ตอนที่ 203 หยกสงบวิญญาณ (5)
ในเวลากลางคืน องครักษ์ทั้งในและนอกวังหลวงยังคงรับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยของวังหลวง ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเหนือศีรษะของพวกเขามีอะไรบางอย่างกำลังผ่านไปอย่างเงียบๆ
จวินอู๋เสียอยู่ในอ้อมแขนของจวินอู๋เย่า นางได้สัมผัสกับความรู้สึกของคำว่า ‘พาเจ้าบิน’ หนึ่งรอบ
“ทางโน้น” บนท้องฟ้าจวินอู๋เสียชี้นิ้วไปที่ตำหนักของมั่วเฉี่ยนยวนอย่างคุ้นเคย
นัยน์ตาของจวินอู๋เย่าเปี่ยมไปด้วยรังสีอำมหิต จากนั้นเขาก็ลงไปตามทิศทางที่จวินอู๋เสียชี้
ทันใดนั้น องครักษ์ที่เฝ้าอยู่ด้านนอกตำหนักก็เห็นเงาดำร่อนลงมาจากท้องฟ้า เขาตกใจจนเกือบทิ้งอาวุธในมือลง แต่เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ลงมา ก็พบว่าคนที่อยู่ในอ้อมแขนของบุรุษชุดดำใบหน้างดงามนั้นคือจวินอู๋เสีย
นั่นมัน…คุณหนูใหญ่ของจวนหลินอ๋องมิใช่หรือ
ตอนนี้ทุกคนทั้งในและนอกเมืองหลวงต่างก็รู้ดีว่าจวินอู๋เสียและมั่วเฉี่ยนยวนนั้นมี ‘ความรักใคร่’ ต่อกัน เหลือเพียงแต่ให้มั่วเฉี่ยนยวนออกพระบรมราชโองการแต่งตั้งจวินอู๋เสียและเรียกตัวนางเข้าวังเท่านั้น
ทันทีที่ได้เห็นว่าที่ฮองเฮาในอนาคตมาเยือนตำหนักในยามค่ำคืน เหล่าองครักษ์ต่างก็ปิดปากเงียบด้วยความตกใจ แต่สายตาของพวกเขายังเพ่งมองไปทางบุรุษที่สวมกอดว่าที่ฮองเฮาของพวกเขาไว้โดยไม่รู้ตัว
เพียงแค่มองก็ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนแทบคุกเข่าลง
พลังของชายผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป และดวงตาของเขาก็ทำให้พวกเขากลัวจนตัวสั่น
“ฝ่าบาทอยู่ข้างในหรือไม่” จวินอู๋เสียกระโดดออกมาจากอ้อมแขนของจวินอู๋เย่า โดยไม่ทันสังเกตว่ามีความเสียใจเกิดขึ้นในดวงตาของจวินอู๋เย่าหลังจากที่นางจากไป
“ขอรับ” องครักษ์ตอบตามความจริง
หลังจากจวินอู๋เสียได้รับคำตอบ นางก็เดินตรงเข้าไปในตำหนักทันทีโดยไม่มีการรายงานก่อน
จวินอู๋เย่าเดินตามนางไป เดิมทีองครักษ์ทั้งสองฝั่งจะก้าวเข้ามาสอบถาม แต่พวกเขาไม่มีความกล้าพอที่จะเข้าใกล้จวินอู๋เย่าแม้แต่ครึ่งก้าว ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงกลืนน้ำลายและยืนอยู่อย่างเงียบๆ
ฝ่าบาท มิใช่พวกข้าละเลยต่อหน้าที่ แต่คนที่ว่าที่ฮองเฮาพามาด้วยนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว
จวินอู๋เสียเตะประตูห้องโดยไม่สนใจผู้ใด และมั่วเฉี่ยนยวนที่กำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมจะพักผ่อนในตำหนักก็ตกใจจนสะดุ้งเฮือก
มุมปากของมั่วเฉี่ยนยวนกระตุก เขามองจวินอู๋เสียที่ยืนอยู่หน้าประตูตำหนักด้วยท่าทางจริงจัง มือที่วางอยู่บนเข็มขัดเริ่มแข็งทื่อและเสื้อผ้าที่พาดไหล่ของเขาเผยให้เห็นแผงอกที่แข็งแรงของเขา
แม้ว่าเขาจะถูกข่มเหงในตำหนักหลินหยวนมาเป็นเวลานาน แต่ภายใต้การดูแลของจวินอู๋เสีย ประกอบกับความตั้งใจและขยันหมั่นเพียรของตัวมั่วเฉี่ยนยวนเอง ตอนนี้ร่างกายนี้จึงค่อนข้างน่ามองทีเดียว
“หยกวิญญาณ…เอ่อ” จวินอู๋เสียที่ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติกำลังจะพูดเรื่องหยกวิญญาณกับมั่วเฉี่ยนยวน แต่มีฝ่ามือที่อบอุ่นยื่นออกมาปิดตาของนางไว้เสียก่อน
มั่วเฉี่ยนยวนมองบุรุษที่ยืนอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสียด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยเห็นใบหน้าที่ดุร้ายและงดงามเช่นนี้มาก่อน
สิ่งที่ทำให้มั่วเฉี่ยนยวนประหลาดใจมากกว่าคือดวงตาสีดำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้งคู่นั้น
“ไม่ดี อย่ามอง” จวินอู๋เย่ากระซิบกับจวินอู๋เสีย แต่ดวงตาสีดำเข้มคู่นั้นดุจมีดแหลมคมสองเล่มที่ทำให้มั่วเฉี่ยนยวนรู้สึกเจ็บไปทั้งตัวเมื่อได้สบประสาน ดวงตาคู่นั้นดูเหมือนจะทิ่มแทงร่างเขาในทุกเวลา ดวงตาที่เฉียบคมและน้ำเสียงที่อ่อนโยนสร้างความแตกต่างที่ชัดเจน
มั่วเฉี่ยนยวนลอบปาดเหงื่อ เขาไม่ได้โง่ เขาเข้าใจความหมายของบุรุษผู้นี้ดีจึงรีบสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกเจ็บปวดเหล่านั้นจึงลดทอนลงไปเล็กน้อย
จวินอู๋เย่านี่ถึงยอมปล่อยมือที่ปิดตาของจวินอู๋เสียไว้
จวินอู๋เสียที่ได้รับการมองเห็นคืนมาอีกครั้งยังคงไม่เข้าใจว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น นางเหลือบมองจวินอู๋เย่า เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีอะไร นางจึงไม่ใส่ใจแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วแล้วเตรียมปรึกษาหารือเรื่องหยกสงบวิญญาณกับมั่วเฉี่ยนยวน