เสียงหัวเราะค่อยๆ ดังขึ้นกลางห้องที่มืดสนิท
ไม่ใช่เสียงตลก ไม่ใช่เสียงดีใจ แต่เป็นเสียงที่เหมือนกำลัง “เข้าคีย์” กับจังหวะอะไรบางอย่างในหัว
"Allegro... เร็วขึ้นอีกนิดสิคนดี..." (Allegro” ในทางดนตรีคือ “เร็วแบบมีชีวิตชีวา)
มือซ้ายบรรจงจรดลงบนเครื่องสายเก่าๆ
มือขวาหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมา แล้วค่อยๆ ขูดมันไปบนเส้นเอ็นของศพตรงหน้า
สายเอ็นตึงราวกับจะดีดเสียงออกมาได้จริงๆ
คนฆ่าไม่ได้เพียงแค่ฆ่า
เขากำลัง เล่นเครื่องดนตรีจากร่างมนุษย์
—
“เหยื่อรายที่สอง… ชายวัย 40 ครูสอนเปียโน ตายแบบเดียวกันกับรายก่อนหน้า”
เสียงเอเลน่าทำลายความเงียบในห้องสืบสวนเช้าอันแสนอึมครึม
“เสียงก่อนตายไม่ดังเท่าเคสแรก” ไมค์เสริมขณะเลื่อนภาพจากกล้องวงจรปิดขึ้นบนจอ
“แต่ในไฟล์เสียงที่ได้จากกล้อง...มีเสียง Tempo คล้ายเมโทรโนม — เร็วขึ้นทีละนิด จนหยุดที่จังหวะ Allegro”
อเดนยกกาแฟขึ้นดื่มแล้วหยีตาเล็กน้อย
“เหมือนจังหวะหัวใจที่เร่งเรื่อยๆ จนแตกสลาย”
“เหยื่อถูกมัดไว้กับเก้าอี้ คอพับลง เหมือนหมดแรงหายใจหลังหัวใจเต้นแรงเกินควบคุม” ลูเซียอ่านจากแฟ้มคดี เสียงสั่นเล็กน้อย
“ฆาตกรไม่ได้ฆ่าด้วยมือ…” อเดนพึมพำ “...แต่ใช้เสียงเร่งจังหวะหัวใจเหยื่อจนหยุดทำงาน — เหมือนการ ‘เร่งเพลง’ จนเครื่องดนตรีพัง”
เขาเดินไปหน้ากระดานไวท์บอร์ด เขียนคำว่า “ALLEGRO” ด้วยลายมือหวัดๆ
ตามด้วยขีดเส้นใต้สามเส้น
“คดีแรก: โน้ตเปล่า – เหยื่อเขียนด้วยเสียงตัวเอง
คดีสอง: Allegro – เหยื่อตายเพราะจังหวะเร่ง
...เขากำลังแต่งเพลงจริงๆ”
—
ขณะเดียวกัน…
ที่อีกฟากของเมืองในห้องใต้ดินที่ไม่มีใครกล้าเข้า
เสียงเครื่องอัดเสียงโบราณหมุนเทปวนซ้ำไปมา
“Allegro... Allegro... Allegro…”
เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของฆาตกร
แต่เป็น เสียงของเหยื่อคนต่อไป ที่ถูกบังคับให้พูดซ้ำ
ขณะถูกทรมานให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นผ่านเสียงความถี่ต่ำเฉพาะจุด
ใบหน้าของฆาตกรซ่อนอยู่ในเงามืด มีเพียงรอยยิ้มแผ่วเบาและการเคาะนิ้วลงบนโต๊ะจังหวะ 3/4 ช้าๆ
เขาเปิดโน้ตเพลงแผ่นใหม่ขึ้นมา
เขียนด้วยหมึกสีแดง
ลงชื่อมุมกระดาษว่า...
"Concerto for the Dead - Part III: Vivace"
—
“เหยื่อมีจุดร่วมอะไรบ้าง?” เอเลน่าถามระหว่างประชุมในคืนต่อมา
“ทั้งคู่เป็นนักดนตรีมืออาชีพ เคยเป็นสมาชิกวงเดียวกันเมื่อห้าปีก่อน” ลูเซียตอบพลางเปิดแฟ้ม
“วงชื่อ Nocturne Echo เลิกกิจการไปเพราะอุบัติเหตุ... มือไวโอลินเสียชีวิตกลางเวทีด้วยเหตุไม่ชัดเจน”
อเดนยกมือขึ้น
“อุบัติเหตุอะไร?”
ไมค์ตอบ “ระเบิดเสียงความถี่ต่ำ บนเวทีเกิดการ ‘ย้อนเสียง’ แบบที่ควบคุมไม่ได้”
อเดนเงียบไปอึดใจ
“…แล้วมือไวโอลินตาย… แต่ศพไม่เคยพบ?”
ไมค์พยักหน้า “ถูกระบุว่า ‘หายสาบสูญ’ แม้กล้องจะเห็นว่าเขาถูกแรงกระแทกจนร่างกระเด็นลงหลังเวที”
อเดนหัวเราะในลำคอเบาๆ
“พวกนายรู้ไหม…” เขาวางแก้วกาแฟลงดัง ตุบ
“…เครื่องดนตรีที่เจ๊งไปแล้ว ถ้าซ่อมไม่ถูกวิธี มันจะ ‘ส่งเสียง’ ออกมาเอง… โดยไม่ต้องมีใครเล่น”
—
คืนเดียวกันนั้น
กล้องวงจรปิดหน้าวิทยาลัยดนตรีแห่งหนึ่ง
จับภาพชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในมุมมืด
ในมือถือเคสไวโอลิน
แต่ไม่ได้ใส่ไวโอลิน
ข้างใน…
เป็นเครื่องมือศัลยกรรม
ลวดเปียโน
แผงวงจรเสียง
และโน้ตเพลงแผ่นที่สาม
Vivace – เร็วกว่า Allegro
เร็วพอจะเผาใจให้มอดไหม้ทั้งเป็น