ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 20 ล้ำค่าทั้งร่าง (1)

เพื่อให้ได้น้ำตามาเก็บสะสมไว้ เจ้าแมวดำจึงแข็งใจกัดเขาไปสองสามครั้ง เด็กน้อยเจ็บจนร้องไห้จ้าน้ำตาไหลพรากไม่หยุด เพียงเท่านี้ก็สามารถเก็บน้ำตาไว้ในขวดเล็กๆ ได้ขวดหนึ่ง นี่คือสิ่งที่จวินอู๋เสียเตรียมไว้ใช้กับจวินเสี่ยนและจวินชิงในวันข้างหน้า

จนกว่านางจะแข็งแกร่งและมีกำลังมากพอ ความปลอดภัยของจวนหลินอ๋องจำเป็นต้องพึ่งพาพวกเขาทั้งสองก่อน

หลังจากร้องไห้อย่างหนัก ดอกบัวขาวน้อยผู้เหน็ดเหนื่อยและน่าสงสารก็แปลงกายกลับเป็นแหวนอยู่บนนิ้วของจวินอู๋เสียอย่างสงบ

จวินอู๋เสียเก็บเมล็ดบัวและน้ำตาไว้เป็นอย่างดี นอนหลับไปด้วยความสบายใจ

เช้าวันต่อมา นางก็ไปเคาะประตูห้องของจวินเสี่ยน

จวินเสี่ยนมองหลานสาวด้วยความประหลาดใจมาก คิดว่าตนตาฝาดไปเองหรือเปล่า เพราะนับตั้งแต่ที่นางได้รับบาดเจ็บ น้อยครั้งที่ตนจะได้พบหน้าหลานสาวผู้นี้ แถมทุกครั้งยังเกิดจากความบังเอิญอีกด้วย

การที่จวินอู๋เสียไม่ติดเขาอย่างเคย ทำให้จวินเสี่ยนเจ็บปวดหัวใจมาก

“อู๋เสีย เจ้ามาได้อย่างไรกัน รีบนั่งก่อน” จวินเสี่ยนรีบจูงมือนางมานั่งในตำแหน่งที่ใกล้ที่สุด

เนื่องจากท่อนล่างของจวินชิงพิการ เขาจึงไม่สามารถมีลูกได้ ตอนนี้เขามีจวินอู๋เสียเป็นหลานสาวเพียงผู้เดียว จึงรักและทะนุถนอมนางราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า

จวินอู๋เสียปล่อยให้จวินเสี่ยนจูงตนไปนั่ง เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ใกล้ชิดกับปู่คนใหม่เช่นนี้ นางประหลาดใจเล็กน้อย

นางไม่เกลียดความรู้สึกแบบนี้หรอกนะ

“ท่านปู่ ข้ามาวันนี้เพราะมีเรื่องอยากจะปรึกษาท่าน” จวินอู๋เสียเรียบเรียงความคิด ตัดสินใจเอ่ยเรื่องสำคัญกับจวินเสี่ยนไป

จวินเสี่ยนหัวใจเต้นระส่ำ หลายวันนี้ข่าวซุบซิบนินทาเกี่ยวกับจวินอู๋เสียด้านนอกย่ำแย่จนถึงขีดสุดแล้ว หรือว่านางได้ยินสิ่งใดมา

“พูดมาได้เลย ไม่ว่าเจ้าปรารถนาสิ่งใด ปู่ก็พร้อมจะทำให้เจ้า” จวินเสี่ยนมองหลานสาวด้วยแววตาเปี่ยมรัก

จวินอู๋เสียกระแอมไอเล็กน้อย เริ่มพูดคุยอย่างเป็นทางการกับ ‘คนในครอบครัว’ เป็นครั้งแรก

“เรื่องที่ข้าไม่มีภูติวิญญาณนั้น คิดว่าท่านปู่คงรู้ดีอยู่แล้ว”

เพียงคำพูดแรกที่หลุดออกมา ก็ทำเอาหัวใจของจวินเสี่ยนหล่นวูบ

“ข้ารู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถบ่มเพาะพลังวิญญาณได้ ทั้งช่วงนี้ยังนอนป่วยติดเตียง ต้องกินยาทั้งวัน เวลาว่างจึงไปหาตำราแพทย์ในห้องหนังสือมาอ่านดู ข้าพบว่าไหนๆ ข้าก็ไม่สามารถฝึกวิชาได้แล้ว ยามนี้ไยมิสู้หาความรู้ด้านอื่นมาประดับตัวแทนเล่า อย่างน้อยๆ ก็ยังมีวิชาติดตัวบ้าง หลังจากคิดทบทวนอยู่สักพัก ข้าก็ตัดสินใจว่าจะศึกษาเกี่ยวกับวิชาแพทย์อย่างจริงจังเจ้าค่ะ” จวินอู๋เสียพูดไม่เก่ง นางใช้คำง่ายๆ บอกเล่าความคิดและอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงของตน คำพูดเหล่านี้นางใช้เวลาทั้งคืนถึงคิดได้ แต่เนื่องจากเจ้าของร่างคนเก่ามิใช่คนนิสัยน่ารัก และไม่สนใจเรียนแพทย์ นางเอ่ยออกมาเช่นนี้จึงค่อนข้างแปลกอยู่บ้าง

ดีที่ช่วงนี้นางกำลังป่วยไข้ ช่วงที่รักษาตัวอยู่ได้สัมผัสกับยาเป็นส่วนใหญ่ จึงพอจะยกมาอ้างเป็นเหตุผลได้

จวินเสี่ยนมองจวินอู๋เสียด้วยอาการตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าที่นางมาหาตนวันนี้...ก็เพื่อพูดเรื่องเหล่านี้

แม้จวินเสี่ยนจะรักและหลงหลานสาวมาก แต่เขาก็รู้ดีว่าหลานสาวของตนไม่ได้มีความสามารถอันใดนอกจากสร้างเรื่องไปวันๆ หัวใจทั้งหมดของนางย้ายไปอยู่ที่มั่วเซวี่ยนเฝ่ยหมดแล้ว

วันนี้นางแปลกไป กลายเป็นเด็กรู้ความเรียบร้อย ทำเอาจวินเสี่ยนทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง

เมื่อเห็นจวินเสี่ยนชะงักไป จวินอู๋เสียจึงยืนกรานอีกครั้ง

“จวนหลินอ๋องมิได้สงบเหมือนกาลก่อน เรื่องนี้ข้าเองก็พอรู้อยู่ หลังจากได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ข้าจึงตาสว่างคิดได้ ท่านปู่ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องข้าอีกต่อไปแล้ว ยามนี้ข้าได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ”

จวินเสี่ยนเงียบไม่พูดจา สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของจวนหลินอ๋องปัจจุบันนั้นไม่นับว่าดี แม้แต่มั่วเซวี่ยนเฝ่ยก็ยังกล้าถ่อมาถอนหมั้นถึงที่จวน เห็นได้ชัดว่าสถานะของพวกเขาคลอนแคลนมากเพียงใด ดูท่าเขาคงจะปิดบังอะไรจากนางไม่ได้อีกต่อไปแล้วจริงๆ