับหกของเขาล่ะจะทำยังไง? ลูกศิษย์ที่เขาเป็นคนสั่งสอนมา ยังสู้ลูกศิษย์สายในที่ถูกเขาเนรเทศออกมาไม่ได้เลย

ถึงแม้ว่าลูกศิษย์ในสำนักไม่น้อยจะรู้สึกว่าเฉิงขุยเปิ่นจะเป็นคนที่ไร้ยางอาย แต่ทุกคนก็รู้สึกอิจฉาจูจูเช่นกันก็เห็นๆ กันอยู่ว่านางไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่ได้กลายเป็นศิษย์เอกของเซียนระดับเจี๋ยตัน และยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับตำแหน่งหัวหน้าของห้องปรุงยาอีกด้วย

มองดูแล้วจูจูเป็นคนที่น่ารังแกมาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถรังแกนางได้ง่ายๆ นางเงยหน้าขึ้นมาพูดเสียงแหลมด้วยความโกรธว่า “ข้ามียาล้างสิ่งโสมมคุณภาพสูงสามสิบเม็ดพอไหม? แล้วจะแบ่งกันยังไง?”

เฉิงขุยเปิ่นตกตะลึงชี้ไปที่หัวหน้าหอปรุงยาอีกสองคนที่กำลังเดินเข้ามาพลางหัวเราะ “อาจารย์ลุงกู่ อาจารย์ลุงเหนียน พวกท่านได้ยินเรื่องน่าขันนี้ไหม ยาล้างสิ่งโสมมคุณภาพสูงสามสิบเม็ด? เจ้าคิดว่ายาคุณภาพสูงนี้จะปรุงขึ้นมาได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ? ช่างกล้าพูดเสียจริงแม้แต่อาจารย์ลุงกู่และอาจารย์ลุงเหนียนยังไม่เคยปรุงยาระดับสูงได้เลย เจ้าโลกสวยเกินไปหรือเปล่า คิดว่าคนอื่นไม่มีตาหรือยังไงยาล้างสิ่งโสมมที่เจ้าปรุงขึ้นลองถามดูสิลูกศิษย์คนไหนจะกล้าใช้?!”

“ข้ากล้า!”

จิงจี๋เหรินเดินแยกออกมาจากทุกคน พอดีวันนี้เป็นวันที่เขาและศิษย์น้องอีกสามคนมารับยาด้วยกันครึ่งปีที่ผ่านมาเขากินอาหารที่จูจูทำไปไม่น้อย ในใจคิดว่านางเป็นเพื่อนสนิทไปแล้วจะยอมให้ใครมารังแกนางง่ายๆ ได้อย่างไร?

เฉิงขุยเปิ่นถูกเขาทำให้อับอายต่อหน้าคนอื่น แต่ผู้ที่คอยสนับสนุนจิงจี๋เหรินนั้นไม่ใช่คนที่เขาจะไปดูถูกได้ ดังนั้นจึงหันไปหาศิษย์อีกสามคนที่มาพร้อมกับจิงจี๋เหรินแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องจิงจี๋เหรินเลอะเลือนไปแล้ว ศิษย์น้องทั้งสามจะเลอะเลือนไปกับเขาด้วยหรือไม่? สามเดือนถึงจะได้รับยาล้างสิ่งโสมมหนึ่งเม็ดและยาดึงรากวิญญาณหนึ่งขวดนะ หรือว่าคนชนชั้นสูงก็เป็นเหมือนศิษย์น้องจิงทุกคนที่ไม่สนใจคุณค่าของเงิน?”

ลูกศิษย์หุบเขาเม่ยหย่วนทั้งสามคนแค่ฟังสีหน้าก็ดูแทบไม่ได้ หนึ่งในนั้นยื่นมือมาจับจิงจี๋เหรินเอาไว้คิดจะดึงเขาให้ถอยออกมา อีกสองคนที่เหลือถึงแม้ว่าจะไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาแต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้จิงจี๋เหรินเอายาของพวกเขาไปเสี่ยงอันตราย

จิงจี๋เหรินโกรธมากพูดเสียงต่ำกับศิษย์น้องที่ดึงตัวเองไว้ว่า “เอาใจท่านเจิ้งไว้ วันข้างหน้าจะได้มียาดีๆ ใช้เข้าใจไหม?” คนคนนั้นแค่ฟัง ชั่วขณะนั้นดวงตาก็เป็นประกายแล้วไม่ห้ามเขาอีก

ทั้งๆ ที่เฉิงขุยเปิ่นเห็นว่าคนของหุบเขาเม่ยหย่วนถูกเขาโน้มน้าวได้สำเร็จแล้วแท้ๆ แต่คิดไม่ถึงว่าภายในพริบตาพวกเขาจะเปลี่ยนท่าทีได้ไวขนาดนี้ในใจรู้สึกโกรธมากพลางพูดว่า “หุบเขาเม่ยหย่วนต้องการรับยาจากศิษย์พี่หญิงจูแต่พวกเราหุบเขาโอวหยวนไม่เอา อาจารย์ลุงกู่และอาจารย์ลุงเหนียนได้โปรดมอบยาให้พวกเราด้วย!”

ลูกศิษย์ที่เหลือลังเลอยู่ชั่วครู่ก็เดินไปหยุดที่หน้ากู๋หมิ่นและเหนียนป้าว

จึงเหลือเพียงศิษย์หุบเขาฮุ่ยลู่ของเจ้าสำนัก พวกเขากัดฟันยืนอยู่ทางฝั่งจูจู ก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่พวกเขาก็ได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนักว่าต้องคอยอยู่ฝั่งของเจิ้งฉวนและต้องสุภาพกับจูจู

ลูกศิษย์ของหุบเขาฮุ่ยลู่มีจำนวนน้อยมาก จูจูนับจำนวนคนแล้วนำยาล้างสิ่งโสมมหนึ่งขวดที่เพิ่งทำเสร็จให้หุบเขาฮุ่ยลู่ อีกสองขวดให้จิงจี๋เหรินตามกฎแล้วหัวหน้าห้องปรุงยาทั้งสามจะต้องปรุงยาล้างสิ่งโสมมออกมาทั้งหมดหกสิบเม็ด ส่วนที่เหลือจากหุบเขาอิงปั้งก็แบ่งให้หุบเขาอื่นๆ ตามจำนวนคน โดยประมาณแล้วให้แต่ละหุบ หุบละสิบเม็ด เพราะว่าลูกศิษย์ของหุบเขาฮุ่ยลู่มีจำนวนน้อยที่สุดปกติแล้วจะได้รับเพียงห้าเม็ด

คนส่วนใหญ่ของวันนี้ต่างยืนอยู่ที่ฝั่งกู๋หมิ่นและเหนียนป้าว ทำให้หุบเขาฮุ่ยลู่และเม่ยหย่วนต่างได้รับยาจำนวนมากขึ้นเป็นเท่าตัวแต่พวกเขาก็ยิ้มไม่ออก เพราะว่านี่เป็นการยอมให้หุบเขาของตัวเองเสียเปรียบเพื่อประจบเจิ้งฉวน

เฉิงขุยเปิ่นรับยามาเสร็จก็เห็นสถานการณ์ของอีกด้านในใจก็คิดได้ทันที เขาก้าวมาข้างหน้า

จิงจี๋เหรินและหัวเราะ “ศิษย์น้องจิงช่างเชื่อมั่นในการปรุงยาของศิษย์พี่หญิงจูจริงๆ ไม่งั้นให้พวกเราชมยาคุณภาพสูงของศิษย์พี่หญิงจูดูหน่อยเป็นอย่างไร!”