ตอนที่ 210 อำนาจกดดัน (1)
เช้าตรู่วันถัดมา ก่อนที่มั่วเฉี่ยนยวนจะได้เริ่มประชุมขุนนางยามเช้า คนของสำนักชิงอวิ๋นกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาในท้องพระโรงอย่างอุกอาจ
มั่วเฉี่ยนยวนที่เพิ่งประทับนั่งบนบัลลังก์ เมื่อเห็นว่าหลังจากคนของสำนักชิงอวิ๋นบุกเข้ามาแล้ว เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งหลายด้านล่างก็พากันขยับร่นถอยออกไปยืนอยู่ด้านนอกประตูท้องพระโรงด้วยความขลาดกลัว ดวงเนตรคมก็มืดครึ้มลงทันที
“หยกวิญญาณอยู่ที่ไหน” เจียงเฉินชิงไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าวิธีการของพวกเขานั้น จะเป็นการเหยียบหน้ามั่วเฉี่ยนยวนในฐานะฮ่องเต้ โดยไม่มีทั้งการบอกกล่าวหรือแจ้งให้ทราบ ก็บุกเข้ามาในท้องพระโรงโดยตรงแถมยังกดดันให้ขุนนางบุ๋นบู๊โดยรอบขยับร่นถอยออกไปอีก ร่างมีอายุยืนกร่างอยู่กลางท้องพระโรงใหญ่อย่างไม่หวาดกลัวใดๆ ทั้งสิ้น
บางทีอาจไม่ใช่เพราะไม่รู้ตัว แต่เป็นเพราะเขาไม่สนใจมันต่างหาก กับฮ่องเต้แคว้นเล็กๆ อย่างเขา มีอะไรให้ต้องกังวลกัน
มั่วเฉี่ยนยวนพยายามระงับอารมณ์ขุ่นมัวที่เกิดขึ้นภายในใจ พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ทุกท่านช่างตื่นเช้ากันเสียจริง ใครก็ได้ รีบยกที่นั่งให้แขกผู้มีเกียรติของพวกเราเร็วเข้า”
กลุ่มขันทีกระวีกระวาดวิ่งยกเก้าอี้เข้ามา คนของสำนักชิงอวิ๋นก็นั่งลงอย่างสงบเสงี่ยม
“ข้าจะละเรื่องโง่ๆ ที่ยัยเด็กอวิ๋นเซียนนั่นทำลงไปก่อน แต่ข้อตกลงระหว่างอดีตฮ่องเต้ของเจ้ากับท่านเจ้าสำนักของพวกเรานั้นยังคงอยู่ พวกเราไม่ได้มีเจตนาที่จะมารบเร้าหรือสร้างความรำคาญใจให้แก่รัฐชี เพราะฉะนั้นฝ่าบาทรีบส่งมอบหยกวิญญาณออกมาให้พวกเราเถิด พวกเราจะได้กลับไปรายงานที่สำนักชิงอวิ๋นเสียที” เจียงเฉินชิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าคำพูดของเขาจะดูสุภาพ แต่น้ำเสียงและท่าทางที่แสดงออกนั้นไม่ได้บ่งบอกถึงความเคารพยำเกรงใดๆ เลย
แม้แต่คนที่มีอุปนิสัยดีอย่างมั่วเฉี่ยนยวน ก็ยังมิวายถูกคำพูดดังกล่าวทำให้โกรธจนแทบกระอัก แต่เพราะความแข็งแกร่งของสำนักชิงอวิ๋น เขาจึงทำได้เพียงต้องกัดฟันทนแล้วฝืนกลืนก้อนเลือดนั้นลงท้องไป
ในตอนนี้ เขาปรารถนาจริงๆ ว่าตัวเองจะย้อนเวลากลับไปเมื่อคืนแล้วยอมรับข้อเสนอของจวินอู๋เสีย ตัดคอไอ้เจ้ากลุ่มคนไร้ยางอายที่ไม่เห็นหัวใครกลุ่มนี้โดยตรง พวกมันจะได้ไม่มาทำตัวหยิ่งจองหองที่นี่อีก
“อ้อ ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง เมื่อวานเราได้ให้สัญญากับพวกท่านไปแล้วนี่ว่าจะมอบหยกวิญญาณให้ แน่นอนย่อมไม่ผิดคำพูด เราได้สั่งคนให้ออกไปค้นหาหยกวิญญาณตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว เพียงแต่ติดปัญหาบางอย่าง” มั่วเฉี่ยนยวนได้เตรียมคำพูดของเขาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้ จึงรู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไป
“ปัญหารึ ปัญหาอะไรกัน!” สีหน้าของเจียงเฉินชิงคล้ำลงในทันที
หากไม่ใช่เพราะไป๋อวิ๋นเซียนกระทำการเอาแต่ใจส่งข่าวเท็จมาให้ พวกเขามีหรือจะสร้างเรื่องเอิกเกริก เรียกระดมคนจำนวนมากถ่อมาถึงรัฐเล็กๆ แห่งนี้
ในฐานะผู้อาวุโสของสำนักชิงอวิ๋นที่เป็นที่นับหน้าถือตา รัฐเล็กๆ อย่างรัฐชีไม่อยู่ในสายตาของเขาจริงๆ ทว่าตอนนี้เขาก็มาแล้ว เขาแค่อยากจะไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
“หยกวิญญาณนั้นอยู่ในรัฐชีไม่ผิด ทุกท่านเองก็คงทราบดีว่าปีนั้นหลังจากที่องค์ปฐมฮ่องเต้ก่อตั้งรัฐชีขึ้นมา ได้ทรงแบ่งหยกวิญญาณออกเป็นสองชิ้นด้วยกัน ชิ้นหนึ่งเก็บไว้กับตัวพระองค์เองซึ่งก็อยู่ในวังหลวงแห่งนี้ ทว่าอีกชิ้นหนึ่งนั้นได้ทรงมอบให้กับจวนหลินอ๋องผู้ซึ่งรบเคียงบ่าเคียงไหล่พระองค์มา เมื่อสิบปีก่อนบุตรชายคนโตของจวินเสี่ยนเสียชีวิตเพราะพลีชีพในสนามรบ จวินเสี่ยนเสียใจมาก จึงฝังหยกวิญญาณชิ้นนั้นไปพร้อมกับร่างจวินกู้บุตรชายของเขาด้วย ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็อยู่ในสุสานหลวงถูกฝังไปพร้อมกับพระบรมศพขององค์อดีตฮ่องเต้หลังจากที่ทรงพระประชวรและสิ้นพระชนม์ไป…” มั่วเฉี่ยนยวนเล่าด้วยน้ำเสียงไม่ช้าไม่เร็ว เขาไม่กังวลนัก ด้วยอดีตฮ่องเต้ยามนี้ยังถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินอยู่เลย เพียงแต่แค่ประกาศออกไปว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว ส่วนร่างที่อยู่ในหลุมฝังศพในสุสานหลวง ก็เป็นเพียงร่างของนักโทษประหารคนหนึ่งที่เขาใช้เป็นศพแทนอตีตฮ่องเต้
เรื่องนี้มีคนรู้กันเพียงสองคนเท่านั้นนั่นก็คือจวินอู๋เสียกับมั่วเฉี่ยนยวน
เมื่อมั่วเฉี่ยนยวนพูดประโยคทั้งหมดนี้เสร็จ เขาก็เลื่อนสายตามองไปทางฉินอวี่เยียนโดยไม่รู้ตัว เขาไม่ได้คาดหวังปฏิกิริยาใดๆ จากเจียงเฉินชิงผู้หยิ่งผยอง ในทางกลับกันเขาคาดหวังว่าคุณหนูใหญ่ผู้ที่ซึ่งงดงามและดูมีเหตุผล จะเข้าใจเรื่องพวกนี้และยอมปล่อยผ่านคนเหล่านั้นซึ่งตายไปแล้วไป เขาคาดหวังจริงๆ ว่านางจะเห็นถึงความสำคัญของคนตายและยอมรามือไม่ไปรบกวนความสงบของพวกเขาอีก
อย่างไรก็ตาม เมื่อมั่วเฉี่ยนยวนเพิ่งพูดประโยคเหล่านี้จบ เจียงเฉินชิงก็มีสีหน้าดำคล้ำอย่างถึงที่สุด เขาลุกขึ้นยืนทันที ชี้หน้าตวาดมั่วเฉี่ยนยวนไปว่า “เหลวไหลสิ้นดี! พวกเจ้ากล้าฝังหยกวิญญาณไปพร้อมกับศพได้อย่างไร! ช่างไม่รู้เรื่องรู้ราวโดยแท้! พวกเจ้ารีบไปขุดหยกวิญญาณทั้งสองชิ้นนั้นมาให้พวกเราเดี๋ยวนี้ ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะต้องขุดศพใคร หรือว่าเปิดหลุมฝังศพของผู้ใด ข้าสนเพียงแต่ว่าหยกวิญญาณสองชิ้นนั้นจะต้องมาถึงมือพวกข้าให้ได้!”
โดยไม่เหลือหนทางให้เจรจากันได้เลย เจียงเฉินชิงเปิดปากก็กดดันให้มั่วเฉี่ยนยวนกับสกุลจวินไปเปิดหลุมฝังศพบ้านตนเพื่อขุดเอาหยกวิญญาณมาให้กับพวกเขา!