ตอนที่ 32 แลกเปลี่ยน
เวลาผ่านไปอีกหลายวัน นอกเหนือจากการฝึกในมิติความฝัน หวังหลินจึงยุ่งอยู่กับการสะสมหิมะที่ละลายเป็นน้ำ ถ้าไม่กลัวว่าพลังปราณจะหลุดจากการตรวจสอบ เขาคงใช้โอ่งใบใหญ่ไปแล้ว ตอนนี้จึงใช้แค่ขวดน้ำเต้าเท่านั้นและมันก็เพียงพอต่อปริมาณในขวดพอดี เวลาผ่านไปอีกหลายวันเขาเก็บใส่น้ำเต้าเล็กๆได้เป็นร้อยอัน หวังหลินคำนวณน้ำเต้าที่เก็บจากน้ำหิมะแล้วพบว่ามันเพียงพอให้เขาใช้ในมิติความฝันได้อีกเป็นเวลานาน
หลังเก็บน้ำเต้าเสร็จหวังหลินก็กลับเข้าไปฝึกบ่มเพาะพลัง แม้ว่าผลจากน้ำแร่ธรรมชาติจะลดน้อยลงแต่ก็ไม่ต่างกันมากนัก
เวลาสิบวันผ่านไปในพริบตา ระยะเวลาสิบวันหวังหลินดื่มน้ำธรรมชาติเยอะกว่าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องดีที่น้ำได้ละลายกลายเป็นพลังปราณในร่างกาย มิฉะนั้นก็ไม่มีทางที่ท้องเขาจะจัดการกับน้ำจำนวนมากได้
ขั้นรวบรวมลมปราณระดับสองจำเป็นต้องใช้พลังปราณจำนวนมากกว่าขั้นแรกเป็นอย่างมาก ความจริงหวังหลินฝึกฝนในมิติความฝันมากกว่าเก้าเดือนแล้ว
ถ้าเขาบ่มเพาะอยู่ขั้นรวบรวมลมปราณระดับแรก ด้วยพลังปราณจำนวนมากเช่นนี้เขาคงประสบผลสำเร็จที่ดีทีเดียว ทว่าถึงรู้สึกว่าร่างกายมีพลังปราณไหลเวียนจำนวนมากแต่ก็ยังไม่รู้สึกจะบรรลุผลได้ตามที่ต้องการ
วันที่หวังหลินได้นัดเจอหวังเฮ่ามาถึงแล้ว ดังนั้นวันนี้หวังหลินจึงไม่ได้เข้าสู่มิติความฝัน เวลาราวเที่ยงคืนหิมะก็เริ่มตกลง จากนั้นหวังเฮ่าก็เข้ามาในระยะสัมผัสวิญญาณ
ไม่นานนักหวังเฮ่าก็เปิดประตูขึ้นแต่ไม่ได้เข้ามา เขาพูดอย่างรวดเร็ว “อาจารย์ใช้เวลาปรับแต่งยาเป็นเวลานานและเกิดความล่าช้าขึ้นนิดหน่อย รีบไปเถอะพี่หวัง การแลกเปลี่ยนกำลังจะเริ่ม”
หลังจากนั้นหวังเฮ่าก็รีบเร่งออกไป ส่วนหวังหลินตามไปในทันที
มีสองคนเดินบนหิมะจนถึงหน้าประตูสำนัก จากนั้นเดินออกไปตามถนน เดินลึกเข้าไปในภูเขาอีกที
ถึงจุดหนึ่งถนนก็เริ่มลื่น หวังเฮ่าจึงเดินช้าๆ ค่อยๆระวังการก้าวแต่ละครั้ง ร่างกายสั่นเทากระซิบกระซาบขึ้น “อากาศเฮงซวย ถ้าข้าตกลงเขาตายไป แม้ข้าจะเป็นผี ข้าก็ต้องทวงความยุติธรรม!”
ร่างหวังหลินค่อนข้างเบา เขาไม่ได้รู้สึกแบบที่หวังเฮ่ารู้สึก จริงๆเขาคิดว่าอากาศแบบนี้ก็สบายดี และถ้าหลังการแลกเปลี่ยนจบลงลง เขายังคิดว่าจะมาเก็บหิมะจำนวนมากพวกนี้อีก
หลังจากเดินไปได้ชั่วครู่ หวังเฮ่าหยุดแล้วหมุนตัวมายื่นของให้หวังหลิน เป็นเม็ดยาลึกลับสีเขียว “พวกเราใกล้จะถึงแล้วพี่หวัง ผมมาที่นี่ไม่กี่วันก่อน มันเหลืออีกสองสามแยกเท่านั้น พวกเรามากินเม็ดยากันก่อน มันทำให้ไม่มีใครตรวจสอบเราได้”
พอหวังเฮ่าหยิบเม็ดยานั้นขึ้นมาแล้วโยนเข้าไปในปาก จู่ๆก็มีหมอกสีดำหนาก็ปรากฏขึ้นคลุมร่าง แสบแหบแห้งดังออกมาภายในหมอก “เป็นยังไงบ้าง? พี่หวังบอกได้ไหมว่าข้าเป็นใคร?”
หวังหลินใช้สัมผัสวิญญาณค้นหาและพบว่ามีกำแพงโคลนป้องกันเขาไว้แต่ก็ไม่สามารถระบุตัวหวังเฮ่าได้ นี่ทำให้เขารู้สึกว่าเม็ดยานี้ปลอดภัย เขาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ยานี้วิเศษมาก!” หวังหลินโยนลงในปากพลันเกิดเหตุการณ์เดียวกับหวังเฮ่า
สองหมอกสีดำกำลังเดินเข้าไปในภูเขาลึกอย่างรวดเร็ว หลังจากนับจำนวนก้าวแล้ว ถนนสายเล็กๆปรากฏข้างหน้าเป็นลานกว้างใหญ่
ลานกว้างสะอาดสะอ้าน เหล่าหมอกสีดำละลานตาเต็มไปทั่วด้านหน้าหวังหลิน แต่ละคนต่างก็ไม่เปิดเผยตัวตนทั้งนั้น
หลังจากหวังหลินและหวังเฮ่ามาถึง เขาก็พบกับพื้นที่ว่างจึงไปยืนตรงนั้นโดยไม่เคลื่อนไหวใดๆต่อ
ไม่ช้าเขาก็เห็นว่าไม่มีใครมาแล้ว หมอกสีดำหนึ่งสายก็ไปหยุดด้านลานกว้างข้างหน้าและกล่าวด้วยเสียบแหบพร่าว่า “ถึงเวลาแล้ว ข้าเป็นประธานในครั้งนี้ กฏคือข้อเดิม งั้นข้าจะเริ่มก่อนละกัน” เขาดึงกระบี่สั้นสีเงินและพูดออกมา “นี่คือกระบี่เหินเวหา มันไม่ได้มาจากตำหนักวิญญาณดาบ ข้าได้มันมาโดยบังเอิญและมีพลังรุนแรงมาก ข้าต้องการเพียงห้าร้อยยันต์เซียน”
ฝูงชนเริ่มมีการพูดคุยกันเกิดขึ้น หลังจากนั้นคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาไม่พูดอะไรอื่น ยื่นให้ห้าร้อยยันต์เซียน จากนั้นก็เสร็จสิ้นการค้า
คนอื่นขึ้นมาพูด “ข้ามีเศษหยกวิเศษสามารถใช้วิชาคล้ายกับแบ่งปฐพีได้สามครั้ง ขอแลกเม็ดยารวมปราณสิบเม็ด” เขาหยิบเศษหยกขึ้นมา โบกครานึงและเก็บลงไป
“ข้าเอา!” คนหนึ่งไม่ไกลจากหวังหลินรีบพูดขึ้น เขาเดินเข้าไปข้างหน้าแต่แล้วอีกคนก็พูดขึ้นแทรก “ข้าให้เม็ดยา 12 เม็ดเลยแลกกับเศษหยกนั่น!”
คนพูดคนแรกลังเลและจ้องไปที่คนที่สอง เขารู้สึกว่าเม็ดยาสิบเม็ดถึงขีดจำกัดแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน แต่ละคนก็ขึ้นมาเสนอของของตัวเองทีละคน ฉากด้านหน้าดูมีชีวิตชีวาโดยเฉพาะคนที่เสนอของที่มีมูลค่า ขณะที่คนที่ให้ราคาสูงที่สุดก็ชนะไป
“ข้ามีม้วนวิชาหนึ่งม้วน ตราบใดที่มีระดับบ่มเพาะขั้นรวบรวมลมปราณระดับสองขึ้นไปจะสามารถใช้มันเพื่อซ่อนระดับบ่มเพาะของตัวเองได้ชั่วขณะ เว้นแต่คนผู้นั้นจะอยู่ขั้นพื้นฐานลมปราณ ข้ารู้ว่าของสิ่งนี้มันไร้ประโยชน์ ข้าต้องการ 10 ... เอาแค่ 5 เม็ดยารวมปราณก็พอ” คนหนึ่งพูดอย่างลังเล
ทุกคนหัวเราะ ม้วนวิชานี้ความจริงไร้ประโยชน์มากทีเดียว ศิษย์ทั้งหมดต้องการแสดงระดับการฝึกฝนของตนเอง เพราะว่าระดับการฝึกฝนที่สูงจะได้รับสิทธิ์ที่ดีขึ้น ใครจะทำเรื่องน่าเบื่ออย่างการซ่อนระดับตัวเอง? ในระยะยาวแล้วอย่างน้อยเขาก็ใช้ไม่กี่ครั้ง แต่นี่มันยังใช้ได้เพียงชั่วครู่เดียวและยังมีราคาตั้งห้าเม็ดยารวมปราณอีก
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครต้องการมัน คนคนนั้นถอนหายใจ แค่เขากำลังจะเก็บลงไป หวังหลินก็พูดขึ้นมา “5 เม็ดยาสินะ ข้าเอา!”
ผู้คนตกตะลึงกับท่าทีประหลาด ก็เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วก็แลกเปลี่ยนเลยในทันที
มีพลังถูกเก็บไว้ในม้วนคัมภีร์นี้ หวังหลินไม่รู้ว่าคืออะไร เขาไม่เคยเห็นสิ่งของชนิดนี้มาก่อนจึงตรวจสอบมันด้วยสัมผัสวิญญาณอย่างรวดเร็ว จากนั้นวิธีฝึกวิชาก็ปรากฏในหัว
ของสิ่งนี้อาจไม่มีประโยชน์กับคนอื่นแต่มันมีประโยชน์อย่างมากสำหรับเขาแม้ว่ามันจะซ่อนพลังบ่มเพาะได้เพียงชั่วคราวก็ตาม
ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา แม้จะเต็มไปด้วยเสียงแหบพร่าแต่ก็เต็มไปด้วยความภูมิใจ “เม็ดยาสร้างพื้นฐานหนึ่งเม็ด บอกข้อเสนอมาได้เลย!”
หวังเฮ่ารีบพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นทันที “เม็ดยารวมปราณ 20 เม็ด!”
“1000 ยันต์เซียน แถมกระบี่เหินให้ด้วย!”
“2000 ยันต์เซียน!”
“30 เม็ดยารวมปราณกับ 500 ยันต์เซียน!”
“เศษหยกทักษะหนึ่งชิ้น กระบี่เหิน 10 เม็ดยารวมปราณและ 500 ยันต์เซียน!”
เสียงคนเสนอราคาตะโกนอื้ออึง เห็นได้ชัดว่าเม็ดยาสร้างพื้นฐานเป็นของที่มีความสำคัญขนาดไหน หวังหลินได้ยินมาจากหวังเฮ่าเกี่ยวกับยาสร้างพื้นฐานว่าเป็นยาที่มีค่ามาก หลังจากกินเข้าไปผลลัพธ์จะคงอยู่ในร่างเป็นเวลาสองเดือน ในสองเดือนนั้นอัตราการดูดซับพลังปราณจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า มันเป็นสิ่งที่ศิษย์ทุกคนที่มีขั้นต่ำกว่ารวบรวมลมปราณระดับเจ็ดใฝ่ฝัน
ยานี้แม้แต่ในสำนักก็ถือเป็นของหายากยิ่ง ศิษย์แต่ละคนสามารถได้รับมาสองครั้งในชีวิต วิธีปกติคือครั้งแรกตอนขึ้นสู่ระดับเสื้อคลุมสีดำจะได้หนึ่งเม็ด และอีกครั้งตอนเข้ารับเสื้อคลุมสีม่วงจะได้สองเม็ด
…………………………………….