บทที่ 81 ชิงพื้นฐาน (1)

ตอนที่ 81 ชิงพื้นฐาน (1)

มันเป็นกระบี่โบราณที่แข็งแกร่งมาก กระบี่ปลดปล่อยแรงกดดันอันชั่วร้ายออกมาจนอดจ้องมองนานๆไม่ได้ หวังหลินตื่นตัวอย่างช้าๆ สายตาหรี่แคบลงเข้าใจอะไรได้บางอย่าง

สามวันต่อมาทั่วทั้งเมืองตระกูลเถิงปกคลุมไปด้วยดอกไม้ เซียนเป็นพันคนเดินข้ามผ่านถนนหลากหลายเส้น จางฮู่และหวังหลินออกมาก่อนในตอนเช้าและพวกเขาก็หลงทางไปรอบเมือง

จางฮู่ต้องการขายโสมจึงออกไปหลังจากพูดคุยกับหวังหลินเพียงเล็กน้อย

หวังหลินเดินไปทั่วตัวเมืองอย่างช้าๆพลางตรวจสอบแผงขายของไปด้วย ของบางชิ้นก็ดูน่าสนใจแต่เนื่องด้วยราคาสูงเกินไป หวังหลินจึงไม่ได้ซื้อ

ขณะที่เขากำลังเดินอยู่ จู่ๆก็หยุดกึกลง เขาเห็นแผงของเซียนผู้หนึ่งที่มีทั้งกระบี่เหินหลากหลายแบบ หินหยกและแม้แต่หนังสือบทสวด

มีคำเล็กๆเขียนอยู่บนหนังสือเล่มนั้น “การค้นคว้าพื้นฐานลมปราณ”

“พื้นฐาน?” หวังหลินลูบคางและหยิบหนังสือขึ้นมา หนังสือนี้ทั้งขนาดเล็กและมีไม่กี่หน้า มันมีราวๆ 50 หรือ 60 หน้ากระดาษเท่านั้น

เจ้าของร้านอายุราวๆสามสิบปีเท่านั้น เขายกหัวขึ้นและพูดช้าๆ “สิบหินวิญญาณระดับกลางสำหรับหนังสือเล่มนั้น หากเจ้าซื้อก็อย่ามักง่ายไปจับมัน”

สิบหินวิญญาณระดับกลางเป็นทั้งหมดที่หวังหลินมีตอนนี้ ขณะที่กำลังพลิกผ่านหน้าหนังสือไปเล็กน้อย เขาเห็นเจ้าของร้านเร่ิมไม่อดทนแล้ว ดังนั้นจึงวางหินวิญญาณระดับกลางทั้งหมดไว้และจากไป

เขาได้ตรวจสอบแผงขายของเพิ่มและพบวัสดุที่มีธาตุไม้บ้าง แต่สิ่งของพวกนั้นต่างราคาแพงเกินไป เพียงเศษไม้เหล็กชิ้นเดียวแต่ราคากลับคาดไม่ถึงทั้งนั้น

หนึ่งวันผ่านไปก่อนที่หวังหลินจะคิดอะไรได้ เขากลับไปที่โรงเตี๊ยม ขณะที่กำลังจะก้าวเข้าไปข้างใน คิ้วพลันขมวดขึ้นและหยุดลง

โดยปกติ เวลานี้ที่โรงเตี๊ยมมักจะมีชีวิตชีวา แต่เห็นได้ชัดว่าขณะนี้เงียบกริบ

หวังหลินได้ปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณออกมาและทันใดนั้นใบหน้าก็เปลี่ยนไป มีพลังลึกลับบางอย่างรอบๆโรงเตี๊ยมที่กำลังป้องกันสัมผัสวิญญาณของหวังหลินไม่ให้รุกล้ำเข้าไปได้

หวังหลินเคลื่อนกายถอยหลังทันที กระตุ้นวิชาแรงโน้มถ่วงกับร่างกายและร่างเขาก็พุ่งออกไปหลายสิบเมตรราวกับกระบี่

“นั่นอะไรกัน? การตอบสนองของเจ้าเร็วมาก” เสียงประหลาดใจดังออกมาจากคนคนหนึ่งที่เดินออกมาจากโรงเตี๊ยม คนผู้นี้อายุราวๆ 25 หรือ 26 ปี สวมชุดคลุมสีขาวมีเถาวัลย์ถักอย่างปราณีตบนแขนเสื้อ

เขามองหวังหลินที่กำลังถอยหนีอย่างรวดเร็ว พลางพูดขึ้นอย่างเยาะเย้ย “เถิงเจี๋ย 藤甲(Téng jiǎ) เถิงหยี藤乙(téng yǐ) เจ้าทั้งสองรอไอ้เด็กจางฮู่ที่นี่ ทำลายพลังบ่มเพาะมันซะจากนั้นก็โยนมันลงไปในคุก ข้าจะไปจับไอ้เด็กฉลาดนั่น”

ขณะที่เขาพูดประโยคนั้น เงาสองร่างพุ่งออกมาและปรากฏตัวถัดจากเขา ทั้งสองร่างเงาเป็นร่างชายชราใบหน้าเหี่ยวกร้าน หนึ่งในนั้นพูดขึ้น “นายท่าน สองคนนี้อยู่ในเมืองตระกูลเถิง การกระทำนี้เป็นการแหกกฏ หากท่านหัวหน้าถามขึ้น...”

ชายชุดขาวขมวดคิ้วและจ้องไปที่หวังหลิน “ถ้าท่านปู่ของข้าถาม แค่บอกความจริงไป จางฮู่ได้ความช่วยเหลือจากคนนอกให้ฆ่าอาจารย์ตัวเอง ข้าจะปล่อยให้คนเช่นนั้นหนีไปได้อย่างไรเล่า?”

จบประโยค เขาโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง ร่างพุ่งไปบนอากาศตามล่าหวังหลินอย่างรวดเร็ว

ตาเฒ่าสองคนมองชายหนุ่มจากไป จากนั้นร่างก็หายตัวอย่างไร้ร่องรอย

หวังหลินปลดปล่อยพลังของตัวเองทั้งหมดและผลักตัวเองให้ถึงขีดสุดวิ่งหนีให้ทัน พอเห็นกำแพงเมือง เงาร่างสายหนึ่งได้ปรากฏและตะโกนขึ้น “เมืองตระกูลเถิงมีข้อห้ามไม่ให้เหาะเหินเดินอากาศ สหายเซียน โปรดหยุด!”

หวังหลินหยิบน้ำเต้าออกมาโดยไร้คำพูด เขาไม่มีเวลากังวลเรื่องความลับของน้ำพลังปราณพลันหยิบออกมาดื่มไปอึกใหญ่ พลังปราณเติมเต็มร่างกายพร้อมกับระเบิดความเร็วมุ่งหน้าไปทันที

เหล่าศิษย์ของตระกูลเถิงที่กำลังขัดขวางเส้นทางหวังหลินพลันเปลี่ยนสีหน้า หวังหลินพุ่งเข้าหาพวกเขาพร้อมกับใช้พลังแรงโน้มถ่วงโยนศิษย์เหล่านั้นออกไปด้านข้าง

หวังหลินพุ่งผ่านออกไปราวกับเป็นพลังที่ไม่อาจหยุดได้ การกระทำของเขา ทำให้มีศิษย์ตระกูลเถิงขับขี่สมบัติเซียนมากกว่าร้อยคนตามล่าอยู่ด้านหลัง

หวังหลินรู้สึกจิตใจเจ็บปวดยากจะข่มใจได้ เขายังไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่มีคนพวกนั้นรอเขาที่โรงเตี๊ยม หากเขาช้าไปเล็กน้อยก็คงถูกจับตัวไปแล้ว

ส่วนจางฮู่ หวังหลินได้แต่หวังว่าจะไม่เป็นอะไรเพราะตนเองก็อันตรายอยู่แล้ว

หลังจากออกจากเมืองตระกูลเถิง หวังหลินมุ่งหน้าไปทางทิศใต้พร้อมกับเหล่าศิษย์ตระกูลเถิงตามล่าเขามาด้านหลัง ทันใดนั้น แสงสีรุ้งเส้นหนึ่งได้พุ่งออกมาจากเมืองตระกูลเถิง เส้นแสงผ่านเหล่าศิษย์ทั้งหมดและพุ่งหาหวังหลิน

เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมา กระบี่เหินอันยักษ์ปรากฏและฟันลงไปที่หวังหลิน ขณะเดียวกันเส้นแสงได้รวมตัวกันเป็นบอลจำนวนนับไม่ถ้วนและตกลงไปพร้อมกับกระบี่

ศีรษะหวังหลินรู้สึกมึนงงส่วนซือถูหนานตะโกนขึ้น “นี่มันสมบัติเซียนระดับวิญญาณแรกกำเนิด! หวังหลินดึงสัมผัสวิญญาณของเจ้ากลับมา ข้าจะเคลื่อนย้ายระยะไกลให้!”

ผลึกสีน้ำเงินกระจายในมือหวังหลินและปกคลุมทั่วร่างกาย ขณะที่ทุกอย่างกำลังใกล้เข้ามา กระบี่ยักษ์ได้หวดลงไปส่งเสียงพื้นแตกดังกึกก้อง บอลสายฟ้าตกกระทบพื้น สร้างเป็นคลื่นสายฟ้าหลายเส้นสาย

ร่างหวังหลินหายตัวไปปรากฏอีกครั้งห่างออกไปสามร้อยเมตรและเหาะจากไปทันที

เสียงของซือถูหนานดูอ่อนแรงขณะที่ดุด่าหวังหลิน “ไอ้เด็กน้อยเหลือขอนั่นบรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณตั้งแต่อายุยังน้อย หากเจ้าอยู่ในขั้นพื้นฐานลมปราณ ข้าคงยืมร่างเจ้าใช้วิชาเซียนไปบ้างแล้ว แต่ตอนนี้เจ้าอยู่แค่ขั้นรวบรวมลมปราณ ไม่ว่าข้าจะช่วยเจ้าเช่นไร ข้าก็กำจัดได้เพียงครึ่งก้าวขั้นพื้นฐานลมปราณได้เท่านั้น”

เถิงลี่(藤厲 Téng lì) ขมวดคิ้วแต่ก็ยิ้มขึ้นทันที “เจ้าเป็นคนแรกที่อยู่ต่ำกว่าขั้นแกนลมปราณที่หนีจากการโจมตีของข้าได้ หากไม่ใช่พี่จื่อโม่บอกให้ข้าทำเช่นนี้ ข้าคงไม่อยากสังหารเจ้าจริงๆ”

หวังหลินรีบหนีอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้หันศีรษะกลับมา เขาใช้พลังปราณมหาศาลอย่างไม่ลังเล หยิบน้ำเต้าออกมาดื่มลงไปอึกหนึ่งอึกเพื่อเพิ่มความเร็วขึ้น

เถิงลี่ส่งสายตาเยือกเย็นและพูดขึ้น “ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะย้ายร่างระยะไกลได้อีกกี่ครั้ง!” เขาชี้นิ้วไปที่หวังหลิน ท้องฟ้ามืดหม่นและกระบี่ยักษ์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

………………………….