ตอนที่ 152 อวดดีต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ (3)
“ข้าได้เตรียมยาถอนพิษเอาไว้แล้ว พวกเราไม่รู้แน่ชัดว่ามีจำนวนคนมากเท่าใดในเมืองหลวงที่ถูกพิษ ข้าจึงได้เตรียมมันเผื่อไว้เป็นจำนวนมาก พรุ่งนี้เช้าเจ้ามาขนส่วนหนึ่งไปที่ค่ายทหารให้ทหารกองทัพรุ่ยหลินของพวกเรากินมันป้องกันเผื่อเอาไว้ก่อน ส่วนที่เหลือพวกเจ้าค่อยมาทยอยช่วยกันขนไปแจกจ่ายให้ถึงมือชาวบ้านอีกที”
ขอบเขตของพิษนี้กว้างเกินไป จวินอู๋เสียไม่สามารถออกไปตรวจร่างกายของพวกเขาทีละคนๆ ได้ วิธีการเดียวที่นางพอจะสามารถทำได้และได้ผลชะงัดมากที่สุด ก็คือการหลอมเม็ดยาถอนพิษและแจกจ่ายออกไปให้ทั่ว
“ขอรับ!”
“อ้อ อีกอย่างหนึ่ง คงไม่ต้องให้ข้าสอนใช่หรือไม่ว่าพรุ่งนี้เจ้าควรจะทำอย่างไร” ดวงตาเย็นเยือกของจวินอู๋เสียกวาดไปที่ร่างของหลงฉีอย่างคาดหวัง
“ข้าน้อยจะไม่ทำให้คุณหนูใหญ่ต้องผิดหวังขอรับ!” หลงฉีตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดไม่ลังเล
ในวันที่สองหลังจากเหตุการณ์ร่างคนระเบิด ทั่วทั้งเมืองหลวงก็เริ่มมีประชาชนล้มป่วยมากยิ่งขึ้น หมอจากแต่ละสำนักกุมขมับด้วยความปวดหัว พวกเขาไม่สามารถวินิจฉัยอะไรได้เลย ด้วยไม่สามารถรักษาได้ ผู้คนจึงเริ่มตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในบ่ายของวันเดียวกัน ที่ป้ายประกาศประจำเมืองก็ได้มีประกาศแผ่นหนึ่งถูกแปะติดไว้อย่างเด่นหรา ข้อความในประกาศ หลังจากที่ชาวเมืองได้อ่านต่างก็พากันก่นด่าสาปแช่งและโกรธแค้นผู้ที่กระทำเรื่องนี้ และเพียงไม่กี่ชั่วอึดใจ ข่าวที่เร่าร้อนนี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงราวกับไฟลามทุ่ง
ข้อความในประกาศเขียนเอาไว้ว่า โจรชั่วจากเหตุการณ์ลอบทำร้ายองค์ชายรองที่หลบซ่อนตัวอยู่ภายในเมืองหลวง ได้ทำการวางยาพิษแก่ผู้โชคร้ายทั้งห้าสิบคน และได้ใช้พวกเขาเป็นพาหะเพื่อแพร่กระจายพิษ! อาการป่วยที่ประชาชนในเมืองกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ก็เป็นผลพวงมาจากการถูกผิดนั่นเอง!
ในชั่วพริบตานั้น ชาวบ้านที่มามุงดูอยู่ที่หน้าป้ายประกาศไม่มีใครไม่พ่นคำพูดหยาบคายออกมาสักสองสามประโยค เสียงก่นด่าสาปแช่งโจรทั่วดังไปทั่วเมืองหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับครอบครัวที่มีสมาชิกกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียงเพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็ยิ่งร้องไห้เสียงดังเคียดแค้นและชิงชังพวกเขา ความหวังในการรักษาเหมือนจะพังทลายลงมา พร้อมกับเส้นทางข้างหน้าที่มืดบอดไม่รู้จะเดินต่อไปทางไหนดี
ขณะที่ทุกคนกำลังเคว้งคว้าง ตื่นตระหนก และไม่อาจหาที่ยึดเหนี่ยวพึ่งพาได้ มั่วเฉี่ยนยวนองค์รัชทายาทของพวกเขา ก็ก้าวออกมาพร้อมกับทหารกองทัพรุ่ยหลินที่เป็นดั่งดาวที่สวรรค์ส่งมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาชาวเมือง!
ทหารกองทัพรุ่ยหลินแปดหมื่นคนจากทั้งสิ้นหนึ่งแสนคน กระจายกำลังกันออกไปยังหน้าบ้านทุกๆ หลังในเมืองหลวง พวกเขาแบกหีบไม้ที่บรรจุขวดกระเบื้องเคลือบขนาดเล็กที่ใส่เม็ดยาถอนพิษไว้ภายใน แล้วนำมันไปส่งให้ถึงมือของชาวบ้านทุกคนอย่างต่อเนื่อง หลังจากผู้ที่ได้รับพิษกินยาถอนพิษที่กองทัพรุ่ยหลินนำมาแจกจ่าย ร่างกายของพวกเขาก็ดีขึ้นทันตาและอาการป่วยจากการถูกพิษก็ทุเลาลงด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครึ่งวัน หลังจากการแจกจ่ายยาถอนพิษเสร็จสิ้นลง ชื่อเสียงของมั่วเฉี่ยนยวนก็ทะยานสูงเทียมฟ้า ประชาชนทั้งเมืองหลวงถึงกับร้องเพลงสรรเสริญในพระเมตตาขององค์รัชทายาทที่ไม่ทอดทิ้งพวกเขาในยามทุกข์ยาก ความรู้สึกซาบซึ้งใจและเทิดทูนในตัวขององค์รัชทายาทมั่วเฉี่ยนยวนในหมู่ประชาชน พุ่งขึ้นมาอยู่ในระดับที่แม้แต่ประวัติศาสตร์ราชวงศ์ก็ยังไม่มีรัชทายาทหรือฮ่องเต้องค์ไหนได้รับความชื่นชอบจากประชาชนมากถึงขนาดนี้!
แน่นอนว่านี่ก็รวมไปถึงฮ่องเต้องค์ปัจจุบันที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรนั่นด้วย รัศมีของพระองค์ถูกความสำเร็จในวันนี้ของมั่วเฉี่ยนยวนบดบังรัศมีไปจนหมดสิ้น!
กฎอัยการศึกถูกนำมาประกาศใช้ในเมืองหลวงอีกครั้งเพราะเรื่องนี้ ผู้คนที่เคยร้องเรียนเกี่ยวกับการปิดล้อมเมือง บัดนี้หันมายืนอยู่ข้างกองทัพรุ่ยหลินและสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มกำลัง ทุกคนล้วนแต่เบิกตารอคอยให้โจรชั่วถูกจับในเร็ววันด้วยความเคียดแค้น
หลังจากจบเรื่องในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงขององค์รัชทายาทมั่วเฉี่ยนยวนเท่านั้นที่ดีขึ้นมาก แม้แต่กองทัพรุ่ยหลินเองก็ได้รับความชื่นชอบจากประชาชน กลายเป็นเทพอุปถัมภ์ในสายตาของชาวเมืองหลวงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แผนการที่จะทำลายล้างกองทัพรุ่ยหลินโดยดึงเมืองหลวงให้ร่วมจมปลักโคลนไปด้วยกันของใครบางคน ก็ถูกเม็ดยาหม้อแล้วหม้อเล่าของจวินอู๋เสียทำลายลงอย่างเงียบเชียบไปทั้งเช่นนี้ คนที่นั่งวางแผนอยู่ในวังหลวงยังไม่ทันจะได้คุกคามพวกเขา ก็ถูกนักกลยุทธ์ที่เหนือชั้นกว่าซ้อนแผนจนล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า
ยกเว้นในวันแรกที่มีผู้เสียชีวิตมากถึงห้าสิบราย ก็ไม่มีประชาชนคนใดในเมืองหลวงที่บาดเจ็บหรือล้มตายเพราะพิษอีก
การตรวจสอบเพื่อค้นหาที่มาของคนทั้งห้าสิบคนยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสาวไปให้ถึงตัวผู้บงการแท้จริงที่อยู่เบื้องหลัง กองทัพรุ่ยหลินจึงพยายามรวบรวมเบาะแสให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากคนตายร่างกายระเบิดออกเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อย ยากนักที่จะระบุรูปพรรณสัณฐานของพวกเขาเหล่านั้นได้ ทุกคนจึงเริ่มเบี่ยงทิศทาง ไปสืบหาจากครอบครัวที่มีสมาชิกหายตัวไปก่อนเป็นอันดับแรก
ในจวนหลินอ๋อง จวินชิงมองไปที่จวินอู๋เสียที่กำลังยุ่งอยู่กับการหลอมเม็ดยาของนาง ด้วยแววตาที่คล้ายกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“การที่เจ้าให้หลงฉีไปปล่อยข่าวว่าเหตุการณ์วางยาพิษคนเมืองหลวงครั้งนี้เป็นฝีมือของโจรชั่วที่ลอบทำร้ายองค์ชายรอง หรือเจ้ากำลังวางแผนจะทำอะไรอย่างนั้นหรือ” นับวันเขายิ่งไม่เข้าใจความคิดหลานสาวตัวเองมากขึ้นทุกที จริงอยู่ที่ว่าความวุ่นวายนี้ทำให้ชื่อเสียงของกองทัพรุ่ยหลินเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น และทำให้พวกเขาได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนมากพอในการปิดล้อมเมืองหลวงอย่างเปิดเผย แต่จวินอู๋เสียกลับไม่ได้คิดที่จะหยุดแค่ที่ตรงนั้น เขาสัมผัสได้รางๆ ว่านางกำลังวางแผนสะเทือนฟ้าดินบางอย่างอยู่แต่ปิดบังพวกเขาเอาไว้
จวินอู๋เสียเคลื่อนไหวมือของนางอย่างคล่องแคล่ว สมุนไพรหลายตัวถูกโยนลงไปในหม้อตามลำดับ ขณะที่ปากของนางก็ตอบจวินชิงกลับไปว่า “เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือเจ้าคะที่สิ่งที่ถูกซ่อนเอาไว้จะต้องถูกขุดออกมาเปิดเผย”
จวินชิงผงะไปครู่หนึ่ง การที่จวินอู๋เสียสั่งให้กองทัพรุ่ยหลินตรวจสอบที่มาของคนที่ตายไปแล้วทั้งห้าสิบคนนั้นเป็นงานที่หนักหนาเอาการ เมืองหลวงกว้างใหญ่ คนประเภทใดก็มีทั้งนั้น คิดจะตามหาคนหายท่ามกลางประชาชนนับแสนคนเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“ภายใต้สถานการณ์ปกติ จริงอยู่ที่ว่าการตามหาคนเช่นนี้ค่อนข้างจะตึงมือ แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป ผู้คนในเมืองหลวงกำลังหวั่นวิตกและพากันกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องพิษ และแม้ว่าทุกคนจะได้รับยาถอนพิษไปแล้ว แต่กับครอบครัวที่มีสมาชิกในบ้านหายตัวไปเล่า พวกเขาจะไม่กังวลใจเลยหรือ ในตอนแรก พวกเขาอาจจะแค่คิดว่าคนที่หายตัวไปอาจจะออกไปทำธุระในสถานที่ต่างๆ จึงกลับมาช้า แต่เมื่อเวลาล่วงผ่านไปหลายวัน หลังจากไม่เห็นคนที่หายตัวไปกลับมาเสียที อีกไม่นานญาติที่ร้อนใจจะต้องมาขอความช่วยเหลือจากพวกเราเป็นแน่” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะที่มองดูกระจุกสมุนไพรครึ่งหนึ่งในมือของนาง