บทที่ 69 เอาคืน

ตอนที่ 69 เอาคืน

ซือถูหนานบ่นพึมพำไม่กี่คำ เขารู้ว่าหวังหลินกังวลมากจึงไม่พูดเสียเวลาอีก “มีพลังวิญญาณของข้าหลงเหลืออยู่เล็กน้อย ข้าสามารถช่วยส่งเจ้าย้ายร่างระยะไกลได้หนึ่งครั้ง แต่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะถ้าข้าใช้พลังวิญญาณเยอะเกินไป ข้าคงหายไปก่อนที่เจ้าจะบรรลุระดับแปลงวิญญาณ”

เมื่อพูดจบ ซือถูหนานก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก หวังหลินสัมผัสถึงลมเย็นเข้าสู่ร่างกาย มันได้ปกคลุมร่างเขาและแข็งแกร่งมากกว่าหลายเท่า จากนั้นเขาจึงย้ายร่างระยะไกลเป็นแสงสีขาว

ลมเย็นหมุนวนผ่านร่างกาย ทุกๆส่วนในร่างที่ลมนั้นผ่านเข้ามาถูกแช่แข็ง หวังหลินกลายเป็นเหมือนกับรูปปั้นน้ำแข็งและเริ่มสูญเสียการควบคุมวิชาแรงโน้มถ่วงของตัวเอง

โจวเผิงสังเกตการเปลี่ยนแปลงของหวังหลิน โดยเฉพาะเมื่อเห็นหวังหลินหยุดการไล่ล่าเขา แต่เขากลับไม่กล้าหันกลับมา จึงเริ่มเคลื่อนร่างเร็วขึ้น

ร่างหวังหลินกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง ซือถูหนานตะโกน “ใจเย็น ข้ากำลังจะเคลื่อนที่พริบตาให้!”

ทันใดนั้นลมหมุนสีดำได้ผ่านร่างกายหวังหลิน เพียงกระพริบตาร่างกายเขาก็หายไป

โจวเผิงใช้สัมผัสวิญญาณสังเกตหวังหลินตลอดเวลา เมื่อหวังหลินหายตัวไปทันทีจึงตกตะลึง ก่อนที่จะเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏจุดสีดำด้านหน้าห่างจากเขาห้าเมตร มันแบ่งตัวออกเป็นจุดสีดำเล็กๆหลายจุดและแต่ละอันกลายเป็นลมหมุนสีดำ

ขณะเดียวกัน ร่างหวังหลินก็ปรากฏกายขึ้น น้ำแข็งบนร่างละลายหายไปอย่างรวดเร็วและพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นเยียบ “เจ้าจะหนีไปไหนไม่ได้!”

โจวเผิงตกใจ ใบหน้าซีดเผือก กัดฟันกรอดปลดปล่อยแสงสีเขียวออกมาจากปาก แสงสีเขียวเริ่มขยายขึ้นจนกลายเป็นอสรพิษยักษ์แลบลิ้นสองแฉกและปล่อยเลือดออกมาย้อมกระดิ่ง เสียงกระดิ่งดังขึ้นและร่างอสรพิษขยายขนาดและตวัดหางไปหาหวังหลิน

ซือถูหนานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน “เจ้าเด็กเหลือขอ ยังมีพลังข้าหลงเหลืออยู่เล็กน้อยในร่างเจ้า ถ้าไม่ใช้มันคงน่าเสียดายแย่ ข้าจะขอยืมร่างเจ้าสักหน่อยนะ จะแสดงให้เจ้าเห็นถึงวิชาอันโด่งดังของข้า”

จบประโยค แสงสีน้ำเงินปรากฏจากร่างหวังหลินก่อตัวเป็นบอลแสงสีฟ้า

ขณะที่บอลแสงปรากฏขึ้น ท้องฟ้ากลายเป็นมืดครึ้มและพลังงานทำลายล้างปรากฏขึ้น

ตู้มมมมมม!

บอลแตกกระจายและส่งเป็นคลื่นพลังงานทำลายล้างออกมา

เมื่อคลื่นกระทบกับหางของอสรพิษตัวนั้น น้ำแข็งผุดลามตั้งแต่หางจนไปถึงหัว ร่างอสรพิษยักษ์หล่นลงไปบนพื้นกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง

โจวเผิงกระอักเลือดเนื่องจากเชื่อมต่อกับอสรพิษยักษ์ แต่ขณะที่เขาไอออกมาเป็นหยดเลือด มันกลับแข็งตัว จากนั้นร่างโจวเผิงก็แช่แข็งอย่างช้าๆจนกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง

ซือถูหนานพูดอย่างภูมิใจ “น่าเสียดายที่ไม่มีคนอื่นอยู่ที่นี่ วิชาเซียนของข้านี้จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมีคนอยู่เยอะๆ เจ้าเด็กน้อย นี่คือวิชาของวิถีเซียนนรก เจ้าเห็นความแข็งแกร่งในพลังงานเย็นของวิชาเซียนนี้ไหม?”

หวังหลินย้ายร่าง เขาจับเอาร่างแช่แข็งของโจวเผิงโดยไม่หยุดคิดและรีบไปให้ห่างไกลจากภูเขาเหิงยั่ว

หลังจากหาสถานที่ว่างเปล่าได้ จึงนำร่างแช่แข็งของโจวเผิงไว้ด้านข้างและถามซือถูหนาน “โจวเผิงมันตายแล้วหรือ?”

ซือถูหนานพูดช้าๆ “เด็กน้อยคนนี้ยังไม่ตาย แต่แค่ใกล้ตาย ถ้าเจ้าต้องการจะฆ่ามันเร็วๆ เจ้าก็แค่ทำลายน้ำแข็งเมื่อนั้นมันตายแน่ๆ”

หวังหลินเบิกตากว้าง หลังจากครุ่นคิดชั่วครู่เขาก็พูดขึ้น “คราก่อน ท่านบอกข้าถึงวิชาเซียนหุ่นเชิด สอนข้าตอนนี้เลย”

ซือถูหนานหัวเราะออกมาด้วยความสุข เขาไม่ได้บอกหวังหลินว่าวิชาเซียนหุ่นเชิดนี้เหมือนหรือว่ามาจากที่ไหน จริงๆแล้ววิชาหุ่นเชิดนี้เป็นวิชานอกรีด เขาคิดว่าหวังหลินกำลังขาดวิชาสังหาร ด้วยเหตุนี้แม้หวังหลินจะมีสิบชีวิตก็มิอาจเพียงพอให้อยู่รอดในโลกผู้ฝึกเซียนได้ ซือถูหนานพยายามอย่างมากที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยของหวังหลินและในที่สุดดูเหมือนว่าจะมีความสำเร็จอยู่บ้าง

ซือถูหนานเต็มไปด้วยความสุข “วิชาเซียนหุ่นเชิดนี้ต้องทำด้วยตัวเจ้าเอง ข้าจะบอกว่าต้องทำยังไงเมื่อเจ้าหาถ้ำดีดีได้”

หวังหลินจับโจวเผิง เขาค้นหารอบๆจนพบกับถ้ำแห่งหนึ่งและเข้าไปข้างใน

ซือถูหนานพูดช้าๆ “ตอนนี้ข้าจะปลดปล่อยไอเย็น โจวเผิงใกล้จะตายแล้ว เจ้าต้องเปิดร่างเขาและนำอวัยวะภายในออกมาและเริ่มปรับแต่งมัน”

หวังหลินตกตะลึง เขาลังเลเล็กน้อยจากนั้นพูดขึ้น “นำอวัยวะภายในออกมาและปรับแต่งมันหรือ? นี่...”

ซือถูหนานลอบหัวเราะ “นี่เป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อสร้างหุ่นเชิด ถ้าเจ้าทำมันไม่ได้ ข้าก็จะไม่ช่วยเจ้า” เขาลอบคิดขึ้น ‘เจ้าเด็กเหลือขอ ถ้าเจ้าไม่เคยเห็นเลือด เจ้าจะโหดร้ายได้ยังไง? วิชาหุ่นเชิดนี้ความจริงแล้วไม่ซับซ้อน แต่นี่เป็นโอกาสดีที่จะเปิดสายตาเจ้า เด็กน้อย เจ้าต้องเข้าร่วมสำนักมารของข้า เจ้าไม่อาจหนีได้!’

ขณะที่คิดเช่นนี้ ซือถูหนานตะโกนขึ้นรวดเร็ว “ข้ากำลังเอาน้ำแข็งออก เจ้ามีเวลาครึ่งชั่วโมงดังนั้นอย่าให้สูญเปล่า คิดแผนที่เจ้าจะทำกับครอบครัวซะ”

จบประโยค น้ำแข็งรอบกายโจวเผิงเริ่มละลายอย่างรวดเร็วและกลายเป็นแสงสีน้ำเงิน แสงสีน้ำเงินนั้นกลับเข้าหาลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า

หวังหลินลังเลชั่วครู่ เขาคิดว่าหากไม่แก้ปัญหาตอนนี้ มันจะมีปัญหามากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอนจึงกัดฟันแน่น โบกมือเข้าไปบนร่างโจวเผิงเพื่อเปิดแผลออก สิ่งแปลกปลอมนี้ไม่มีเลือดออกมาสักหยด ขณะที่เขากำลังระงับอาการคลื่นไส้นั้น หวังหลินก็ได้ทำตามคำแนะนำจากซือถูหนานไปด้วย เขาสร้างผนึกที่แตกต่างกันพลางใช้สัมผัสวิญญาณเพ่งไปด้วย ครึ่งชั่วโมงราวกับหนึ่งปี เมื่อซือถูหนานพูดขึ้นอย่างภูมิใจว่ามันเสร็จแล้ว จึงอดไม่ได้ที่หวังหลินจะรีบวิ่งไปหน้าปากถ้ำและอ้วกออกมา

ซือถูหนานหัวเราะ “ดีมาก ขั้นตอนแรกจบไปแล้ว ตอนนี้ขั้นตอนที่สองเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เจ้าต้องใช้สัมผัสวิญญาณล้อมรอบร่างกายของเจ้าเองและปรับแต่งมันเป็นเวลาสามวันสามคืน เมื่อเจ้าทำได้ หุ่นเชิดก็จะเสร็จสมบูรณ์แน่นอน เจ้าจำเป็นต้องใช้วิชาเซียนหลายอย่างในระยะเวลาสาม ข้าจะอธิบายมันให้กับเจ้าตัวต่อตัว ดังนั้นฟังให้ดี”

ใบหน้าหวังหลินซีดเผือกและพยักหน้าอย่างขมขื่น เขาสูดหายใจลึกและกลับเข้าไปในถ้ำ

…………………………….