บทที่ 35 หลังภูเขา

ตอนที่ 35 หลังภูเขา

มีศิษย์สายในมากกว่าสี่สิบคนยืนอยู่ในห้องโถงนี้ แต่ละคนใส่ชุดทั้งสีดำ ขาว แดง แต่กลับไม่มีสีม่วง เหล่าศิษย์ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด ในกลุ่มศิษย์พวกนี้ หวังหลินยังเห็นใบหน้าที่เขารู้จักเช่น หวังจัว แม่นางเสี่ยว แม่นางโจว ศิษย์พี่จ้างและคนอื่นๆ

ข้างหน้าเหล่าศิษย์มีผู้อาวุโสนั่งเป็นสองแถวจำนวนมากกว่าสิบคน ทุกคนใบหน้าเคร่งขรึม ขณะที่คนที่นั่งตรงกลาง อายุราวๆสี่สิบปี สวมเสื้อคลุมยาวสีน้ำเงิน ดวงตาราวกับสายฟ้า พลางเอ่ยขึ้น “ศิษย์น้องซุน นั่นเป็นลูกศิษย์ของเจ้ากระมัง?”

ซุนต้าซื่อรีบยิ้มอย่างรวดเร็วและพูดขึ้น “ศิษย์พี่อาวุโส นี่คือลูกศิษย์ข้าชื่อหวังหลิน เขาเข้าสำนักมาช้าดังนั้นจึงไม่รู้ความหมายของการลั่นระฆังห้าครั้ง”

บุรุษใบหน้าสีแดงนั่งด้านขวาเผยแววเยาะเย้ย “ลูกศิษย์ช่างเหมือนอาจารย์แท้ๆ เขาโง่เหมือนเจ้าเลย”

บรุษด้านข้างหัวเราะ “ศิษย์พี่นั่นก็ไม่ถูก น้องซุนอย่างน้อยก็พอมีพรสวรรค์อยู่บ้าง เขาแค่แข็งแกร่งกว่าศิษย์ตัวเองเท่านั้น”

ใบหน้าซุนต้าซื่อเปลี่ยนจากแดงและขาวชั่วครู่ เขาแสดงสีหน้าปั้นยากไปที่หวังหลิน ถอนหายใจครานึงก่อนจะทิ้งหวังหลินไว้และนั่งลง

บุรุษชุดคลุมยาวสีน้ำเงินขมวดคิ้ว เขามองไปที่หวังหลินหลายครั้งก่อนจะลืมเขาไป “จากที่พูดไปก่อนหน้านี้ อีกสี่ปีของการฝึกอย่างเข้มข้นนี้ต้องได้ผลลัพธ์ที่ดี พวกเราต้องชนะการแข่งขันกับสำนักซวนต้าว การฝึกฝนจะเริ่มวันนี้ พวกเจ้าจะได้เข้าไปที่หลังภูเขา ทุกๆคนจะได้รับสถานที่ฝึกฝนของตนเอง ทางสำนักจะแจกจ่ายเม็ดยารวมปราณหนึ่งหมื่นชิ้นให้พวกเจ้าทั้งหมดใช้ ทั้งนี้จะไม่มีใครออกนอกภูเขาระหว่างการฝึก”

เหล่าศิษย์สายในทั้งหมดตอบรับอย่างพร้อมเพรียง

บุรุษชุดคลุมสีน้ำเงินพยักหน้าและพูดขึ้นต่อ “ข้าหวังว่าในสี่ปีนี้ จะมีสักคนในพวกเจ้าได้กลายเป็นศิษย์ชุดม่วง ศิษย์ชุดม่วงนั่นหมายถึงตำแหน่งศิษย์หลักที่สำคัญมากกว่าศิษย์สายใน จงใช้ประสบการณ์ของพวกเจ้าให้มากขึ้น ทุกคนให้ไปด้านหลังภูเขาและจะมีคนนำไปพื้นที่ฝึกฝนเอง”

หลังจากเขาพูดจบได้โบกแขนเสื้อ แสงสีขาวพุ่งออกมาหมุนเป็นวงกลมรอบห้องโถง จากนั้นจึงเอ่ย “เปิด!”

แสงสีขาวได้ขยายตัวเองและในไม่ช้าก็ครอบคลุมเหล่าศิษย์สายในทุกคน

“ไป!” สิ้นเสียงตะโกนก้องของชายชุดคลุมน้ำเงิน แสงสีขาวส่องประกายและหายไปจากโถงหลัก

หวังหลินรู้สึกสัมผัสได้ว่าร่างกายอบอุ่นขึ้น กระพริบตาครานึงก็พบว่าตังเองอยู่ในหุบเขา สถานที่นี้มีพลังปราณมากกว่าที่อื่นมากนัก เสียงน้ำไหลเฉื่อยๆดังจากทุกด้าน เขาสำรวจพื้นที่และพบว่าศิษย์คนอื่นๆเริ่มพูดคุยกัน

หุบเขานี้ไม่มีต้นไม้ มันคือหน้าผาที่เต็มไปด้วยรูแกะสลักบนราวกับรังผึ้ง บางรูก็ปิดผนึกแน่นหนาด้วยหินขนาดยักษ์

ทันใดนั้นหวังหลินสังเกตได้ว่ามีใครบางคนกำลังมองเขา หันกลับไปพบหวังจัวยิ้มให้อย่างเยือกเย็น

ขณะนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งโผล่ออกมาจากรูบนหน้าผา เขาสวมชุดสีม่วงและมองทุกคนอย่างเยือกเย็น “เหล่าศิษย์ชายและหญิงทั้งหลาย ที่นี่คือภูเขาด้านหลังสำนักเหิงยั่ว พอเอ่ยถึงภูเขา ความจริงมันไม่ใช่ด้านหลังของสำนักเหิงยั่วแต่เป็นพื้นที่ฝึกฝนของศิษย์สายในที่สร้างโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญขั้นเซียนตัดวิญญาณเมื่อห้าร้อยปีก่อน สถานที่แห่งนี้มีพลังปราณหนาแน่นกว่าปกติ เมื่อพวกเจ้ามาถึงที่นี่แล้วจะต้องเพ่งสมาธิไปที่การฝึกเซียน ไม่เช่นนั้นสงสัยว่าว่าผู้อาวุโสของเราเตะพวกเจ้าออกจากภูเขานี่ทำไม”

หวังหลินจำชายหนุ่มชุดสีม่วงนี้ได้แล้ว เขาคือคนที่แลกของเหลวพลังปราณจากหวังหลินไป มีข่าวลือว่าเขาบรรลุขั้นรวบรวมลมปราณระดับหกแล้ว ช่างคาดเดาไม่ได้จริงๆ

หวังหลินก้มหัวลงต่ำ คนเจ้าเล่ห์แบบนี้หวังหลินเข้าใจเป็นอย่างดีเพราะว่าเขาคือคนที่ทำให้หวังหลินเกิดอันตรายมาก่อนหน้านี้

“ข้ามีบทร่ายของระดับเจ็ดลงมา ถ้าพวกเจ้าถึงระดับนั้นแต่ไม่มีบทร่ายให้มาหาข้า ข้าจะตรวจสอบและนำไปให้ ที่ที่พวกเจ้าจะฝึกฝนให้เลือกถ้ำพวกที่ไม่ได้ปิดผนึก เม็ดยารวมปราณอยู่ในขวดพวกนี้ แต่ละขวดจะมีห้าสิบเม็ดและมันจะเติมเต็มปีละครั้ง” หลังจากพูดจบก็โบกแขน ขวดสีขาวห้าสิบขวดปรากฏบนพื้น

ศิษย์สายในบางคนก้าวเข้าไปข้างหน้าและนำไปหนึ่งขวดจากนั้นมองหาทางเข้าเพื่อไปฝึกฝน

หวังหลินหายใจลึก เพราะว่าเขาได้ใช้เม็ดยาจำแลงมาก่อน คนคนนี้ไม่น่าจะรู้ตัวตนเขา ดังนั้นจึงเดินเข้าไปและหยิบขึ้นมา จางขวงยืนด้านข้างมองไปยังเหล่าศิษย์ที่มาหยิบขวดคนต่อคน เมื่อเขาเห็นหวังหลินจึงรู้สึกแปลกๆและถามขึ้น “เจ้าชื่ออะไร? เจ้ามาที่นี่ทั้งๆที่ยังไม่เข้าระดับแรกขั้นรวบรวมลมปราณได้เช่นไรกัน? ใครคืออาจารย์ของเจ้า?”

หวังหลินหยุดและหันไปมองรอบๆ เขาพูดอย่างสุภาพ “ศิษย์พี่อาวุโส ข้าชื่อหวังหลิน เป็นศิษย์ของอาจารย์ซุนต้าซื่อ ข้าขาดแคลนพรสวรรค์นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงยังไม่ถึงระดับแรกเสียที”

จางขวงติดมึน เขายิ้มขึ้น “โอ้ เจ้าคือหวังหลินน่ะรึ? ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงเจ้า แม้ว่าพรสวรรค์จะสำคัญ แต่พรแสวงนั้นเป็นหัวใจหลัก ตั้งแต่ที่เจ้าขาดแคลนพรสวรรค์ เจ้าก็ต้องฝึกให้หนักกว่าคนอื่น!”

หวังหลินตบปากรับคำอย่างรวดเร็ว

“หน้าผานี้ช่างสูงนักสำหรับเจ้าที่ยังไม่ถึงระดับแรก ข้าจะไปส่งเจ้าเอง” จางขวงโบกแขนเสื้อ ทันใดนั้นพลังล่องหนปรากฏบนเท้าหวังหลินและผลักเขาไปจนถึงข้างหน้าถ้ำ

หวังหลินขอบคุณจางขวงอย่างนอบน้อม หลังจากหันกลับมาและเข้าไปในถ้ำ ใบหน้าเขาก็มืดทะมึนอย่างรวดเร็ว ถ้าเขาไม่ได้เจอศิษย์พี่คนนี้มาก่อน เขาก็คงขอบคุณด้วยความจริงใจ แต่หลังจากเห็นธาตุแท้ของเขา นี่คงจะใช่แน่นอน หวังหลินไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ ถ้ำนี้ไม่ได้ใหญ่มาก มีเพียงเตียงหินและคันโยกบนกำแพง หวังหลินเดินเข้าไปและดึงคันโยกออกมา ทันใดนั้นเสียงดังสนั่นเป็นผลให้ก้อนหินปิดประตูทางเข้าลงและผนึกถ้ำอย่างสมบูรณ์

หลังจากตรวจสอบถ้ำอย่างระมัดระวังอีกครั้งเขาก็ไม่พบอะไรผิดปกติ หวังหลินค่อนข้างพึงพอใจกับที่นี่ เพราะเมื่อเขาไปหาซุนต้าซื่อและต้องการออกไปฝึกเซียนข้างนอกสำนักแต่กลับถูกปฏิเสธมา สถานการณ์ตอนนี้ได้นำเขาเข้ามายังแผนเดิมของตนเอง

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของที่นี่คือไม่มีแหล่งกำเนิดน้ำข้างในถ้ำ การฝึกของหวังหลินหลักๆแล้วเขาจะเติมของเหลวพลังปราณไปด้วย แต่กระเป๋าที่เขาถือไว้มีน้ำหิมะจำนวนมากในนั้นซึ่งมันควรจะพอให้เขาใช้ไปได้ไม่นานนัก

เขายังคงได้ยินเสียงน้ำภายในหุบเขา ตราบเท่าที่เขาระมัดระวัง การหาน้ำไม่อาจจะเป็นปัญหาได้

……………………………………….