เสียงที่ไม่มีใครฟัง

บันทึกเสียงในห้องอัดที่พังไปแล้วไม่ควรจะยังทำงานได้

แต่มันก็...

“...ไมค์ นายเช็กแล้วใช่ไหมว่าระบบอัดเสียงพังไปตั้งแต่ห้าปีก่อน?”

อเดนถามด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น ขณะนั่งไขว่ห้างอยู่บนกล่องลำโพงเก่าๆ มือยังถือแก้วกาแฟที่น่าจะเย็นไปแล้วครึ่งชั่วโมง

“ใช่พี่ มันพังไปแล้วแน่นอน ไม่มีไฟ ไม่มีแบตเตอรี่ ไม่มีสายเชื่อมกับเซิร์ฟเวอร์ ไม่มีอะไรเลย” ไมค์ตอบพลางพิมพ์โค้ดในแล็ปท็อปเหมือนคนจะปลุกศพให้ลุกขึ้นมาเต้นได้

“แล้วเสียงที่เราได้ยินเมื่อคืนมาจากไหน?”

ทั้งห้องเงียบ

เอเลน่าหันมามองเขา ดวงตาคมกริบและกดอารมณ์ไว้ไม่อยู่ “อย่าพูดเล่นนะอเดน อย่าพูดว่ามันเป็นเสียงก่อนตายจากเหยื่อจริงๆนะ”

“งั้นผมขอพูดใหม่” เขายิ้มกวนๆ แล้วหยิบบุหรี่มา “เสียงเมื่อคืนนั้น...เป็นเสียงของคนที่รู้ว่าเขากำลังจะตาย แต่ไม่มีใครได้ยินเลย”

ลูเซียหน้าเผือด

“ในไฟล์เสียงนั้น” อเดนหรี่ตามองจอสกรีน “มีแค่สองอย่าง — เสียงฝีเท้า...และเสียงขูดบางอย่างคล้ายสายไวโอลินบนคอนกรีต”

“เหมือนคนกำลังพยายามปีนหนี...” ไมค์กระซิบเบาๆ

“หรือเหมือนคนพยายามเขียนโน้ต...ด้วยเล็บของตัวเอง”

เสียงอีกแบบหนึ่งดังขึ้น

ไม่ใช่เสียงในคลิป

แต่เป็นเสียงในหัวอเดนเอง

"ฟา... ลา... ซอล..."

“แค่โน้ต 3 ตัว ทำไมมันถึงไม่ออกจากหัวฉันไปซะที”

เขาสะบัดหัวเบาๆ พยายามไม่สนใจแม้แต่ไมค์จะสังเกตเห็น

“คดีนี้แม่งไม่ใช่ฆาตกรรมธรรมดาแล้ว”

อเดนพึมพำพลางลุกขึ้นยืน หมุนไหล่เหมือนคนจะไปเตะบอลมากกว่าไขคดี

“แล้วมันวิเศษยังไงฮะยอดนักสืบ?” เอเลน่าเหน็บ

“มันพิเศษตรงที่...คนฆ่าไม่ได้ต้องการให้เหยื่อตายเร็ว” เขาเดินไปเปิดไฟห้องบันทึกเสียง

“เขาอยากให้เหยื่อ ได้ยินเสียงของตัวเองตาย

ไฟสลัวๆ ส่องเห็นผนังที่เต็มไปด้วยรอยขูดเหมือนมีคนใช้เล็บจารึกอะไรไว้

และตรงกลางห้อง...คือโน้ตเปล่าแผ่นเดียวบนขาตั้ง

โน้ตที่ไม่มีเสียง

โน้ตที่รอใครสักคนเติมให้สมบูรณ์

อเดนเดินเข้าไปใกล้มัน หยิบแผ่นกระดาษขึ้นมาดูแล้วเอียงหัวเล็กน้อย

“เขาไม่ได้เขียนเพลงบนกระดาษนี้...แต่เขาเขียนลงบนคน”

ในศพที่พบเมื่อคืน

มีลวดเปียโนพันกับเส้นเสียง

มีจังหวะหยุดของลมหายใจตามช่วงเวลาเหมือนเมโทรโนม

และตอนที่เหยื่อกำลังจะสิ้นใจจริงๆ...คือเวลาที่ “เสียงคลื่นต่ำพิเศษ” ถูกเปิดในห้อง

คลื่นที่ไม่มีใครได้ยิน

เว้นแต่คนกำลังจะตาย

“ไมค์ เดินคลื่นเสียงถี่ต่ำย้อนหลังในระบบทั้งหมดของตึก”

“ครับพี่”

“เอเลน่า สั่งปิดลำโพงทุกตัวรอบเขตอัดเสียงนี้ ไม่งั้นเราจะได้ยินเสียงสุดท้ายของเหยื่ออีกคนในคืนนี้”

“เรียบร้อย”

“ลูเซีย เช็กประวัติคนที่เคยอยู่ในวงดนตรีกับเหยื่อคนนี้...ใครที่หายไปในช่วงหกเดือนหลังสุด ฉันอยากรู้ว่า ‘เสียง’ ของใครที่กำลังเงียบ”

ลูเซียพยักหน้า ทั้งที่หน้าเธอยังซีดอยู่

“อเดน นายว่าเขาจะฆ่าอีกเมื่อไหร่?” เอเลน่าถามขณะก้าวออกจากห้อง

อเดนเงยหน้าขึ้นมองเพดาน

ลูบคางตัวเองช้าๆ แล้วหัวเราะเบาๆ

“เขาไม่ได้กำลังฆ่า”

“เขากำลังแต่งเพลงอยู่ต่างหาก”

"เพลงที่ไม่มีใครอยากฟัง แต่ทุกคนจะได้ยิน...ตอนที่มันสายไปแล้ว"