"มันก็แค่เสียงเงียบๆ...แต่แม่งดังชิบหายในหัวผม" — อเดน
เสียงรองเท้าหนังตึงๆ กระทบพื้นหินอ่อนของอาคารกรมสอบสวนกลางในยามเช้าอันเงียบสงัด ดวงอาทิตย์ยังไม่ทันพ้นขอบตึกดีด้วยซ้ำ อเดน เวลส์ นักสืบหนุ่มวัย 29 ปี ผมยาวหยักศกเล็กน้อย ชอบมัดลวกๆ ไว้ข้างหลัง ยืนพิงประตูสูบบุหรี่ด้วยสีหน้าเซ็งๆ
เขาเพิ่งโดนเรียกตัวกลับจากพักร้อนที่ยังไม่ทันได้แพ็คกระเป๋า เสื้อฮาวายยังทิ้งไว้ที่เตียงในโรงแรมอยู่เลย บินข้ามรัฐด้วยเครื่องบินแดงๆ ราคาประหยัด และตอนนี้เขากำลังมองป้ายหน้าตึกที่เขาอยากจะหลีกหนีมานานแสนนาน
"หน่วยสืบสวนพิเศษ – คดีลักษณะวิปริตระดับสูง"
"เชี่ย...คิดถึงกาแฟมากกว่าไอ้คดีเฮงซวยนี่อีก" เขาพึมพำ ก่อนสะบัดก้นบุหรี่ลงบนพื้น
ในห้องประชุม ทีมใหม่ของเขารออยู่พร้อมหน้า — เอเลน่า หัวหน้าทีมอายุห้าสิบกว่า แต่ยังเฉียบคมพอจะเฉือนความคิดคนทั้งห้องให้แบนราบ (อายุก็แค่ตัวเลข) ลูเซีย ผู้ช่วยสาวที่มีดวงตาคล้ายเคยร้องไห้มาตลอดชีวิต ไมเคิล มือเทคนิคที่ฟังเพลงแนว Deathcore ตอนนั่ง Debug
"เหยื่อเป็นนักเปียโนชื่อ คาริน โรชาร์ต พบศพบนเวทีเปล่าในโรงละครร้าง กลางอกมีรอยแหวะลึกเหมือนถูกแทง แต่ไม่มีเลือดไหล ไม่พบร่องรอยต่อสู้"
เอเลน่าพูดขณะเปิดภาพถ่าย เหยื่ออยู่ในท่านั่งพิงเก้าอี้ หน้าตาเหมือนกำลังหลับ เพลงที่เธอกำลังเล่นก่อนตายไม่มีอยู่จริง ไม่มีโน้ตบนแท่นวางโน๊ต ไม่มีเสียง ไม่มีผู้ชม
แต่มี “กระดาษแผ่นหนึ่ง” วางอยู่ตรงพื้นหน้าเปียโน
โน้ตเปล่า
ไม่มีตัวโน้ต ไม่มีคีย์ ไม่มีอะไรเลย
“แม่งเหมือนล้อเล่นนะเนี่ย” อเดนพึมพำแล้วหาวอย่างหน้าด้าน “แผ่นกระดาษเปล่าจะเป็นเบาะแสได้ไงวะ? หรือมันเป็นศิลปะ? แบบ...มินิมอล คิลลิ่ง”
ไมเคิลกลั้นหัวเราะแทบจะไม่อยู่ ลูเซียเหลือบมองพลางคิดว่า“พี่แกจริงจังมั้ยเนี่ย?”
เอเลน่าไม่ยิ้มด้วยแล้วถามว่า “แล้วถ้าฉันบอกว่าในกระดาษแผ่นนั้น มันมีเสียงละ?”
ห้องเงียบลงทันที
“ตรวจด้วยโซนาร์เฉพาะ พบร่องรอยของการกรีดลึกลงในกระดาษเป็นเส้นจางๆ เหมือนกับการเขียนโน้ตแบบซ่อนไว้ ไม่ใช่ด้วยหมึก แต่ด้วยแรงกดของมือระดับจุลไมครอน”
ลูเซียหยิบไฟล์ขึ้นมาเปิดภาพโครงสร้างแบบอินฟราเรดให้ดู “คล้ายการบันทึกเสียงลงแผ่นเสียงแบบโบราณ แต่ใช้มือเปล่า”
อเดนมองภาพ แล้วหัวเราะเบาๆ “เหี้ย นี่มันศิลปะจริงๆ ด้วย”
“หรืออาจจะเป็นสัญญาณแรกจากใครบางคน ที่อยากให้เรา ‘ได้ยิน’ เสียงที่ไม่มีอยู่จริง” เอเลน่ากล่าว
เงียบอีกครั้ง
...
ณ โรงละครร้าง
กลิ่นฝุ่น กลิ่นไม้เก่า และกลิ่นความตายที่ยังไม่จางหายไป อเดนเดินบนเวทีอย่างเบื่อๆ หยิบบุหรี่ขึ้นมาเคี้ยวปลาย แบบไม่ได้จุดไฟ
“นี่คือที่ที่คารินตาย...” ลูเซียพูดเบาๆ
“เธอเล่นเพลงสุดท้ายที่ไม่มีเสียง ต่อหน้าผู้ชมที่ไม่มีตัวตน ในสถานที่ที่ไม่มีใครฟัง” อเดนยิ้มเหี้ยม “แม่ง...โรแมนติกดีนะ”
ขณะนั้นเอง เสียงจิ๊บๆ จากลำโพงเก่าที่ไม่เสียบสายดังขึ้นเอง
ทุกคนหยุดหายใจ
เสียงนั้นคือ “โน้ตเปล่า” ที่ถูกสแกนในห้องแล็บ — มันถูกเล่นออกมาผ่านคลื่นไมโครโทนัลที่หูมนุษย์แทบไม่ได้ยิน
แต่พวกเขา "รู้สึก" ได้ถึงมัน
หัวใจของลูเซียเต้นผิดจังหวะไปเสี้ยววินาที
อเดนยืนนิ่งแล้วพูดออกมาเบาๆ
“คนฆ่า...กำลังบรรเลงเพลงของเขาอยู่ตอนนี้...ผ่านความกลัวของพวกเรา”