ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 189 หยกวิญญาณ (1)

จวินอู๋เสียที่อยู่ในความมืดจริงจังขึ้นมาทันที นางรู้อยู่แล้วว่าสำนักชิงอวิ๋นไม่ได้ใจดีเยี่ยงนั้น

ฉินอวี่เยียนเห็นมั่วเฉี่ยนยวนปฏิเสธจึงไม่ได้พูดอะไรมากมาย นางพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า "ความจริงแล้วเรื่องการเปลี่ยนบัลลังก์ของฮ่องเต้รัฐชีอยู่เหนือความคาดการณ์ของเรา ก่อนหน้านี้ท่านพ่อของข้าได้ทำข้อตกลงกับอดีตฮ่องเต้ของพวกเจ้าไว้แล้ว ที่อวิ๋นเซียนมาที่รัฐชีในครั้งนี้ก็เพื่อมาเอาของสิ่งนั้นแต่นางไม่รู้ ตอนนี้อดีตฮ่องเต้ไม่อยู่แล้ว แต่ข้อตกลงระหว่างรัฐชีกับสำนักชิงอวิ๋นยังคงอยู่ ดังนั้นข้าหวังว่าฝ่าบาทจะทำตามข้อตกลงของทั้งสองฝั่งให้เสร็จสิ้น"

"ข้อตกลงอันใดหรือ" มั่วเฉี่ยนยวนตกตะลึงจริงๆ เพราะเขาไม่เคยได้ยินเรื่องข้อตกลงส่วนตัวระหว่างบุคคลนั้นกับสำนักชิงอวิ๋นมาก่อน

“มันคือหยกวิญญาณ!” ฉินอวี่เยียนกล่าว

“ท่านหมายถึงหยกวิญญาณนั่นน่ะรึ!” มั่วเฉี่ยนยวนรู้สึกตกใจเล็กน้อย

“ใช่ รัฐชีมีหยกวิญญาณอยู่สองชิ้น ซึ่งเป็นขององค์ปฐมฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งรัฐชี เดิมทีแล้วหยกวิญญาณทั้งสองชิ้นนั้นเป็นชิ้นเดียวกัน แต่หลังจากก่อตั้งรัฐชีแล้ว องค์ปฐมฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งก็ได้แบ่งหยกวิญญาณออกเป็นสองชิ้น ชิ้นหนึ่งเก็บไว้ในวังหลวง ส่วนอีกชิ้นได้มอบให้ท่านแม่ทัพจวินเสี่ยนที่ร่วมต่อสู้กับท่านมา สำหรับพวกเจ้าหยกวิญญาณนี้อาจเป็นเพียงสัญลักษณ์อย่างหนึ่งเท่านั้น แต่มันมีความสำคัญอย่างมากกับสำนักชิงอวิ๋นของเรา สำนักชิงอวิ๋นยินดีที่จะใช้เม็ดยาล้ำค่ามากมายเพื่อแลกกับมัน และสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่อดีตฮ่องเต้ได้ตกลงไว้แล้ว ครั้งนี้ที่พวกข้ามา หนึ่งคือเพื่อรับอวิ๋นเซียนกลับไป สองคือเพื่อบรรลุข้อตกลงนี้กับรัฐชี เม็ดยาของสำนักชิงอวิ๋นได้ถูกอวิ๋นเซียนส่งมอบออกไปแล้ว จึงถึงคราวที่ฝ่าบาทจะทำตามคำสัญญาบ้าง ฝ่าบาทโปรดมอบหยกวิญญาณทั้งสองชิ้นออกมาให้เราโดยเร็ว” ฉินอวี่เยียนพูดอย่างไม่รีบเร่งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่น้ำเสียงยิ่งจริงจังมากขึ้นอย่างชัดเจนในภายหลัง

มั่วเฉี่ยนยวนมีอาการปวดหัว เพราะเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าสำนักชิงอวิ๋นจะขอหยกวิญญาณ

หยกวิญญาณอยู่รัฐชีมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว และไม่มีประโยชน์อื่นใดนอกจากเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเกียรติยศในยามนั้น จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหากจะมอบมันให้กับสำนักชิงอวิ๋น

ปัญหาติดอยู่ที่...อีกชิ้นหนึ่งยามนี้ที่อยู่ในมือจวินเสี่ยนนี่สิ

ถ้าเขาจำไม่ผิดหลังจากการเสียชีวิตของลูกชายคนโตของจวินเสี่ยนหรือก็คือบิดาของจวินอู๋เสีย หยกวิญญาณชิ้นนั้นก็ถูกฝังไปพร้อมกับร่างของบิดาของจวินอู๋เสียด้วย หากต้องการนำมันออกมา ก็มีแต่ต้องขุดหลุมฝังศพของจวินกู้!

เหงื่อเม็ดเป้งไหลลงมาจากหน้าผากของมั่วเฉี่ยนยวน เขารู้ว่าคำพูดเหล่านี้จวินอู๋เสียต้องได้ยินมันอย่างแน่นอน

เขาไม่กล้าพูดต่อหน้าคนของสำนักชิงอวิ๋นว่าหยกวิญญาณของสกุลจวินชิ้นนั้นได้ถูกฝังไปพร้อมกับ ร่างของจวินกู้แล้ว มิฉะนั้นดูจากความรุนแรงของสำนักชิงอวิ๋น เกรงว่าพวกเขาจะต้องสั่งให้คนไปขุดหลุมฝังศพของจวินกู้ทันทีแน่

“แน่นอน ข้าจะมอบหยกวิญญาณทั้งสองชิ้นให้ถึงมือทั้งสองท่านโดยเร็วที่สุด” เมื่อเกิดเรื่องขึ้นอย่างกะทันหัน มั่วเฉี่ยนยวนก็ไม่กล้าพูดอะไรมากมาย ทำได้เพียงแค่รับปากไปก่อนเท่านั้น

ฉินอวี่เยียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดคุยกับเจียงเฉินชิงอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะถูกส่งกลับไปโดย มั่วเฉี่ยนยวน

ในตำหนัก ไป๋อวิ๋นเซียนมองดูมั่วเซวี่ยนเฝ่ยที่ไม่เป็นผู้เป็นคนด้วยความสิ้นหวัง และรอบตัวของนางก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรยากาศที่กดดัน

“สิ้นหวังหรือยัง” เสียงเย็นชาดังมาจากมุมหนึ่งของตำหนัก และเสียงที่คุ้นเคยนั้นทำให้ร่างกายของไป๋อวิ๋นเซียนหนาวสั่นไปทั้งตัว

จวินอู๋เสียกลับมาเป็นใบหน้าเดิมและเดินออกมาจากความมืด แม้ว่านางจะสวมชุดขันที แต่ความเย็นชาของนางทำให้ขาทั้งสองข้างของไป๋อวิ๋นเซียนไร้เรี่ยวแรง

“ข้า...ข้า…” ไป๋อวิ๋นเซียนมองจวินอู๋เสียด้วยความหวาดกลัว

“ไม่มีใครในโลกนี้สามารถช่วยเจ้าได้นอกจากข้า ถ้าเจ้าเข้าใจแล้วเจ้าควรรู้ว่าต้องทำอย่างไร” จวินอู๋เสียมองไป๋อวิ๋นเซียนอย่างเย็นชา