ตอนที่ 83 ชิงพื้นฐาน (3)
สองวันต่อมา หวังหลินอยู่ถัดจากลำห้วยเล็กๆ เขาเติมน้ำใส่น้ำเต้าอย่างระวังพลางตรวจสอบรอบตัวไปด้วย ใบหน้าเปลี่ยนไปทันทีราวกับโดนสาป “สงครามยังไม่จบ!”
เขาส่งกระบี่เหินออกไป หยิบน้ำเต้ากลับมาและก้าวข้ามธารแม่น้ำและวิ่งเข้าไปในป่าลึก
ขณะเดียวกันหลังจากนั้น เถิงลี่ตามล่าหวังหลินอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าใช้พลังปราณจนดูน่าสงสาร เสื้อผ้าเต็มไปด้วยหนาม ชุดเกราะหมดความเงางาม แขนขวาอ่อนปวกเปียก
เส้นผมกระเซอะกระเซิง ใบหน้าขาวซีด สายตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เกลียดชังต่อหวังหลินถึงขีดสุดจนไม่อาจจินตนาการได้ เขามักจะได้รับการปฏิบัติเหมือนอัจฉริยะมาเสมอตั้งแต่เด็กและไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์น่าสงสารแบบนี้มาก่อน
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหวังหลิน
เถาวัลย์สองวันก่อนเกือบจะฆ่าเขาได้แล้ว ไม่คิดว่าเถาวัลย์เล็กๆพวกนั้นจะอันตรายถึงตายได้ ตอนที่น้ำจากเถาวัลย์ยิงออกมากระทบกับชุดเกราะมันก็เริ่มละลายแผ่นเหล็กข้างใน หากจบแค่นั้นก็คงดี เขาอาจจะทำลายมันด้วยกระบี่เหินแต่ว่าเถาวัลย์นั่นไม่รู้จักตาย ทุกครั้งที่เขาตัดเถาวัลย์ออก มันจะแบ่งร่างออกเป็นสอง
แม้แต่บอลอัสนีที่สร้างจากกระบี่เหินก็ไม่สามารถหยุดเถาวัลย์พวกนี้ได้
จากนั้นก็มีการลอบโจมตีจากกระบี่ประหลาดของหวังหลิน แขนขวาจึงได้รับบาดเจ็บ
ในที่สุดเถิงลี่จึงหยิบสมบัติช่วยชีวิตที่ปู่มอบให้มา สมบัตินี้มีพลังรุนแรงมาก ตั้งแต่ได้รับมาเขาก็เคยใช้มันแค่ครั้งเดียว ทว่าหากไม่ใช้มันตอนนี้เขาคงไม่อาจจะรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้
ท้ายที่สุดภายใต้พลังของสมบัติเซียน เถาวัลย์ส่วนใหญ่ถูกทำลายและหนีกลับไปซ่อนใต้ดิน เถิงลี่จึงได้โอกาสหนี
พอคิดเรื่องนั้น หน้าผากเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ เขาเกลียดหวังหลินเข้ากระดูกดำไปแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวังหลินไม่เคยโจมตีที่หัวเขามาก่อนและมักจะลอบกัดเสมอด้วยกระบี่ประหลาด ทำให้เถิงลี่ต้องนำกระบี่เหินป้องกันรอบตัวไว้ทุกเวลา
เถิงลี่ตรวจสอบแม่น้ำอย่างระวัง หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อยเขาก็ดื่มน้ำตามเนื่องจากกระหายน้ำมาเกือบอาทิตย์
น้ำที่ดื่มไปรู้สึกหวานและสดชื่นมาก เถิงลี่รู้สึกพละกำลังฟื้นคืนมาจึงดื่มเพิ่มไปอีกราว ขณะนั้นราวกับหัวใจหยุดเต้น กระบี่เขียวใบเล็กปรากฏขึ้นด้านหลังพุ่งแทงเข้าหาที่หัว
เถิงลี่ล่าถอยทันทีโดยไม่ต้องคิด พลางเรียกกระบี่เหินของตัวเองมาปกป้องไปด้วย สองกระบี่ปะทะเข้าหากันแต่เห็นได้ชัดว่ากระบี่เขียวเสียเปรียบ หลังจากนั้นชั่วครู่ กระบี่เขียวก็ได้รับรอยขีดข่วนเพิ่มขึ้น มันกระพริบวาบและหายตัวไป
เถิงลี่มองเส้นผมที่โดนกระบี่เขียวตัดไปพลางกรีดร้องเต็มเสียง “สารเลว! ข้าสาบานว่าจะจับเจ้าให้ได้ ข้าจะให้เจ้าได้ทรมานเหมือนตายทั้งเป็น จากนั้นก็หลอมวิญญาณเจ้าซะ!”
หวังหลินกำลังวิ่งผ่านภายในป่า ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและกลืนโลหิตลงคอ กระบี่เขียวปรากฏด้านข้าง หวังหลินรู้สึกเจ็บปวดในใจเมื่อเห็นรอยขีดข่วนอันใหม่หลายรอย ประกายเย็นเยือบวาดผ่านสายตาพลางวิ่งไปด้วย
อีกห้าวันถัดมายามดึก หวังหลินและเถิงลี่ยังคงวิ่งกันอยู่ในป่า พวกเขาได้เข้ามาส่วนป่าลึกสุดเรียบร้อย ทันใดนั้นหวังหลินได้หยุดลงทันที
ซือถูหนานรีบพูด “เด็กน้อย เจ้าสังเกตเห็นเหมือนกัน? มีพลังปราณผันผวนแข็งแกร่งมากในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ออกไปตรวจสอบเถอะ” ที่ผ่านมาหลายวัน เขาใช้ความรู้ทุกอย่างของตัวเองเพื่อช่วยหวังหลินหลีกหนีอันตรายหลายอย่าง
หวังหลินหันเปลี่ยนทิศทางไปทิศตะวันตกเฉียงเหนือทันที ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ได้มาถึงจุดที่พลังปราณผันผวน
ฉากด้านหน้าทำให้สายตาหดแคบลง
ใต้แสงจันทร์มีต้นไม้ยักษ์ได้ถูกถอนรากถอนโคนวางราบบนพื้น พื้นที่แห่งนี้ทุกสิ่งราบเป็นหน้ากลองเว้นแต่ร่างคนตายที่นอนบนพื้นคนหนึ่ง
บนร่างเขามีลูกปัดเขียวกำลังรวบรวมพลังปราณจากทุกทิศทาง กำลังสร้างเป็นสายลมเล็กๆหลายสาย
ซือถูหนานมึนงงและพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ “แกนสีเขียว? ไม่คิดว่าจะมีแกนสีเขียวจากแคว้นระดับสี่ที่นี่”
หวังหลินถามขึ้น “แกนสีเขียวคืออะไร?”
“มันเป็นวิชาเซียนพิเศษของสำนักมารในแคว้นระดับสี่ แกนสีเขียวหรือแกนเทียมนั้นไม่เหมือนแกนปกติ เจ้าสามารถมีแกนสีเขียวมากเท่าไหร่ก็ได้ที่เจ้าต้องการ ข้าจำได้ว่ามีคนบ้าคนหนึ่งในแคว้นระดับสี่ที่มีแกนสีเขียวเป็นหมื่นชิ้น แม้แต่เซียนขั้นตัดวิญญาณจากแคว้นระดับห้ายังไม่กล้าแตะต้องเขา พูดได้ว่านอกจากความสามารถในการเพิ่มพลังฝึกตนแล้ว เมื่อแกนสีเขียวระเบิดขึ้น มันจะมีพลังรุนแรงมาก แล้วจะเป็นเช่นไรเมื่อเป็นหมื่นแกนระเบิดในครั้งเดียว ”
หวังหลินหรี่ตาครุ่นคิดและถามขึ้นทันที “คนนี้มีแกนสีเขียวกี่ชิ้น? ท่านพอจะบอกได้ไหม?”
“เขาน่ะหรือ? เพียงชิ้นเดียวก็ดีแล้ว และคนคนนี้ก็ไม่ได้มีชีวิต เห็นได้ชัดว่ามันเป็นผีดิบที่มีสติปัญญา เขาอาจจะเป็นเซียนนอกรีดจากแคว้นอับดับสี่ที่ใช้วิชาเซียนก่อนตายและกลายเป็นผีดิบ”
ผีดิบตัวนั้นเห็นหวังหลินแล้ว แต่มันยังไม่เคลื่อนไหว มันยกนิ้วขึ้นและสะบัด ลำแสงเขียวพุ่งตรงเข้าหาหน้าผากหวังหลิน
หวังหลินถอยร่นอย่างรวดเร็วหลบแสงสีเขียว
แสงสีเขียวไม่ได้ตามล่าต่อไปแต่สร้างเป็นวงกลมและหยุดลง แสงสีเขียวได้ปลดปล่อยภาพเลือนรางและเสียงไม่ค่อยชัด
“ออก...ที่นี่...เจ้า...ตาย” จบคำพูดนั้นภาพพลันเคลื่อนไหวและหายไป ไม่นานพลังปราณผันผวนจำนวนมหาศาลก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หวังหลินถอยกลับอย่างระมัดระวังโดยไม่หันกลับมา หลังจากนั้นสักพักสายตาเย็นเยียบได้ฉายผ่านใบหน้าหวังหลิน เขาไม่ได้วิ่งหนีอีกต่อไปแต่กลับปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณออกมา รอให้เถิงลี่จับตัวเขา
กระบี่ของเถิงลี่หมุนรอบร่างเป็นวงกลม กำจัดทุกอย่างที่ขวางเส้นทาง ทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นอะไรได้บางอย่างและยิ้มขึ้นทันที เขาชี้นิ้วไปข้างหน้าให้กระบี่พุ่งออกไป
เงาของหวังหลินอยู่ในระยะสายตา เถิงลี่ตื่นเต้นพลางตรวจสอบรอบด้านไปด้วย การกระทำของหวังหลินทำให้เขาต้องระวังตัว เถิงลี่เหยียดยิ้ม “ทำไมเจ้าไม่วิ่งหนีซะหล่ะ?”
หวังหลินชี้นิ้วขวาขึ้นและกระบี่สีเขียวก็ปรากฏ เขาโบกมือจากนั้นกระบี่เขียวก็พุ่งออกไป เขาหยิบเศษหยกออกมาปลดปล่อยพลังปราณเข้าใส่
ทันใดนั้น อักขระสี่ตัวปรากฏขึ้นจากหินหยก
เถิงลี่ยิ้ม เขากัดนิ้วตัวเองและสะบัดหยดเลือดลงบนกระบี่เหินของตัวเอง ทันใดนั้นกระบี่สั่นเทาขึ้นพลางปลดปล่อยลำแสงมารและกลายเป็นดาบใหญ่ ลำแสงอัสนีปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วนเช่นกัน แต่ครั้งนี้มีจำนวนมากกว่าครั้งก่อน
ดาบใหญ่ปลดปล่อยกลิ่นอายเยือกเย็นยามที่เถิงลี่เหวี่ยงดาบลงไป กระบี่เล็กของหวังหลินเคลื่อนย้ายพริบตาและปรากฏตัวด้านหลังเถิงลี่ ก่อนที่กระบี่จะโจมตีลงมา เถิงลี่แตะกระเป๋าและทันใดนั้นกระดิ่งชิ้นหนึ่งได้ปรากฏขึ้นแนบกับร่างกายทันที
กระบี่เขียวปะทะเข้ากับกระดิ่งกวาดเป็นระลอกคลื่น
ขณะที่ดาบใหญ่กำลังฟันลงมา หวังหลินชี้นิ้วเข้าหานำพาอักขระสีทองสี่ตัวพุ่งเข้าใส่ หวังหลินเคลื่อนที่ถอยกลับไปจนถึงที่ที่เขาเจอผีดิบ อักขระสีทองทั้งหมดระเบิดออกชนเข้ากับดาบใหญ่
ถึงอย่างนั้น มีอักขระสีทองเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น หลังจากหยุดนิ่งบนอากาศ ดาบใหญ่ฟันลงต่อทันที
เสียงพื้นแยกออกจากกันดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าพื้นปฐพีไม่อาจรับแรงกดดันได้ ต้นไม้ยักษ์รอบๆล้มลงระเนระนาด ตอนที่กระบี่นั้นฟันลงมา ร่างหวังหลินปกคลุมด้วยแสงสีฟ้าและเคลื่อนย้ายร่างหนีไป
ขณะกระบี่กำลังจะกระทบเข้ากับร่าง เขาเคลื่อนย้ายหนีไปร้อยเมตร โลหิตหยดลงมาจากหน้าผาก
ดาบใหญ่กระแทกลงบนพื้นดังปัง! หลังจากนั้นเกิดเสียงกรีดร้องดังขึ้น ร่างภูตผีกลิ่นเหม็นเหมือนซากศพพุ่งเข้าหาเถิงลี่
ใบหน้าเถิงลี่เปลี่ยนไปทันที เขาสงสัยอยู่แล้วแต่ไม่คาดคิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ที่นี่ เถิงลี่ชี้นิ้วเข้าหาส่งบอลอัสนีกระแทกเข้ากับผีดิบ
บอลอัสนีมีพลังรุนแรงมากและสายฟ้ายังเป็นจุดอ่อนต่อซากศพทั้งหมด พวกมันระเบิดทันทีเมื่อสัมผัสกับผีดิบ ผีดิบกรีดร้องออกมา ร่างกายเป่าหายไปเผยให้เห็นกระดูกดำทั้งร่าง
เถิงลี่เหยียดหยามพลางโบกมือซ้าย ทันใดนั้นบอลอัสนีสิบลูกปรากฏรอบกระบี่เหินพุ่งเข้าหาผีดิบรวมทั้งดาบใหญ่ที่ตามมาติดๆ
หวังหลินลอบคิดขึ้น ‘ไม่ดีแล้ว!’ เขาไม่คิดว่าผีดิบจะอ่อนแอแบบนี้และกำลังคิดจะหนีทันที
ผีดิบตัวนั้นสังเกตได้ว่ามีบางอย่างผิดพลาด ในเหตุการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย มันปลดปล่อยเสียงกรีดร้องและปลดปล่อยแกนสีเขียวออกมาทันที จังหวะที่แกนสีเขียวปรากฏขึ้น มันก็ระเบิด
บูมมมมม!
คลื่นพลังงานขยายออกมาเป็นวงแหวนรอบตัวผีดิบ เหล่าต้นไม้ใบหญ้าทั้งหมดกลายเป็นฝุ่นและยิ่งเถิงลี่เป็นคนที่อยู่ใกล้ที่สุด เขากัดปลายลิ้นและหยดโลหิตลงบนกระดิ่งที่แนบติดกับร่างกาย
พริบตาเดียวกระดิ่งเปลี่ยนเป็นสภาวะโปร่งใสครึ่งส่วนสร้างม่านพลังที่แข็งแกร่งขึ้น กระดิ่งนั้นมีรูปแบบวิธีใช้มากมาย
ขณะที่คลื่นระเบิดปะทะกับเถิงลี่ ระดิ่งสั่นไหวอย่างรุนแรง มันสั่นไม่กี่วินาทีก่อนจะแตกออก
เถิงลี่ใช้เวลาที่กระดิ่งยื้อให้จึงหยิบสมบัติอีกชิ้นออกมา พอกระดิ่งแตก ม่านป้องกันเพิ่มขึ้นด้านหน้าเขาอีกหลายชั้น
……………………………..