ตอนที่ 153 อวดดีต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ (4)
หัวใจของจวินชิงสั่นไปเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าจวินอู๋เสียจะอาศัยการจลาจลนี้เพื่อวางแผนตลบหลัง ชักนำความโชคร้ายกลับไปสู่คนพวกนั้น!
“เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าคนทั้งห้าสิบคนนั้นมาจากวังหลวง” จวินชิงถามออกไป สิ่งที่จวินอู๋เสียพูดมานั้นไม่ผิดเลย หากเป็นในสถานการณ์ปกติ การตามหาใครสักคนคงจะเป็นเรื่องยากและต้องใช้กำลังไม่น้อย แต่ในสถานการณ์ที่ทุกคนกำลังตื่นตัวเพราะเรื่องยาพิษ หากมีใครคนหนึ่งออกไปทำงานข้างนอกบ้านแล้วไม่ได้กลับมา แม้จะเป็นงานที่ทำในที่โล่งแจ้ง มีคนเดินพลุกพล่าน และเห็นหน้ากันและกันตลอดทั้งวัน แม้จะไม่เกี่ยวข้องกันก็ตาม แต่ถ้าไม่ได้เห็นหน้ากันเลยก็ต้องเริ่มมีผู้ถามถึงความปลอดภัยของพวกเขาบ้างแล้ว
มีครอบครัวไหนบ้างที่ไม่กลัวว่าคนที่ตายไปจะเป็นหนึ่งในสมาชิกในครอบครัวของตัวเอง!
ประกอบกับจวินอู๋เสียได้จงใจขอให้หลงฉีเผยแพร่ข่าวไปในหมู่ประชาชนว่ายาแก้พิษนี้นางจะทำให้เฉพาะกับคนในเมืองหลวงเท่านั้น ไม่ได้ถูกส่งเข้าไปในวังหลวง
ญาติของคนเหล่านั้นที่มีคนในตระกูลทำงานเป็นบ่าวรับใช้ นางกำนัล ขันที ทหารและอื่นๆ ในวังหลวง ก็จะยิ่งเป็นกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยของพวกเขา และต้องรีบร้อนเอายาถอนพิษไปส่งให้พวกเขาที่วังหลวงเพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ปัจจุบัน
สำหรับสิ่งเหล่านี้ จวินอู๋เสียไม่จำเป็นต้องลงมือทำเองสักนิด เพียงแค่นั่งรออยู่ที่จวนอย่างสบายๆ ชาวบ้านพวกนั้นก็จะส่งข่าวมาให้ถึงมือของนางเอง
“พวกเขาทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ จะกล้าใช้คนนอกได้อย่างไรกัน” จวินอู๋เสียชี้ให้เห็นตรงจุด การลากคนทั้งเมืองหลวงให้ต้องมารับเคราะห์ด้วย แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังไม่กล้าทำ เพราะถ้าหากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไป พระองค์จะต้องถูกความเกรี้ยวกราดของปวงชนเตะลงจากราชบัลลังก์อย่างแน่นอน พระองค์ไม่กล้าเสี่ยงเดิมพันกับเรื่องนี้หรอก
ที่เหลือก็มีแค่คู่ชายโฉดหญิงชั่วสองคนนั้นเท่านั้น…
และในเมื่อพวกเขากล้าวางแผนใช้ยาพิษเล่นงานคน แน่นอนว่าจะต้องเหยียบเรื่องนี้ให้มิด แล้วพวกเขาจะกล้าใช้คนนอกได้อย่างไร จะกล้าปล่อยให้ข่าวนี้รั่วไหลออกไปได้อย่างไร!
ไม่ใช่แค่นางกำนัลขันทีในวังหลวง แม้แต่ทหารในกองทหารรักษาพระองค์เองก็เป็นเป้าหมายที่ถูกจวินอู๋เสียจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ที่ต้องตรวจสอบ
“แต่ว่าเรื่องนี้หากตรวจสอบออกมาแล้วพบว่า…” จวินชิงนึกถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาไม่ออกเลยว่ามันจะเลวร้ายมากเพียงใด หากว่าคนทั้งห้าสิบคนนั้นถูกปล่อยออกมาจากวังหลวง เรื่องนี้เขาไม่กล้าจินตนาการต่อจริงๆ
“เจ้าคิดจะใช้ความโกรธแค้นของประชาชนมาต่อกรกับฮ่องเต้อย่างนั้นหรือ” จวินชิงถามจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียกลับส่ายหัวแล้วตอบ
“เรื่องแก้แค้น ข้าถนัดลงมือด้วยตัวเองมากกว่า”
อาศัยมือของคนอื่นทำ มันจะไปสะใจได้อย่างไรเล่า!
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทียบกับความโกรธแค้นของประชาชนหลายหมื่นแสนคน เมื่ออยู่ต่อหน้าอำนาจที่แท้จริงของฮ่องเต้ มันจะต้านทานได้สักกี่น้ำกันเชียว
จวินชิงมองไปที่จวินอู๋เสียด้วยความตกใจมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหลานสาวของตัวเองจะมีมุมเช่นนี้อยู่ด้วย!
หลังจากคิดพิจารณาถึงเรื่องราวทั้งหมด จวินชิงก็ขมวดคิ้วแล้วกล่าวกับจวินอู๋เสียไปว่า “จากที่เจ้าพูดมา ยาพิษนั่นมาจากมือของไป๋อวิ๋นเซียนสินะ อู๋เสีย เจ้าอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับอำนาจของสำนักชิงอวิ๋นว่ามันมีมากมายแค่ไหน หากเจ้าคิดแค่จะจัดการกับฮ่องเต้ แล้วดันองค์รัชทายาทได้ขึ้นครองบัลลังก์อย่างชอบธรรม แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องยาก แต่หากเป้าหมายของเจ้าคือไป๋อวิ๋นเซียน ข้าอยากให้เจ้าระมัดระวังและคิดให้รอบคอบกว่านี้อีกสักนิด ฆ่าไป๋อวิ๋นเซียนไม่ยาก แต่ที่ยุ่งวุ่นวายคือสถานะของนาง จงอย่าลืมว่าอย่างไรนางก็ยังมีสำนักชิงอวิ๋นคอยหนุนหลังอยู่ อำนาจของสำนักชิงอวิ๋นไม่ใช่อะไรที่จะสามารถมองข้ามได้เลย”
จวินชิงเตือนนางด้วยความหวังดี เพราะยาพิษที่อีกฝ่ายปรุงออกมาและใช้มันกับหลินเย่ว์หยาง จวินเสี่ยน และคนทั้งห้าสิบคนนั้นล้วนมาจากมือไป๋อวิ๋นเซียนทั้งสิ้น เขารู้ว่าหลานสาวของเขาจะต้องไม่ปล่อยไป๋อวิ๋นเซียนไปแน่ๆ
จวินอู๋เสียขมวดคิ้วเล็กน้อย นางไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับสำนักชิงอวิ๋นมากนัก เพียงได้ยินเศษเสี้ยวจากผู้คนที่อยู่รอบข้างว่าพวกเขาเรืองอำนาจขึ้นมาได้ด้วยความสามารถทางด้านการแพทย์และการหลอมโอสถ สำนักชิงอวิ๋นโด่งดังเรื่องการแพทย์มากที่สุด และก็เป็นที่นับถือจากแคว้นใหญ่ๆ แทบทุกแคว้น มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะกล้าต่อต้านสำนักชิงอวิ๋น เพราะไม่เพียงแต่พวกเขามีขุมอำนาจมากมายคอยหนุนหลัง แต่พวกเขายังครอบครองทักษะทางการแพทย์ที่ดีที่สุดในโลกไว้ในมือด้วย
ใครบ้างลืมตาขึ้นมาในโลกใบนี้แล้วไม่ต้องเผชิญกับการเกิดแก่เจ็บตาย ทุกคนล้วนกลัวตาย ดังนั้นตำแหน่งของสำนักชิงอวิ๋นในใจของทุกคนจึงถูกวางไว้ให้อยู่ในจุดที่ค่อนข้างสำคัญ อย่างน้อยในช่วงเวลาวิกฤต สำนักชิงอวิ๋นก็ยังสามารถรักษาชีวิตน้อยๆ ของพวกเขาเอาไว้ได้ไม่ใช่หรือ
นี่คือตัวอย่างของความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน แม้จะไม่ได้ชัดเจน แต่ในทางปฏิบัติก็ถือเป็นเช่นนั้น ลองคิดดูสิว่าหากสำนักชิงอวิ๋นประกาศตัวออกไปว่าต้องการกำจัดศัตรูที่กล้าต่อต้านพวกเขา จะมีขุมอำนาจมากมายเพียงใดพร้อมใจยื่นมือเข้าช่วย การได้ทำให้สำนักอันดับหนึ่งด้านการแพทย์ติดหนี้น้ำใจของพวกเขา พวกเขายิ่งกว่ายินดีและเต็มใจ
นี่ยังไม่นับรวมยอดฝีมือที่เร้นกายซ่อนตัวจากยุทธภพ หากรวมกองกำลังที่ซ่อนเร้นนี้เข้าไปด้วย
ภาพนี้คงเป็นฉากที่น่ากลัวทีเดียวสำหรับศัตรูตัวเล็กๆ ที่กล้าต่อต้านสำนักชิงอวิ๋น!
กองกำลังเหล่านี้ล้วนมีความเป็นไปได้ทั้งหมดที่จะถูกสำนักชิงอวิ๋นนำมาใช้งาน
ดังนั้นตราบใดที่สกุลจวินยังไม่มั่นใจมากพอว่าจะสามารถต่อกรกับสำนักชิงอวิ๋นได้ ตระกูลอ๋องเล็กๆ ในแคว้นเล็กๆ กันดารก็เป็นได้แค่เศษชิ้นเค้กที่รอให้ผู้คนดึงทึ้งบดขยี้เท่านั้น!
กองกำลังมากมายจากทั่วทุกสารทิศ ไม่ใช่อะไรที่กองทัพรุ่ยหลินที่มีกำลังทหารเพียงไม่กี่แสนนายจะสามารถหยุดยั้งและต้านทานได้เลย!