ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 207 พนัน (3)

ดีหรือ จวินอู๋เสียขมวดคิ้วเล็กน้อย นางไม่รู้สึกว่านางดีกับมั่วเฉี่ยนยวน

พวกเขาก็แค่ทำเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้น

“ที่ข้ากล้าทำเช่นนี้ก็เพราะว่าข้ามีเจ้า” จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เย่า หากปราศจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของจวินอู๋เย่า นางไม่มีวันล้มเลิกความคิดที่จะรามือก่อนอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้นางมีจวินอู๋เย่าแล้ว คนของสำนักชิงอวิ๋นก็ทำอะไรไม่ได้อย่างแน่นอนแล้ว จะไม่ให้นางใช้ประโยชน์จากโอกาสดีๆ แบบนี้ได้อย่างไร

นิสัยของนางคือใช้โอกาสทุกครั้งให้คุ้มค่ามากที่สุด!

จวินอู๋เย่าชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มยินดี

คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้ปีศาจที่สามารถฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาคนนี้พอใจเป็นอย่างมาก

“เจ้าทำอะไร ข้าจะฟังเจ้าทุกอย่าง” จวินอู๋เย่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม เขามีความอดทนมากพอที่จะปล่อยให้ฝูงกุ้งฝอยกระโดดโลดเต้นได้อีกสักสองสามวัน

จวินอู๋เสียกะพริบตาปริบๆ บางครั้งนางก็รู้สึกว่าจวินอู๋เย่า ‘ตามใจ’ นางมากกว่าจวินเสี่ยนเสียอีก

พี่ชายคนนี้ช่างดีจริงๆ

“อ้าปาก” จวินอู๋เสียกล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน

จวินอู๋เย่าอ้าปากโดยไม่ลังเล ในวินาทีต่อมา เม็ดยาที่หวานเล็กน้อยก็แทรกเข้าไปในปากของเขาและค่อยๆ ไหลจากคอลงไปยังหลอดอาหาร ทิ้งกลิ่นหอมจางๆ ไว้ในปากของเขา และความรู้สึกอบอุ่นก็ค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ทำให้เส้นเอ็นของเขาผ่อนคลายเป็นพิเศษเมื่ออยู่ในความอบอุ่นนั้น

รอยยิ้มตรงมุมปากของจวินอู๋เย่าขยายกว้างมากขึ้น เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่จวินอู๋เสียให้เขากินเมื่อสักครู่นั้นคืออะไร

นี่เป็นเม็ดยาที่นางหลอมขึ้นมาเอง มีเพียงสองพ่อลูกสกุลจวินเท่านั้นที่ได้กินมัน แต่วันนี้นางกลับหยิบมันออกมาป้อนให้เขา...

สามารถพูดได้เลยว่าค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่วิเศษที่สุดสำหรับจวินอู๋เย่า!

เมื่อกลับมาถึงจวนหลินอ๋องก็เป็นเวลาดึกสงัดแล้ว จวินอู๋เย่ากอดจวินอู๋เสียแล้วร่อนลงมาที่ลานเรือนพักของนาง เมื่อปลายเท้าของทั้งคู่ได้สัมผัสกับพื้น จวินอู๋เสียก็ได้กลิ่นหอมของสุราโชยมาเตะจมูก

กลิ่นของสุราลอยฟุ้งปกคลุมไปทั่วทั้งลาน แค่ดมกลิ่นก็แทบจะทำให้ผู้คนมึนเมาได้แล้ว

“กลิ่นของยอดสุราธาราหยก” จวินอู๋เสียย่นจมูกของนาง นางคุ้นเคยกับกลิ่นหอมของสุราชนิดนี้มาก เนื่องจากนางใช้สิ่งนี้เพื่อดูแลบัวหิมะซังอวี้ทุกวัน แต่กลิ่นมันจะไม่แรงเท่านี้

ก่อนที่จวินอู๋เสียจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามดังออกมาจากด้านในห้อง

“เจ้าบ้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ” เป็นเสียงร้องคำรามของเจ้าแมวดำที่ดังออกมาถึงข้างนอก ตามมาด้วยเสียงวุ่นวายไม่หยุด

จวินอู๋เย่าเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขาเดินตามจวินอู๋เสียที่เดินเข้าห้องไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา

เด็กหนุ่มรูปงามใบหน้าแดงปลั่งนั่งอยู่บนหลังของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำด้วยอาการมึนเมา เท้าเปล่าทั้งสองข้างของเขาเหยียบลงบนพื้นที่เย็นเฉียบ ผิวขาวของเขายิ่งสว่างมากขึ้นไปอีกเมื่อมองตัดกับขนสีดำเงางามของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำขนาดมหึมา

สัตว์ร้ายสีดำที่ดุร้ายถูกเด็กน้อยนั่งอยู่บนหลัง และกรงเล็บอันทรงพลังทั้งสี่ของมันก็ขูดอยู่บนพื้น พยายามที่จะเหวี่ยงไอ้สารเลวด้านบนให้ลงมาจากหลังของมัน

แต่เด็กหนุ่มที่ดูเปราะบางกลับหนักอึ้งเหมือนดั่งภูเขาที่ตั้งตระหง่าน เขานั่งอยู่บนหลังของสัตว์ร้ายสีดำอย่างมั่นคง มือข้างซ้ายถือไหสุราไว้ และบนใบหน้าที่แดงก่ำของเขาก็เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา

“ขยับสิ ทำไมเจ้าไม่ขยับแล้วล่ะ เจ้าลองตีข้าเหมือนเมื่อก่อนดูหน่อยสิ” บัวหิมะมัวเมายิ้มมุมปาก ขาทั้งสองข้างเกาะเอวของสัตว์ร้ายสีดำไว้อย่างแน่นหนาแล้วกดมันลงกับพื้น ร่างกายที่สูงโปร่งเอนตัวไปทางด้านหลัง ส่วนมืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็จับหางของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำที่ส่ายไปมา ขนบนหางของสัตว์ร้ายสีดำลุกพรึ่บพยายามสะบัดหนี แต่บัวหิมะมัวเมาก็บิดหางในมือแล้วดึงขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมี้ยว!!! สัตว์ร้ายสีดำร้องออกมาเสียงดังลั่น