บทที่ 47 รบกับงูทะเล
โบอิ้ง777ส่งเสียงสูงลากยาวบินว่อนอยู่บนท้องฟ้า
ฉินสือโอวยังมีอาการกลัวความสูงอยู่ จึงปิดตาเอนตัวลงกับเบาะที่นั่งมันซะเลย จิตสำนึกโพไซดอนกลับไปถึงมหาสมุทรแล้ว
ตอนนี้ที่ฟาร์มปลาคงจะกำลังคึกคัก ชาร์คติดต่อกับฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาอย่างอยู่ตลอดเพื่อที่จะนำเอาลูกพันธุ์ของปลาหมึกและสัตว์น้ำลำตัวนิ่มที่ยังเล็กเข้ามา หมู่ปลาค็อดในทะเลใช้วิธีรวมกลุ่มกัน ไล่จับสัตว์น้อยใหญ่พวกนี้จนมันพากันว่ายแตกกระเจิง
บางครั้งกรวดทรายที่ก้นทะเลก็จะมีปีนลูกปลาหมึกปีนก้อนข้ามไป หมู่ปลาค็อดตัวขนาดเท่าฝ่ามือก็รวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนลอยไปลอยมา ทำให้มหาสมุทรเต็มไปด้วยลมหายใจของสิ่งมีชีวิต
แหอวนเปื่อยๆที่เมื่อก่อนเคยถูกหว่านลงกลางทะเล เศษโครงไม้ที่แตกกระจัดกระจายเริ่มจะสร้างประโยชน์ ให้แก่สาหร่ายที่พันด้านบนโดยรอบ อาศัยเศษซากของสิ่งเหล่านี้เพื่อขยายพันธุ์
เมื่อมีสาหร่ายมากขึ้น ปลาก็มากขึ้น พวกปลาทะเลตัวแบนกับปลาเทราต์จึงพากันตามมาเอง แม้จะยังไม่มากนัก แต่การปรากฏตัวของพวกมันก็นำมาซึ่งความหวังให้แก่ฟาร์มปลา ตอนนี้ที่ฟาร์มปลาเริ่มจะมีแรงดึงดูดต่อพวกปลาบ้างแล้ว
บริเวณใกล้ทะเลปรากฏให้เห็นสาหร่ายใบใหญ่ชนิดหนึ่ง ที่ที่เติบโตราวเจ็ดแปดเมตร ลากเลื้อยอยู่ตามก้นมหาสมุทรจากนั่นจึงค่อยหยั่งรากลง เครือใบสีเขียวเข้มตั้งขึ้นมา พลิ้วไหวไปตามคลื่นทะเลอย่างไม่ขาดสาย เชื่อมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นผืนใหญ่ เกิดเป็นลักษณะท่าทางแบบที่ทำให้รู้สึกตราตรึงใจขึ้น
ท่ามกลางดงของสาหร่ายแผ่นใหญ่ มีเต่าทะเลขนาดเท่าฝาหม้อสองตัวกำลังกินอาหารอยู่
ส่วนหัว ขาทั้งสี่ข้างและลำของเต่าทะเลชนิดนี้ตัวล้วนแต่ถูกปกคลุมด้วยหนัง บนผิวไม่มีสารปกคลุมชั้นนอก บนกระดองข้างหลังมีกระดูกทรงเหลี่ยมขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่าฝังอยู่ ปากปรากฏให้เห็นเป็นรูปร่างเหมือนตะขอ หัวของมันมีขนาดใหญ่ หลังของมันเป็นสีดำฟ้า ประดับด้วยจุดสีขาว ดูแล้วสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
เต่าทะเลที่เซื่องซึมสองตัวว่ายน้ำลอยไปลอยมาในดงสาหร่าย ปากของมันขมุบขมิบฉีกกินสาหร่ายใบใหญ่ไม่หยุด บางครั้งเมื่อพบเข้ากับพวกลูกปลาหมึก ก็จะกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที แค่สะบัดหัวก็จับลูกปลาหมึกแล้วใช้ฟันเคี้ยวได้ทันที
อีกทั้งยังเป็นสัตว์ที่กินได้ทั้งพืชและสัตว์ ฉินสือโอวดูเต่าทะเลสองตัวอย่างสนอกสนใจ จากนั้นจึงไปที่ปะการัง
แนวปะการังนับวันก็ยิ่งใหญ่ขึ้น มันทอดตัวยาวต่อกันเกือบหนึ่งตารางกิโลเมตร สีสันสวยงามหลากหลาย มีชีวิตชีวา แมลงปะการังที่มีสีสันสวยสดก็ไม่หยุดที่จะแพร่พันธุ์ ฟองน้ำทะเลบางส่วนโบกสะบัดอยู่ในน้ำชั้นบนของปะการัง ปลาเล็กปลาน้อยฝูงหนึ่งว่ายไปมาอยู่ภายในนั้น ดูราวกับว่าพวกมันเป็นคนสวนที่จัดแต่งช่อดอกไม้อย่างขยันขันแข็ง
ทว่าตอนนี้ที่แนวปะการังไม่สงบสุขเลยแม้แต่น้อย งูทะเลกลุ่มหนึ่งที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหน ว่ายวนไปมาอยู่ใกล้ๆกับแนวปะการัง
งูทะเลพวกนี้มีขนาดความยาวไม่เท่ากันตั้งแต่ครึ่งเมตรถึงสองเมตร มีจำนวนมหาศาลราวยี่สิบกว่าตัว เกือบจะกลายเป็นเจ้าถิ่นบริเวณใกล้เคียงกับแนวปะการังอยู่แล้ว แม้แต่เจ้าบอลหิมะก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับพวกมันดี
งูจำพวกนี้ไม่เหมือนกับงูที่อยู่บนพื้นดิน งูทะเลทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีพิษ แต่ในมหาสมุทรแอตแลนติคนั้นจะพบงูทะเลได้น้อยมาก บางสถาบันวิจัยถึงกับมั่นใจอย่างถึงที่สุดว่าในมหาสมุทรแอตแลนติคไม่มีงูทะเลอย่างแน่นอน นี่คงจะเป็นแค่เรื่องเหลวไหลแน่
บริเวณใกล้ๆกับเกาะแฟร์เวลจะพบงูทะเลได้น้อย เนื่องจากงูทะเลเป็นสัตว์เลือดเย็น พวกมันไม่สามารถปรับตัวเข้ากับน่านน้ำที่หนาวเย็นได้ ส่วนมากมักจะมีชีวิตอยู่ที่น่านน้ำเขตร้อนโดยเฉพาะในเขตทะเลของออสเตรเลียและแอฟริกา
เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน แหล่งหาปลาในนิวฟันด์แลนด์มีกระแสน้ำอุ่นไหลมาจากเม็กซิโก คาดว่างูทะเลพวกนี้คงจะอาศัยบริเวณนั้นเพื่อดำรงชีวิต
หลังจากที่ฉินสือโอวรับช่วงทำฟาร์มปลาต่อ เขาก็ท่องจำความรู้เกี่ยวกับมหาสมุทรมาโดยตลอด เขาแยกออกว่างูทะเลชนิดนี้คืองูแสมรังเหลืองลายครามที่พบมากในน่านน้ำเขตอบอุ่น พวกมันกินอาหารได้หลากหลายแต่ส่วนมากจะชอบกินลูกปลาเป็นอาหาร คาดว่าหากพวกมันอยู่ที่นี่ คงทำให้ปลาทั้งหลายในแนวปะการังต้องสูญพันธุ์เป็นแน่
เมื่อเห็นงูทะเลพวกนี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกค่อนข้างหวาดหวั่น ลักษณะของงูทะเลแน่นอนว่าคงไม่สวยงาม สัตว์ทะเลพวกนี้ล้วนมีลักษณะดุร้าย พวกมันมีสีสันหลากหลาย หางที่แบนราบราวกับไม้พายสายสะบัดน้ำทะเล ท่วงท่าตอนว่ายน้ำล้วนนำมาซึ่งความรู้สึกชั่วร้าย
ฉินสือโอวรู้ว่าต้องไล่พวกมันออกไป แต่ว่าจะใช้วิธีไหนกันล่ะ?
ในช่วงเวลาหนึ่ง ฉินสือโอวรู้สึกกลัดกลุ้ม แต่ทว่าการมาถึงของเขาก็ทำให้เจ้าบอลหิมะและพวกปลาเทราต์หัวแข็งต่างๆรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา ปลาพวกนี้สัมผัสได้ถึงจิตสำนึกของโพไซดอน จึงเข้ามาล้อมรอบเขา
ฉินสือโอวทดลองใช้วิธีการปลุกใจปลาเหล่านี้เพื่อขับไล่งูทะเลออกไป เขาได้ให้บอลหิมะเป็นผู้นำ ให้ปลาเทราต์หัวแข็งเป็นกำลังหลัก นอกจากนี้ยังมีปลาครีบคู่ ปลาค็อดต่างๆ พวกมันดูราวกับนักสู้ที่องอาจ บุกเข้าโจมตีงูแสมรังเหลืองลายครามอย่างดุดัน
พวกงูแสมรังเหลืองลายครามก็ตกใจ รวมตัวกันขึ้นมาโดยสัญชาตญาณเพื่อทำการคุมเชิงฝูงปลา
บอลหิมะว่ายน้ำอย่างลำพอง ขนาดตัวที่ใหญ่มหึมาของมันนำมาซึ่งความกดดันที่พอๆกันให้แก่งูทะเล ฝูงปลาเทราต์หัวแข็งก็มีความกล้าหาญเป็นอย่างยิ่ง หลังจากเข้าใกล้แล้วพวกมันจึงบุกเข้าปะทะ ลักษณะเหมือนกับการยิงลูกธนูแหลมออกไป
สถานการณ์รบครั้งใหญ่ก็แตกปะทุ แต่ฉินสือโอวกังวลว่าเหล่าปลาจะเสียเปรียบ พิษของงูทะเลนั้นมีความร้ายแรงเกินไป เพียงแค่กัดปลาพวกนี้ ก็สามารถทำให้พวกมันตายได้
ฉินสือโอวรีบกระตุ้นความคิดอย่างรวดเร็ว เขาคิดวิธีหนึ่งขึ้นมาได้ งูทะเลแตกต่างจากปลา พวกมันใช้ปอดในการหายใจ ไม่สามารถอยู่ในน้ำเป็นเวลานานๆได้ ถัดอีกช่วงก็ต้องขึ้นไปหายใจบนฝั่ง
ที่พวกมันสามารถดำน้ำลงมาจับอาหารได้ สาเหตุหลักก็คือปอดของงูทะเลมีความจุมาก เมื่อดำน้ำหัวใจจะเต้นช้าลงเพื่อเป็นการลดการบริโภคของอากาศที่ใช้หายใจ นอกจากนี้ผิวหนังของมันยังสามารถดูดซึมออกซิเจนบางส่วนและขับถ่ายคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปได้
ทว่าช่องว่างภายในปอดของมันกลับมีจำกัด ออกซิเจนที่ดูดซึมโดยผิวหนังไม่สามารถทำให้มันมีชีวิตอยู่ได้ ฉินสือโอวควบคุมบอลหิมะกับปลาตัวอื่นๆ ให้ล้อมรอบพวกมันเอาไว้ เพื่อก่อกวนพวกมัน ทำให้พวกมันต้องเคลื่อนไหวมากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้งูทะเลจะใช้ออกซิเจนเร็วขึ้น เมื่อไม่มีออกซิเจนก็จะต้องไปจากที่นี่
ฉินสือโอวไม่อยากให้ฟาร์มปลาของตนมีงูทะเล ถึงแม้เขาจะหวังว่าหากฟาร์มปลาของตนมีชนิดพันธุ์สัตว์น้ำที่หลากหลายก็จะยิ่งเป็นเรื่องที่ดีก็ตาม แต่พิษของงูทะเลนั้นร้ายแรงเกินไป หากภายหลังไปกัดคนเข้าคงจะวุ่นวายน่าดู
ท้ายที่สุด หลังจากที่จิตสำนึกโพไซดอนเข้าปกคลุมงูทะเล งูทะเลพวกนี้จึงถูกรบกวน ราวกับว่าพวกมันรับรู้ได้ถึงความตั้งใจที่จะขับไล่ของฉินสือโอว พวกมันจึงสะบัดหัวสะบัดหางว่ายน้ำจากไปเองอย่างไม่คาดคิด
นี่ทำให้ฉินสือโอวไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรกเขาคงต้องไม่ใช้กำลังกลุ่มใหญ่ให้เปลืองแรงหรอก
งูทะเลจากไปแล้ว ปลาทะเลตามแนวปะการังก็กระจายความรู้สึกปีติยินดีอย่างชัดเจน ดูท่าว่าพวกมันก็คงจะรู้เช่นกันว่าการมีอยู่ของงูทะเลพวกนี้เป็นภัยต่อการดำรงชีวิตของพวกมัน
หลังจากนั้นจนถึงยามที่เครื่องบินบินลง ณ ท่าอากาศยานนานาชาติโทรอนโตเพียร์สัน ฉินสือโอวควบคุมจิตสำนึกโพไซดอนให้ว่ายไปในมหาสมุทรได้อย่างสบายใจ เขาแผ่ขยายอาณาเขตของจิตสำนึกโพไซดอนออกไปเท่าที่จะควบคุมได้
เมื่อเครื่องบินลดระดับสู่พื้นดินแล้ว ฉินสือโอวก็หยุดรออยู่ที่สนามบินก่อน เออร์บักได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ‘ขอให้การนัดเดทเป็นไปอย่างราบรื่นนะ’ จากนั้นจึงออกเดินทางต่อ
หลังจากนั้นไม่นาน วินนี่ที่สวมเครื่องแบบสีฟ้ากับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนอื่นๆที่กำลังลากกระเป๋าหนังคุยกันอย่างสนุกสนานก็เดินออกมา ฉินสือโอวเข้าไปช่วยวินนี่ลากกระเป๋า และถามเธอว่า “พวกเราไปโรงแรมกันก่อนใช่ไหม?”
แอร์โฮสเตสสาวหน้าอกใหญ่คนหนึ่งจึงหยอกเย้าขึ้นมา “พระเจ้า พวกคุณพัฒนาความสัมพันธ์กันเร็วเกินไปแล้ว นี่จะพากันไปโรงแรมเลยเหรอ? สุดหล่อ คุณใจร้อนเกินไปแล้ว”
ความหมายที่ฉินสือโอวจะสื่อคือให้วินนี่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือพักผ่อนเสียหน่อย ไม่คิดว่าจะถูกคนอื่นเข้าใจผิด จึงต้องรีบร้อนอธิบาย
แอร์โฮสเตสสาวเหล่านี้มีใบหน้าสวยงาม รูปร่างเซ็กซี่ ตั้งแต่เด็กก็มีผู้ชายมาคอยตามจีบ เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักกันทุกคน เมื่อเทียบกันกับฉินสือโอวแล้วนั้น นับว่าเขายังใสบริสุทธิ์เกินไปด้วยซ้ำ อีกเดี๋ยวคงโดนหยอกจนวางมือไม้ไม่ถูกเป็นแน่
วินนี่ลากฉินสือโอวให้วิ่งหนีออกมา แต่ก็ยังมีเสียงแอร์โฮสเตสสาวแซวตามมาข้างหลัง “วินนี่ เธอเป็นห่วงเขาจังเลยนะ ดูท่าว่าพวกเราคงต้องเตรียมตัวไปงานแต่งงานของพวกเธอแล้วล่ะ”
ฉินสือโอวตกใจจนแทบพูดไม่ออก “ผมว่าเพื่อนร่วมงานของคุณนี่แสบไม่เบาเลย ถ้าต้องอยู่กับพวกเขาเป็นประจำคงจะปวดหัวหน้าดู”
วินนี่จึงพูดให้เขาฟังด้วยท่าทางเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์ “นั่นเป็นเพราะว่าคุณอยู่กับฉันไงคะ ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวคุณจะรับไม่ได้ ฉันจะจัดการพวกก่อกวนนั่นให้ได้รู้ถึงฝีมือฉันสักหน่อย! ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าฉัน พวกเขาก็เหมือนลูกแมวเชื่องๆนี่เอง”
แล้วเขาสองคนก็ไปที่โรงแรมจริงๆ จ่ายเงินค่าแท็กซี่ไปสี่สิบเจ็ดดอลลาร์ เพื่อเดินทางจากสนามบินมาสู่เขตเมือง
โรงแรมที่ฉินสือโอวเลือกคือโรงแรมควีนส์โฮเต็ล ที่นี่เป็นโรงแรมห้าดาวที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในโทรอนโต เมื่อคราวที่ราชาเพลงไมเคิล แจ็คสันมาเปิดการแสดงที่โทรอนโต ก็ได้เข้าพักที่นี่
หลังจากลงรถ วินนี่กลับกล่าวปฏิเสธ “ฉิน โรงแรมควีนส์โฮเต็ลแพงเกินไปนะคะ พวกเราแค่แวะมาเที่ยวที่นี่นิดหน่อย ไม่ได้ตั้งใจจะมาพักที่โรงแรม เพราะอย่างนั้นก็อย่าเลยดีกว่านะคะ”
ฉินสือโอวกระเป๋าเงินหนา เขาไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้ แต่ผลสุดท้ายวินนี่ยังยืนยันที่จะไม่เข้าพักทีโรงแรมแห่งนี้ จึงต้องหาโรงแรมสามดาวที่ชื่อว่า ‘โรสโฮเต็ล’ แทน
ตอนที่กำลังจองห้องพักฉินสือโอวหวังว่าจะมีเหตุการณ์แบบในทีวีหรือนิยาย อย่างเช่นพนักงานบอกว่ามีผู้เข้าพักเยอะมาก จึงเหลือห้องเพียงห้องเดียว อะไรทำนองนั้น ทำให้เขาต้องอยู่ห้องเดียวกันกับวินนี่ ‘ด้วยความจำเป็น’
น่าเสียดาย บนความเป็นจริงเดือนพฤษภาคมนั้นไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่่ยวของโทรอนโต อย่าว่าแต่จองห้องแค่สองห้อง จองสักยี่สิบห้องก็ไม่มีปัญหา
ค่าใช้จ่ายของห้องพักหนึ่งห้องอยู่ที่หนึ่งร้อยสี่สิบดอลลาร์ ฉินสือโอวจ่ายค่าที่พักแล้ว ทั้งสองจึงแยกย้ายเข้าห้อง พวกเขานัดกันไว้ว่าจะพักผ่อนในตอนกลางวัน เมื่อถึงตอนกลางคืนค่อยพากันไปเที่ยวชมบรรยากาศของเมืองโทรอนโต
เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ ทั้งสองคนจึงได้พบกัน วินนี่เปลี่ยนชุดจากชุดเครื่องแบบมาเป็นเสื้อขนสัตว์สีแดงแขนยาวแบบใส่สบายๆ
เสื้อตัวนี้ถูกออกแบบให้มีความลาดเอียงแบบข้างหน้าสั้นข้างหลังยาวแบบปิ่น เมื่อสวมใส่ก็ส่งให้วินนี่มีความรู้สึกที่ดูสบายตา เข้ากันกับกระโปรงพลีทและถุงน่องโปร่งแสงสีดำ ดูแล้วมีเสน่ห์อย่างยิ่ง
“พอจะใส่ไปข้างนอกได้ไหมคะ?” วินนี่ยิ้มหวานถามออกมา
มองดูท่อนขาเรียวสวยที่สวมสองถุงน้องสีดำคู่นั้นแล้ว ฉินสือโอวก็รู้สึกอึดอัดเป้ากางเกงขึ้นมา เขารีบพยักหน้าตอบ “สวยเกินไปแล้วครับ สวยจนผมเครียดเลยล่ะ ผมคงต้องดูแลคุณให้ดีๆ จะได้ไม่ถูกคนอื่นแย่งไป”
วินนี่หัวเราะคิกคัก เดินลงบันไดอย่างกระโดดโลดเต้น และถึงแม้จะทำท่าทางเช่นนี้ ก็ยังมีความสง่างามที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็สะบัดไม่หลุด
ผู้หญิงบางคน มีเสน่ห์ที่งดงามลงไปจนถึงเนื้อแท้ และไม่ต้องสงสัยเลย วินนี่ก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงเช่นนั้น
...............................................................