ตอนที่ 38 จุดแสง
หลังจากวิเคราะห์สถานการณ์อย่างละเอียด หวังหลินรู้ได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาตอนที่ฝึกเซียนอยู่ในมิติความฝัน เขามีประสบการณ์กับหินลูกปัดลึกลับในสี่ปีที่ผ่านมา
เมื่อบ่มเพาะอยู่ในมิติความฝัน เขารู้ว่าได้ว่ามีก้อนเรืองแสงขนาดเล็กขึ้นรอบๆและดูดซับเข้าสู่ร่างกายเขา
ก้อนเรืองแสงพวกนี้หวังหลินวิเคราะห์อยู่นานแต่ยังไม่พบวิธีใช้งานที่แน่นอน
หวังหลินไม่ได้ใช้วิชาเพื่อปิดบังระดับการบ่มเพาะของตัวเองอีกต่อไปแล้ว สี่ปีในการฝึกเซียนหลังภูเขานี้สมเหตุสมผลเพียงพอที่จะอธิบายได้ทุกอย่าง
ไม่มีใครรู้ว่ายี่สิบปีที่ผ่านมาในเวลาของมิติความฝัน เขาได้เข้าสู่ระดับสามไปเรียบร้อยแล้ว
อีกทั้งยี่สิบปีท่ีผ่านเพิ่มเข้ามานั้น หวังหลินได้ฝึกวิชาแรงโน้มถ่วงอยู่เสมอและมันได้เข้าสู่ระดับที่คาดไม่ถึง
ความเป็นจริง ไม่มีใครในแคว้นจ้าวที่ใช้เวลายี่สิบปีเพื่อฝึกวิชาพื้นๆแบบนี้
ทันใดนั้นแสงสีขาวปรากฏเงียบๆบนท้องฟ้าและครอบคลุมทุกคน ความอบอุ่นได้เข้ามาอีกครั้งแต่เวลานี้หวังหลินสังเกตเห็นถึงความแตกต่างได้
มีสัญลักษณ์ประหลาดในแสงกระพริบรวดเร็ว พวกมันพุ่งเข้าหากันกลายเป็นวังวน จากนั้นก็ดึงทุกคนเข้าไปอย่างรวดเร็วและได้หายตัววับไปจากหุบเขา
ทุกคนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งอยู่ในโถงหลัก จ้าวสำนักนั่งอยู่ที่นี่ ยังคงสวมชุดคลุมยาวสีน้ำเงินเช่นเดิม ด้านข้างคือเหล่าผู้อาวุโสนั่งประจำอยู่หลายคน
ขณะนั้นสัมผัสวิญญาณอันแข็งแกร่งได้เข้าตรวจสอบ จ้าวสำนักยิ้มขึ้นทันทีพลางพยักหน้าและเริ่มพูด “สี่ปีได้ผ่านมาแล้ว ข้าต้องขอขอบคุณพวกเจ้าทั้งหลายที่ได้ก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ยอดเยี่ยมๆ ตอนนี้ให้ศิษย์ที่บรรลุระดับห้าหรือสูงกว่าอยู่ที่นี่ ส่วนที่เหลือออกไปบอกเล่าให้อาจารย์ของพวกเจ้าฟังถึงผลประโยชน์ในเวลาสี่ปี อีกสามวันสำนักซวนต้าวซ่งจะมาที่นี่ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราต้องชนะ การเปลี่ยนสีเสื้อจะเสร็จสิ้นหลังจากการประลองกับพวกซวนต้าวซ่ง”
ผู้คนทั้งหมดขานรับพร้อมเพรียงกัน ศิษย์ทั้งหมดที่ต่ำกว่าระดับห้าพลันออกไป หวังหลินมองไปรอบๆและไม่เห็นซุนต้าซื่อ
หลังจากออกมาจากห้องโถง หวังหลินไปที่สวนสมุนไพรของซุนต้าซื่อ เขาส่งสัมผัสวิญญาณออกไปและพบว่าผนึกบนประตูหยุดเขาไม่ได้แล้ว ดังนั้นสัมผัสวิญญาณจึงพุ่งออกไปในสวนสมุนไพรและพบกับซุนต้าซื่อที่นี่ ซุนต้าซื่อกำลังบ่มเพาะอยู่และไม่ได้สังเกตเห็นสัมผัสวิญญาณของหวังหลิน
ผนึกพลังที่ทำให้หวังหลินตกใจกลัวก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะมีแต่รอยตำหนิ หวังหลินรู้ว่าถ้าเขาต้องการจะทำลายผนึกนี้ก็ทำได้ง่ายดายนัก
หวังหลินยกเลิกสัมผัสวิญญาณและพูดขึ้นอย่างสุภาพ “ศิษย์หวังหลินมาที่นี่เพื่อเข้าพบอาจารย์”
ซุนต้าซื่อได้ยินดังนั้น เขาลังเลชั่วครู่ คิดอยู่สักพักจึงจำได้ว่าเขาได้รับศิษย์คนหนึ่งที่ชื่อหวังหลินเมื่อสี่ปีก่อน จากนั้นก็ได้ส่งหวังหลินไปฝึกฝนอย่างเข้มง่วด จนไม่แน่ใจว่าขยะเช่นนั้นจะสร้างความก้าวหน้าอะไรได้
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาจึงเปิดประตูสวนสมุนไพรและเอ่ยอย่างอวดดี “เข้ามาเถอะ”
หวังหลินเดินเข้าไป ซุนต้าซื่อตรวจสอบหวังหลินและร้องตะโกนขึ้น “เจ้าก้าวหน้าถึงระดับสามเชียว?!”
หวังหลินพยักหน้าและพูดอย่างเคารพ “ในสี่ปีนั้นศิษย์ได้ฝึกฝนอย่างหนักจนกระทั่งอดทนเข้าสู่ระดับสามได้”
ซุนต้าซื่อกระพริบตาหลายที เขาดูเหมือนจะจำได้ว่าทำไมถึงรับหวังหลินเข้ามาเพื่อเป็นศิษย์ ทั้งยังจำได้ว่าเขาต้องการรอจนกว่าศิษย์คนนี้เข้าถึงระดับแรกและใช้วิชาค้นวิญญาณ แต่หลังจากใคร่ครวญอยู่นาน เขาก็ได้ตัดสินใจยอมแพ้ เพราะมันใช้เวลาหลายปี การทุ่มเทให้กับเขาดูเหมือนจะไม่คุ้มค่าเท่าไหร่
ซุนต้าซื่อปรายตาไปที่หวังหลิน “ก็ดี เมื่อตอนนี้เจ้าบรรลุถึงระดับสาม เจ้าได้กลายเป็นศิษย์ของซุนต้าซื่อที่แท้จริง และในเมื่อเจ้าเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของข้า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าสามารถกลับมาและอาศัยที่นี่ได้อีกครั้ง ในอีกสองสามวันจะมีการประลองกับสำนักซวนต้าวซ่ง เจ้าสามารถติดตามข้าไปเพื่อเปิดโลกทัศน์ได้ แต่ว่าเจ้าได้ฝึกฝนวิชาแรงโน้มถ่วงหรือไม่?”
หวังหลินตอบคำถามด้วยใบหน้าปกติ “ศิษย์ได้ฝึกฝนวิชาแรงโน้มถ่วงแต่ว่ายังรู้สึกไม่คล่องเท่าไหร่นัก”
ซุนต้าซื่อพยักหน้าและพูดขึ้น “เป็นเรื่องธรรมดา วิชาพื้นฐานพวกนี้ต่างก็เอาไว้ฝึกฝน ยิ่งฝึกมากก็ยิ่งดีกับตัวเจ้าทั้งนั้น อาจารย์เจ้าได้ฝึกมาตลอดทั้งปีและได้รับความนับถือในสำนักมาอย่างยาวนาน ดูนี่” ขณะที่กำลังพูดอยู่พลันเคลื่อนมือตัวเองและกระบี่หลากสีขนาดเล็กปรากฏขึ้นหมุนเป็นวงกลมไปรอบๆห้องก่อนจะหยุดลงบนมือของซุนต้าซื่อ
“หลังจากฝึกฝนวิชาแรงโน้มถ่วงและบรรลุระดับสองได้ ก็จะสามารถเริ่มต้นฝึกฝนวิชาผลักวิถีได้แล้ว วิชาผลักวิถีเป็นวิชาเคลื่อนย้ายกระบี่ แน่นอนว่ากว่าจะทำได้ระดับนี้เจ้าต้องมีอย่างน้อยขั้นรวบรวมปราณระดับสี่ขึ้นไป แต่การประลองใกล้เข้ามาแล้ว เราไม่ควรทำเรื่องตลกในสำนัก ระดับการบ่มเพาะของเจ้าต่ำต้อยดังนั้นโอกาสของเจ้าก็ต่ำด้วย แต่เจ้าไม่สามารถทำให้สำนักเสียหน้าได้ กระบี่เหินยังสามารถควบคุมด้วยวิชาแรงโน้มถ่วงได้ ข้าจะให้ตราสัญลักษณ์กับเจ้าเพื่อไปนำกระบี่เหินจากสุสานกระบี่มาสวมใส่และแสดงให้เห็นในการประลอง” ซุนต้าซื่อพูดจบก็โยนตราสัญลักษณ์ให้กับหวังหลิน
ใบหน้าของหวังหลินแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก เขาเปิดปากค้างไว้อยู่นาน ไม่รู้จะพูดอะไรดี
เมื่อเห็นหวังหลินเป็นเช่นนั้น ซุนต้าซื่อถอนหายใจและพูดขึ้น “อย่าคิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กน้อย เจ้าควรจะดูดีเพราะว่าถ้าเจ้าทำข้าขายหน้าไว้เยอะ ข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า ตอนนั้นอาจารย์ของข้าก็ทำแบบเดียวกัน แค่ถือกรระบี่เหินเอาไว้ก็ทำให้อาจารย์เจ้าได้หน้าครั้งใหญ่แล้ว”
หวังหลินถึงคราวได้ยิ้มขึ้น “ศิษย์จะดูโหดเหี้ยมแน่นอน ท่านอาจารย์ไม่ต้องกังวล”
……………………………………..