บทที่ 84 ชิงพื้นฐาน (4)

ตอนที่ 84 ชิงพื้นฐาน (4)

ม่านป้องกันหลากสีหลายชั้นจำนวนนับไม่ถ้วนโดนระเบิดจนแตกอย่างรวดเร็วราวกับโดนมีดแหลมผ่าทะลุกระดาษ

ส่วนหวังหลิน เนื่องจากอยู่ไกลมากและเถิงลี่เป็นเป้าหมายหลักของผีดิบ คลื่นกระแทกจึงไม่มีผลมากนักสำหรับเขา ตอนที่คลื่นพวกนั้นมาถึง เขาหยิบเศษหยกออกมาโยนไปด้านหน้า เศษหยกแตกและปลดปล่อยควันสีเหลืองล้อมรอบหวังหลิน

หวังหลินส่งสายตามองทะลุผ่านควันสีเหลืองและจับไปที่เถิงลี่

คลื่นกระแทกที่ระเบิดขึ้นได้เริ่มอ่อนแอลงแต่การป้องกันส่วนใหญ่ทั้งหมดของเถิงลี่แตกร้าว เมื่อการป้องกันชั้นสุดท้ายแตกลง เถิงลี่ชี้นิ้วไปที่ผีดิบ สั่งการให้ดาบใหญ่หยุดการโจมตีของมัน เวลาเดียวกันเถิงลี่ก็ถอยร่นไปห้าสิบเมตร

เขากลัวผีดิบตัวนี้อยู่ลึกๆทันที หากเขาไม่มีสมบัติหลายชิ้นคงตายเรียบร้อยแล้ว

พูดได้ว่าแม้พลังระเบิดของแกนสีเขียวผีดิบนี้ไม่ได้รุนแรงเท่ากับแกนระเบิดปกติ มันยังคงทำให้เถิงลี่ที่อยู่ระดับพื้นฐานลมปราณขั้นปลายต้องใช้สมบัติเซียนหลายชิ้นและอดทนได้ยากนัก

เขากลัวว่าผีดิบตัวนั้นอาจจะหยิบแกนสีเขียวออกมาอีกชิ้นได้ เถิงลี่หมดความต้องการในการสังหารหวังหลินเรียบร้อยและเหลือเพียงต้องการหนีจากที่นี่

หวังหลินจ้องมองเถิงลี่อยู่เสมอ เขายิ้มบางส่วนสายตาเย็นเฉียบ ยกแขนขวาขึ้น วางสองนิ้วเข้าหากันจากนั้นผลักออกไปด้านหน้า

ทันใดนั้น แสงสีเขียวกระพริบวาบ เถิงลี่รู้สึกถึงความเจ็บปวดด้านหลังขณะที่กำลังถอย เขาตื่นตระหนกโดยไม่ได้มองย้อนกลับมา

หวังหลินขมวดคิ้ว ชุดเกราะของเถิงลี่ส่วนใหญ่แตกหักแต่กระบี่ที่แทงทะลุไปยังถูกหยุดไว้ได้ หวังหลินหรี่สายตาเล็กลง กัดลิ้นและพ่นโลหิตออกมาจากปาก กระบี่เขียวปรากฏโลหิตแปดเปื้อนและส่งเสียงหึ่ง พุ่งทะยานไปหาเถิงลี่อย่างรวดเร็ว

ขณะที่อยู่บนอากาศ ทันใดนั้นกระบี่เขียวได้เคลื่อนที่พริบตาและแทงเข้าไปที่หลังเถิงลี่ ทันใดนั้นเถิงลี่หันศีรษะกลับมา สายตาที่เปื้อนเลือดและเผยแววตาดูถูก เศษหยกสองสามชิ้นลอยออกมาจากระเป๋า สร้างเป็นม่านพลังป้องกันขึ้นมา

ในเวลาเดียวกันเขายกมือซ้ายและชี้ไปที่หวังหลิน ทันใดนั้นดาบใหญ่หยุดกึกและฟันเข้าหาใส่ ส่วนบอลอัสนีที่ปล่อยออกมาก็กระแทกเข้าหาผีดิบ

เขากำลังพนัน พนันว่ากระบี่ของหวังหลินจะแทงเขาก่อนหรือดาบใหญ่จะหั่นหวังหลินออกเป็นสองส่วน หากหวังหลินหนีโดยใช้เคลื่อนย้ายระยะไกล เมื่อนั้นเขาก็คงสูญเสียการควบคุมกระบี่และมีเวลาให้เถิงลี่หนี ควันได้หายไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นหากเขายังอยู่แถวนี้อีกต่อไปก็คงขุดหลุมฝังตัวเอง

ซือถูหนานร้องลั่น “บ้า! เจ้ามันบ้า!” ซือถูหนานตัดสินใจเคลื่อนที่ระยะไกลให้ ลำแสงสีน้ำเงินปรากฏขึ้น หวังหลินตะโกน “ยังไม่ถึงเวลา! หยุดก่อน!”

ใบหน้าเขาเผยความเหี้ยมโหด เขาควบคุมกระบี่เล็กหลบหลีกม่านพลังป้องกันพวกนั้นโดยไม่สนดาบใหญ่และให้ปรากฏตัวด้านหลังเถิงลี่

เถิงลี่ตื่นตระหนก ดาบใหญ่ห่างศีรษะหวังหลินเพียงครึ่งเมตร กระแสโลหิตไหลนองจากหน้าผากหวังหลิน หวังหลินยิ้มขึ้นโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “ตาย!”

กระบี่สีเขียวกระพริบวาบพุ่งตรงเข้าหาเสื้อเกราะตามรอยเลือดบนร่างเถิงลี่

ขณะเดียวกันซือถูหนานก็ใช้เคลื่อนที่ระยะไกล ลำแสงสีฟ้ากระพริบวาบ ร่างหวังหลินหายไปใต้ดาบใหญ่และปรากฏตัวด้านหลังเถิงลี่ที่เปื้อนเลือด

ดาบใหญ่กระแทกลงสร้างรอยแยกลึกบนพื้น

หวังหลินไม่ใส่ใจเลือดบนหน้าผากตัวเอง คุกเข่าลงและวางมือบนร่างเถิงลี่ ซือถูหนานรู้ว่าหวังหลินกำลังคิดอะไร ทันใดนั้นลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าส่องสว่างและกระแสพลังงานไหลจากลูกปัดเข้าสู่เถิงลี่ ร่างเถิงลี่ถูกแช่แข็งราวกับน้ำแข็งด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ใช้เวลาเดียวครู่เดียว เร็วขนาดที่ว่าผีดิบยังไม่อาจเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมันเห็นว่าเถิงลี่ถูกแช่แข็ง มันก็มองหวังหลินอย่างระแวง

บอลอัสนีที่พุ่งเข้าหาผีดิบพลันกระจายหายไป แม้แต่ดาบใหญ่ก็หดลงกลายเป็นกระบี่เงินเรียวเล็กตกลงใส่รอยแยกบนพื้น

หวังหลินจับรูปปั้นแกะสลักน้ำแข็งและถอยหนีอย่างช้าๆ พลางชี้กระบี่เขียวไปที่ผีดิบด้วย

ผีดิบตัวนั้นได้จ้องไปที่หวังหลินและกรีดเสียงร้อง มันกำลังจะพุ่งเข้าหาหวังหลินแต่เห็นรอยแยกบนพื้นก่อน ระหว่างที่กำลังลังเลอยู่นั้น หวังหลินเคลื่อนที่ห่างไปได้สามร้อยเมตรและหายตัววับไปด้วยการเคลื่อนที่ระยะไกล

ผีดิบร้องคำรามและมองดูทิศทางที่หวังหลินหายตัวไป มันกระโดนลงไปบนรอยแยกและเก็บกระบี่ของเถิงลี่ มันความตื่นเต้นและกลืนกระบี่นั้นลงไป

หวังหลินถือรูปปั้นน้ำแข็งไปด้วย ใบหน้าซีดเผือดเคลื่อนที่ผ่านในป่าอย่างรวดเร็ว พอแน่ใจว่าไม่มีใครตามเขามา ในที่สุดก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาหยิบน้ำเต้าพลังปราณขึ้นมาดื่มหมดในอึดใจเดียว ก่อนจะนั่งลงทำสมาธิฝึกฝน

ในป่ามีแต่ความเงียบ หลังจากผ่านไปสักพัก หวังหลินลืมตาขึ้น ซือถูหนานส่งเสียงพูดออกมาอย่างไม่พอใจ

“ไอ้เด็กเหลือขอ เจ้าบ้าไปแล้ว? ถ้าช้าไปอีกนิดเดียว เจ้าก็ตายแล้ว”

หวังหลินพูดขึ้น “มันเป็นโอกาสเดียวที่จะสังหารเถิงลี่ ถ้าเขาฟื้นฟูพลังปราณได้ ข้าคงไม่มีโอกาสครั้งที่สอง มันตามล่าข้ามาหลายวันแล้ว หากข้าปล่อยเขาให้รอดชีวิต เขาจะเป็นอุปสรรคในอนาคต ข้าก็เลยต้องเสี่ยง อีกทั้งความเร็วของดาบใหญ่ขึ้นอยู่กับพลังปราณที่เขาเหลืออยู่ในร่าง ก่อนหน้านี้เขาใช้พลังไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นมันจึงเร็วได้ไม่เท่ากระบี่ของข้า”

ซือถูหนานเงียบเสียง พบว่าตัวเองรู้สึกว่าพึ่งจะรู้ความจริง “ตอนนี้เจ้ามีคุณสมบัติแล้ว ด้วยสภาวะจิตใจแบบนั้น เจ้าสามารถสร้างสำนักของตัวเองได้ในโลกผู้ฝึกเซียน” น้ำเสียงซือถูหนานไม่มีความโกรธหลงเหลืออยู่ แต่มีความนับถือเล็กน้อย หากเป็นเขาในเหตุการณ์นี้ก็คงไม่กล้าเสี่ยง

หวังหลินไม่ได้พูดแต่จ้องไปที่เถิงลี่ซึ่งถูกกับดักในน้ำแข็ง สายตาเขาสว่างวาบและพูดขึ้น “ขโมยระดับบ่มเพาะเขาจะได้ไหม?”

หลังจากได้ยินคำถามของหวังหลิน ซือถูหนานตอบกลับไป “ได้แน่นอน เขาอยู่ขั้นพื้นฐานลมปราณระดับปลาย หากเจ้าใช้เขาเพื่อทะลวงสู่ขั้นพื้นฐานลมปราณ ระดับฝึกตนของเจ้าจะเร็วกว่าคนปกติ อีกทั้งเจ้าจะได้รับพรสวรรค์ของเขาเล็กน้อย ดังนั้นพรสวรรค์ของเจ้าจะเพิ่มขึ้นด้วย เด็กคนนี้แข็งแกร่งตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้นพรสวรรค์ของมันต้องไม่ธรรมดา ฮ่าฮ่า เจ้าได้ของดีจากการพนันซะแล้ว”

เช่นนั้น ซือถูหนานอธิบายบทร่ายและกระบวนการชิงพื้นฐานอีกครั้ง ดวงอาทิตย์ยังไม่ลาลับเมื่อซือถูหนานพูดจบ หวังหลินปล่อยกระบี่สีเขียวออกมาและแทงไปที่ต้นไม้ยักษ์ใกล้ๆ

หลังจากสร้างเป็นหลุมในต้นไม้ หวังหลินกระโดดเข้าไปข้างในพร้อมกับเถิงลี่

เขาไม่ได้เก็บกระบี่กลับมาแต่ให้มันลอยไปรอบๆ

หลุมนี้ไม่ได้ใหญ่และชื้นแฉะ แต่หวังหลินไม่ได้ใส่ใจ เขาล้างแผลบนหน้าผากด้วยน้ำพลังปราณก่อนจะเริ่มฝึกฝน

ในตอนเช้าของอีกวัน หวังหลินอ้าปากปล่อยพลังปราณออกมากลายเป็นหมอกส่วนฝ่ามือผนึกหลายแบบปล่อยแสงสีฟ้าออกมา

จังหวะที่แสงสีฟ้าเข้าไปในหมอกพลังปราณ มันเริ่มเคลื่อนไหวราวกับน้ำเดือดทั้งหดและขยายตัวออก

หวังหลินสงบใบหน้านิ่งพลางใช้ฝ่ามือเคลื่อนไหวปล่อยแสงสีฟ้าเข้าไปในหมอกพลังปราณด้วย ยิ่งแสงสีฟ้าพุ่งเข้าไปมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะเริ่มหดตัวและขยายออกเร็วขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากนั้นเขาเคลื่อนมือขวาไปจับที่ร่างเถิงลี่ ซือถูหนานละลายน้ำแข็งโดยไม่รอให้หวังหลินถาม

ในพริบตาผลึกน้ำแข็งรอบๆเถิงลี่ก็หายไป

สายตาหวังหลินสว่างวาบ ชี้มือไปที่หมอกพลังปราณให้เข้าไปที่ร่างเถิงลี่ ร่างกายอีกฝ่ายเริ่มสั่นทันที ใบหน้าเผยความเจ็บปวด แต่ดวงตาหลับสนิท ในไม่ช้าหมอกทั้งหมดก็เข้าไปในร่างเถิงลี่

หวังหลินสูดหายใจลึกเผยใบหน้าเคร่งเครียด เขากัดลิ้นตัวเองเล็กน้อยและหยดอักขระโลหิตลงบนมือ

หวังหลินโบกมือขวาและอักขระนั้นก็วางบนหน้าอกเถิงลี่

ร่างเถิงลี่สั่นสะท้านอย่างรุนแรง ทั้งมือและขาสองข้างชักกระตุก โลหิตพุ่งออกจากรูทวารทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้นเลือดไม่ได้หยดออกไปไหนแต่กลับรวมเข้าด้วยกัน

ไม่นานหลังจากนั้น เสียงดังฟังชัดได้ดังออกมาจากร่างเถิงลี่ ใบหน้าเปลี่ยนสีแดงและปรากฏสีแดงแปลกๆบนผิวหนัง

หยดโลหิตไหลออกมาจากผิวของเถิงลี่

หวังหลินเคร่งเครียดมากขึ้น หยดอักขระเลือดลงบนหน้าอกเถิงลี่อีกหยดโดยไม่กระพริบตา

เถิงลี่อ้าปาก เส้นโลหิตบางส่วนในร่างแตกออก โลหิตไหลออกมาจากร่างกายและรวมตัวเข้าด้วยกันบนอากาศ

เพียงกระพริบตา ก้อนโลหิตขนาดยักษ์จึงลอยบนตัวเถิงลี่ ใบหน้าแดงกลายเป็นซีดเผือดอย่างรวดเร็ว

หน้าผากหวังหลินเต็มไปด้วยเหงื่อไคล มองดูก้อนโลหิตพลางสร้างผนึกบนฝ่ามืออย่างรวดเร็วไปด้วย ส่งวิชาเซียนบางอย่างเข้าหามัน ไม่นานนักก้อนโลหิตได้หดตัวลงอย่างช้าๆจนมันมีขนาดเท่ากำปั้นเปล่งแสงสีแดงเลือด

หวังหลินสูดหายใจลึก ทั้งร่างชุ่มไปด้วยเหงื่อ ปล่อยพลังปราณเพิ่มขึ้นโดยไม่หยุดพักให้มันพุ่งเป็นแสงสีฟ้าเข้าใส่ จากนั้นหวังหลินขยับฝ่ามือ สายหมอกเข้าไปในร่างเถิงลี่อีกครั้ง

……………………...