ตอนที่ 177 จัดการ (3)
มั่วเซวี่ยนเฝ่ยอยากหลบไปข้างหลัง แต่เขาที่นั่งอยู่บนรถเข็นไม่สามารถหลบไปไหนได้
“เจ้า...เจ้าจะทำอะไร” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยกลัวแล้ว เขากลัวแล้วจริงๆ ความเจ็บปวดจากการที่ภูติวิญญาณถูกทำลายไปไม่เพียงแต่ทรมานร่างกายของเขา แต่ยังทำลายจิตวิญญาณของเขาด้วย แม้ว่าความเจ็บปวดจะจางหายไปแล้ว แต่เมื่อเห็นจวินอู๋เสีย ความเจ็บปวดนั้นก็คล้ายเหมือนจะกระจายไปทั่วร่างกายของเขาอีกครั้ง
จวินอู๋เสียเหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีก แต่หันไปมองคุกใต้ดินที่อยู่ข้างหลังนาง
ในนั้นมีสตรีนางหนึ่งสวมใส่ชุดขาวกำลังนั่งขดขา พยายามขดตัวเองเข้าไปที่มุมของคุกใต้ดิน บนตัวนางเต็มไปด้วยเศษหญ้าฟาง และเมื่อนางตัวสั่นก็มีเสียงเสียดสีของฟางข้าวดังขึ้นมา
เมื่อเทียบกับมั่วเซวี่ยนเฝ่ยที่มีใบหน้าทรุดโทรมและผมเผ้ายุ่งเหยิงแล้ว ไป๋อวิ๋นเซียนได้รับการดูแลที่ดีกว่ามาก
แม้ว่าจะถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินนี้และไม่มีอิสระ แต่อาหารที่กองทัพรุ่ยหลินส่งให้นางทุกวันคืออาหารที่สดใหม่ น้ำอุ่นสำหรับล้างหน้าล้างตัวและเสื้อผ้าที่สะอาดก็ไม่เคยขาดจึงทำให้ศิษย์เอกของสำนักชิงอวิ๋นคนนี้ไม่ได้ลำบากอะไร
ความแตกต่างในการปฏิบัตินี้ ทำให้ไป๋อวิ๋นเซียนมีความหวังเกิดขึ้นเล็กน้อยในช่วงสองสามวันมานี้ จวินอู๋เสียอาจไม่ฆ่านาง แต่ถึงอย่างนั้น นางก็ไม่กล้าเป็นศัตรูกับจวินอู๋เสียอีกต่อไป
“ลากออกไป” จวินอู๋เสียกล่าวกับกองทัพรุ่ยหลินที่อยู่ด้านข้าง
กองทัพรุ่ยหลินที่อยู่หน้าประตูเปิดประตูทันทีและลากไป๋อวิ๋นเซียนออกไป ไป๋อวิ๋นเซียนหดคอและมองไปที่จวินอู๋เสียอย่างสั่นเทา
นางไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียจะปฏิบัติต่อนางอย่างไร นางได้เพียงแต่อธิษฐานอ้อนวอนว่าจวินอู๋เสียจะไม่ฆ่านาง
“พาเขาออกไป” จวินอู๋เสียชี้ไปที่มั่วเซวี่ยนเฝ่ย
หลังจากนั้นไม่นาน มั่วเซวี่ยนเฝ่ยก็ถูกลากออกมาทั้งคนและรถเข็น และอดีตฮ่องเต้ที่ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงก็นั่งอยู่ในคุกแล้วมองไปทางจวินอู๋เสียที่อยู่ข้างนอกด้วยความตกใจ
“ฝีมือการรักษาของเจ้าอยู่ในระดับไหนของสำนักชิงอวิ๋น” จวินอู๋เสียกล่าวกับไป๋อวิ๋นเซียนที่มีสีหน้าซีดเซียว
ไป๋อวิ๋นเซียนตัวสั่นไปทั้งตัว มองจวินอู๋เสียแต่ไม่กล้าพูดอะไร เพราะความมั่นใจในฝีมือการรักษาของนางได้ถูกจวินอู๋เสียทำลายมานานแล้ว
จวินอู๋เสียไม่เห็นนางตอบก็ไม่รีบร้อน นางกล่าวกับกองทัพรุ่ยหลินว่า "เปิดปากองค์ชายรอง"
มั่วเซวี่ยนเฝ่ยตกใจและอยากจะขัดขืน แต่ขาทั้งสองข้างของเขาได้ถูกทำลายไปแล้วและมือทั้งสองข้างของเขาก็ถูกมัดติดกับรถเข็น เขาขยับอะไรไม่ได้เลย ทหารของกองทัพรุ่ยหลินง้างปากของเขาอย่างรุนแรง และเขาทำได้เพียงส่งเสียงคร่ำครวญอันเจ็บปวดออกมาจากลำคอของเขา
จวินอู๋เสียยกมือขึ้นและโยนยาเม็ดสีดำเข้าไปในคอของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยและบังคับให้เขากลืนลงไป
“ดูไว้” จวินอู๋เสียมองไปที่ไป๋อวิ๋นเซียนและกล่าวกับนาง
ไป๋อวิ๋นเซียนแอบกลืนน้ำลายตัวเอง
และวินาทีถัดมา มั่วเซวี่ยนเฝ่ยซึ่งถูกมัดไว้กับรถเข็นก็เริ่มร้องครวญอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าที่หล่อเหลาของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยเริ่มเต็มไปด้วยรอยแผลฟกช้ำ ในไม่ช้ารอยแผลฟกช้ำเหล่านั้นก็เริ่มบวมขึ้น และผิวหนังที่บวมก็ดูเหมือนถูกกรีดแล้วละลายเป็นน้ำ ผิวหนังสีแดงก็เผยออกมาจากบาดแผล และเริ่มดำขึ้นเรื่อยๆ และรอยแผลฟกช้ำนั้นยังคงลามจากใบหน้าของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยไปที่คอ จากนั้นก็ทั้งตัว ในชั่วพริบตา องค์ชายรองผู้สูงส่งก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยแผลเน่าเปื่อย เขาร้องครวญครางไม่หยุด เนื้อแผลเน่าเปื่อยที่ร่วงหล่นจากร่างของเขาตกสู่พื้น ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วห้อง
ไป๋อวิ๋นเซียนตกตะลึงกับทุกสิ่งที่เห็นตรงหน้า หากกองทัพรุ่ยหลินไม่จับตัวนางไว้ นางก็คงแขนขาอ่อนแรงแล้วล้มลงบนพื้นอย่างแน่นอน
บุรุษที่หล่อเหลาในอดีตได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดต่อหน้าต่อตานาง
ตอนนี้มั่วเซวี่ยนเฝ่ยดูเหมือนศพที่เน่าเปื่อยมากขึ้นทุกที
...