ตอนที่ 9:
เมื่อฟู่จิ่วพบกับฉินมั่วอย่างเป็นทางการ ภาค 1
ทว่า เฉินเสี่ยวตงยังคงไม่ลืมภารกิจที่คุณผู้หญิงสั่งมาทางโทรศัพท์ “ถ้าคุณชายขาดเงินจริงๆ ครั้งนี้ก็ทำคะแนนให้ดีขึ้นสิครับ รับรองคุณผู้หญิงจะตบรางวัลให้อย่างงาม เอาแต่เล่มเกมส์อยู่ในห้องทั้งวันน่ะ มันทำร้ายสายตานะครับ แล้วเมื่อก่อนคุณไม่ได้ชอบเล่นเกมส์นี่? เอ่อ...ผมไม่ได้กระแทกแดกดันอะไรนะครับ ถึงแม้การวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ดีมากที่ทำให้ได้ใกล้ชิดคุณชายฉินผ่านทางเกมส์จะเป็นวิธีที่ดีมาก แต่เขาเป็นถึงแชมป์ระดับประเทศ ต่อให้คุณฝึกอีกสิบปี ฝีมือก็ยังไปไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับ”
“นายหมายความว่า ฉันเล่นเกมส์เพื่อจีบคุณชายฉินอะไรเนี่ยเหรอ?” ฟู่จิ่วยกน้ำเต้าหู้ขึ้นมาดื่ม แล้วเลิกคิ้วเอ่ยถาม “ใครให้ความคิดผิดๆ แบบนี้กับนายเนี่ย”
คนเป็นลูกน้องส่ายหัวอย่างเจ็บปวดหัวใจ “คุณชายครับ... มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณหลอกลุงหวังก็พอว่า แต่อย่ามาหลอกผมเลย ผมน่ะอยู่ที่บ้านตระกูลฟู่มา 3 ปีแล้ว ทำไมจะไม่เข้าใจคุณชาย จะมีอะไรที่ทำให้คุณลืมกินลืมนอนได้ นอกจาก...ผู้ชาย”
ฟู่จิ่ว “...”
“คุณชายยอมรับมาเถอะครับ” เฉินเสี่ยวตงพูดต่ออย่างจริงจัง “ขอแค่คุณรับปากสัญญาคุณผู้หญิงว่าจะสอบให้ได้ดีขึ้นมาลำดับหนึ่ง รับรองผมจะไม่บอกความลับของคุณ”
เอาเถหอะ ...เธอไม่อยากอธิบายอะไรต่อแล้ว ยิ่งพูดก็ยิ่งยุ่ง
‘ดีขึ้นมาลำดับหนึ่ง’ เป็นเงื่อนไขน่าจะรับได้อยู่ ฟู่จิ่วเท้าคางอย่างเกียจคร้านๆ “ครั้งที่แล้วฉันสอบได้ที่เท่าไรเหรอ”
เฉินเสี่ยวตง “ที่ 1...จากสุดท้าย”
คนเป็นเจ้านายเงียบอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะถาม “แน่ใจนะว่าแม่ฉันขอแค่ให้ฉันดีขึ้นมาลำดับนึงนึง?”
“ครับ คุณผู้หญิงบอกว่าขอแค่คุณสอบได้ที่ 2 จากลำดับสุดท้าย ท่านจะให้รางวัลคุณ” เฉินเสี่ยวตงฝ่ายลูกน้องตอบหนักแน่น
ฟู่จิ่ว “เป็นแม่ฉันตัวจริงแน่ๆ เอาเป็นว่าฉันรับปาก” ที่ 2 จากลำดับสุดท้ายน่ะไม่ยากเลยไม่ใช่เหรอ ถึงวิชาเคมีฟิสิกส์จะไม่ได้เรื่อง แต่ภาษาอังกฤษกับคณิตศาสตร์เป็นวิชาถนัดของพวกแฮกเกอร์นี่นา
เฉินเสี่ยวตงรู้สึกกังวลหลังจากที่ได้ยินคุณชายรับปากอย่างง่ายดาย “คุณผู้หญิงบอกอีกด้วยว่า ไอ้วิธีที่จะไปจ้างให้คนที่สอบได้เกือบที่สุดท้ายนั้นไม่มาเรียนเนี่ย ห้ามใช้นะครับ ไม่งั้นของรางวัลถือเป็นโมฆะ”
ฟู่จิ่วเลิกคิ้ว “ทำไมต้องจ้าง ฉันใช้แค่หมัดเดียว มันไม่ง่ายกว่าเหรอ”
“โธ่! คุณชายอย่าล้อเล่นสิครับ ขนาดผู้หญิงยังสู้ไม่ได้เลย แล้วคุณจะไปสู้ผู้ชายได้ยังไง” เฉินเสี่ยวตงหัวเราะขึ้นมา แล้วพลางเข้าไปตบบ่าเจ้านายตัวเอง กิริยาแบบนี้เหมือนซ่งเสี่ยวเป่า[footnoteRef:1]เปี๊ยบสุดๆเลย! [1: ซ่งเสียวเป่าเป็นดาราตลกที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งของประเทศจีน]
ฟู่จิ่วเงยหน้าขึ้นมอง วางตะเกียบไม้ในมือช้าๆ แล้วมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็น
ทำให้เฉินเสี่ยวตงถึงกับตัวแข็งทันที ทำไมเขาถึงรู้สึกถึงรังสีอำมหิตจากตัวคุณชายนะ?
ไม่สมเหตุสมผลเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์เลยนี่นา!
แต่...มันก็น่ากลั๊วน่ากลัวจริงๆ!
ฟู่จิ่วไม่ได้ทำอะไร จะว่าไปเจ้าเด็กคนนี้ก็ดีกับตัวเองมาโดยตลอด
พูดกันตามความจริง เมื่อก่อนเธออ่อนแอขนาดไหนกันนะ ถึงกับสู้ผู้หญิงไม่ได้ เฮ้อ...มีรูปร่างดีเสียเปล่า!
ไม่ว่าจะอย่างไร ฟู่จิ่วยังแบกเอาหน้าตาอันหล่อเหลาของตนไปโรงเรียนอยู่ดี ชุดนักเรียนเป็นสีดำขาวตัดกัน เธอเหวี่ยงกระเป๋าไปสะพายไว้ด้านหลังด้วยท่าทางทรงเสน่ห์อย่างเท่ห์ ใบหน้าที่ขาวละออภายใต้แสงอาทิตย์ ดูเหมือนกับดงดอกอวี้วี่จู๋[footnoteRef:2]ที่ขาวบริสุทธิ์และดูเหินห่าง [2: เง็กเต็ก สมุนไพรจีนชนิดหนึ่งซึ่งมีสีขาวซีด]
ทำเอาหลายๆ คนในโรงเรียนถึงกับหยุดชะงัก แล้วตรงเข้าไปรุมมอง
“พวกเธอรู้สึกไหมว่าฟู่จิ่วเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก”
“ทำไมถึงรู้สึกว่าเขา...เท่ห์สุดๆ ไปเลย!”
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ถึงผู้อ่าน : ตอนนี้เริ่มเขียนนิยายใหม่แล้ว ขอขอบคุณทุกคนที่อยู่ข้างเคียงมาโดยตลอด จึงทำให้เกิดนิยายเรื่องใหม่ขึ้นมา หวังว่าต่อไปเราจะยังคงอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่มีอะไรพิเศษเกิดขึ้น ผู้เขียนจะอัพนิยายวันละสี่ครั้ง และจะโพสกิจกรรมต่างๆ ในส่วนคอมเมนต์ ช่วยกันวิจารย์ แนะนำ ให้คะแนนและเก็บสะสมเอาไว้ด้วยนะคะ
ตอนที่ 10:
เมื่อฟู่จิ่วพบกับฉินมั่วอย่างเป็นทางการ ภาค 2
เมื่อได้ยินเสียงชมตัวเอง ฟู่จิ่วจึงหันกลับมาส่งยิ้มให้ “ขอบคุณนะ พวกเธอก็สวยมากเหมือนกัน”
ยิ้มแบบนี้ จะว่ายังไงดีนะ...มันอ่อยกันชัดๆ นี่!
พวกสาวๆ ที่ถูกทัก ต่างพากันยกสองมือกุมหน้าตัวเอง...ด้วยความรู้สึกร้อนวูบวาบ
เฉินเสี่ยวตงที่เดินอยู่ข้างหลังเจ้านายตนทำหน้ามีความรู้สึกเหมือนเห็นผี “คะ...คุณชายกำลังโปรยเสน่ห์ให้สาวๆ พวกนั้นเหรอครับ!?”
ฟู่จิ่วเลิกคิ้ว “ทำไมเหรอ?... พวกนั้นน่ารักดีออก”
“คุณเคยบอกว่าคุณชอบผู้ชายมาตั้งแต่เกิดไม่เหรอ!?” คนถามกดเสียงต่ำ
ฝ่ายถูกถามจึงถามกลับเอื่อยๆ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับที่ฉันโปรยเสน่ห์ให้พวกสาวๆ ล่ะ?”
คนเป็นลูกน้อง...ถึงกับพูดอะไรไม่ออก!
แต่ว่า...คุณชายไปฝึกอ่อยสาวมาตั้งแต่ตอนไหนกันนะ แต่ก่อนออกจะเกลียดผู้หญิงจะตาย เกลียดขนาดที่เห็นพวกนั้นสาวๆ แล้วอยากจะวิ่งหนีไปไกลๆ ด้วยซ้ำไป
แล้วดูคุณในตอนนี้สิ อย่างกับพวกเพลย์บอยตัวร้ายเลย!ล่ะ
ส่วนฟู่จิ่วเองก็ไม่ใด้ได้ใส่ใจว่าใครจะมองตัวเธออย่างไร โดยเฉพาะเจี่ยงเฟยหยางที่นั่งโต๊ะตัวเดียวกันกับเธอ พอเขาได้เห็นท่าทางที่ฟู่จิ่วปฏิบัติต่อพวกสาวๆ แล้ว ถึงกับตาลุกโพลงเลยทีเดียว
มันเกิดอะไรขึ้นกับไอ้เบื๊อกนี่กันเนี่ย คิดจะแย่งแฟนคนอื่นใช่ไหม?
เปลวไฟลุกโชนท่วมดวงตาของเจี่ยงเฟยหยาง ดูท่าคงจะอยากทำเรื่องไม่ดีไม่เจียมตัวอีกแล้ว
ฟู่จิ่วโยนกระเป๋าไว้ตรงนั้นแหละ แล้วล้วงกระเป๋ากางเกงไว้ข้างหนึ่ง มองหน้าอีกฝ่าย
และเห็นเพียงท่าทีของอริเก่าที่อ่อนลงเรื่อยๆ...อ่อนจนหดคอไปเอง...จนหลีกทางให้ตนในที่สุด
“เหอะชิ!” ฟู่จิ่วหัวเราะเสียงต่ำ ก่อนจะนั่งลง แกะอมยิ้มแล้วส่งเข้าไปในปากด้วยมาดคุณชายลูกผู้ดีเพลย์บอยตัวเอ้
ส่วนเจี่ยงเฟยหยางได้แต่กำหมัดอยู่บนโต๊ะ แต่ไม่ต่อยออกไปสักที ด้วยรู้ดีว่าสู้ไม่ได้
ทำไมไอ้อ่อนเบื๊อกที่คอยวิ่งไล่ตามหลังตัวเองมาตลอด เปลี่ยนเป็นปีศาจร้ายในชั่วพริบตาเดียวได้ยังไงกัน เห็นทีจะทนสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว!
ในระหว่างที่หนุ่มสุดหล่อแห่งชั้นเรียน 013 กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจ อาจารย์วิชาภาษาอังกฤษก็ได้เดินเข้ามาในห้อง
เมื่อฟู่จิ่วเห็นว่าเป็นวิชาที่ถนัด จึงขยับเคลื่อนนิ้วที่ใต้โต๊ะแล้วหยิบเอาไอแพดและคีย์บอร์ดที่เตรียมไว้ขึ้นมา
เธอหยิบหนังสือเรียนมาตั้งบนโต๊ะในแนวตั้งเพื่อบังไอแพดเอาไว้ ส่วนคีย์บอร์ดนั้นถูกวางไว้ใต้โต๊ะ ยังไงเสียเธอก็พิมพ์สัมผัสได้ จึงไม่จำเป็นต้องก้มหน้า
จากนั้นจึงคลิกแตะเข้าไปที่หน้าเว็บปเกม
ฟู่จิ่วยังไม่ทันได้เข้าไปรับงานที่บอร์ดประกาศ ก็เห็นข้อความขอแอดเฟรนด์เมื่อครั้งที่แล้วยังคงค้างอยู่
ฉินมั่วเหรอ?
ขณะที่คิดจะกดปฎิเสธเหมือนเดิม ทว่าเจี่ยงเฟยหยางที่นั่งด้านข้างกำลังแอบมองเห็นหน้าจอไอแพดของเธอ อยู่ๆ ก็ร้องออกมาอย่างยั้งเอาไว้ไม่ได้ “คะ...คุณชายฉิน!”
เสียงที่ร้องออกมาได้โหมพัดทั้งห้องเรียนราวกับลมสลาตัน
“เขาพูดถึงใครน่ะ ...คุณชายฉินเหรอ?”
“คุณชายฉินมาที่นี่เหรอ!”
“เป็นไปได้ยังไง! ไม่มีคำเชิญจากโรงเรียนสักหน่อย เทพบุตรอย่างเขาน่ะไม่มาเดินในโรงเรียนหรอกนะ ปีนึงน่ะยังเจอไม่ถึงสองครั้งเลยนะ”
“แล้วที่พี่เจี่ยงพูดอยู่เมื่อกี้น่ะ เป็นใครกันเหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน นี่มันเกิดอะไรกันเนี่ย”
เจี่ยงเฟยหยางยังคงชี้นิ้วไปที่หนังสือเรียนของฟู่จิ่ว ซึ่งจริงๆ แล้วคือไอแพดที่ซ่อนอยู่ด้านในหนังสือนั่นเอง ริมฝีปากสั่นน้อยๆ “คุณชายฉินเขา...เขา”
“อาจารย์ฮะ!” ไม่รอให้คนข้างตัวพูดจนจบ ฟู่จิ่วเอ่ยปากตัดบทขัดขึ้นมา ดวงตาทั้งสองมองไปที่หน้าห้อง “เจี่ยงเฟยหยาง ส่งเสียงเอะอะในห้องเรียนแบบนี้ ไม่เคารพอาจารย์เลยนะฮะ”
เดิมทีอาจารย์โกรธจนเส้นเลือดบนขมับปูดโตอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของฟู่จิ่ว จึงเอ่ยขึ้นมาทันที “นักเรียนคนอื่นๆ อ่านหนังสือเองไปก่อนนะ ส่วนเธอ...เจี่ยงเฟยหยาง ไปที่ห้องพักครูกับฉันเดี๋ยวนี้!”
คนถูกสั่งรู้สึกเหมือนโดนใส่ความอย่างร้ายแรง ชี้นิ้วไปที่เพื่อนร่วมโต๊ะ แล้วพูดกับอาจารย์ตาลีตาเหลือก “เปล่านะฮะ...อาจารย์ คือเขา...”
“เขาทำไม ห๊ะ!” อาจารย์สาวเท้าเดินเข้ามา สายตาจับจ้องไปที่หนังสือเรียนที่วางอยู่ในแนวตั้งของฟู่จิ่ว
จากนั้นก็ยื่นมือออกไป...
...........................................................