บทที่ 24

ตอนที่ 24 จิตเริ่มนิ่ง

เขามองดูกระต่ายตรงหน้าใหญ่และพองขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หานลี่รู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติ เขาคิดบางอย่างออกขึ้นมาฉับพลันและโยนถ้วยที่เหมือนยาพิษในมือทิ้งไปในแปลงสมุนไพร จากนั้นก็หมุนตัววิ่งไปจนห่างจากกระต่ายประมาณสามสิบกว่าเมตรจึงหยุดฝีเท้าลง

ขณะที่เขาคิดจะวิ่งกลับไปดู ก็ได้ยินเสียงระเบิดในเวลาใกล้กันสองครั้งลอยมา เขาตัวสั่นเทา หันกลับไปมองก็พบว่ากระต่ายทั้งสองตัวพองจนแตกเป็นเสี่ยงๆ เลือดและเนื้อกระเด็นไปตามจุดต่างๆ บริเวณที่มัดกระต่ายไว้ก็เกิดหลุมขึ้นสองหลุมและรอบหลุมก็เต็มไปด้วยซากกระดูก เลือดและชิ้นเนื้อกระจายอยู่ ช่างน่าเวทนาเสียจริง

หานลี่ถอนหายใจยาวและนั่งลงบนพื้น ถ้าไม่เพราะเขาเอะใจทัน เกรงว่าน่าจะถูกกระต่ายระเบิดใส่ไปแล้ว และแม้ว่าอาจจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่การที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดและซากกระต่ายก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าไหร่นัก

เมื่อจิตใจสงบลง หานลี่ก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ๆ หลุม

มองเข้าไปในเศษซากนั้นและถ้วยที่แตกกระจายในสวน เขากลับพูดอะไรไม่ออก

หานลี่คิดว่าจะค้นพบยาวิเศษอะไรจากของเหลวสีเขียว คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นสิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้ ยาพิษก็ยาพิษเถอะ ทำให้กระต่ายตายได้อย่างน่าเวทนา! ตอนนี้ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่แตะต้องมันอีก ช่างน่ากลัวเสียจริง! ใช่ว่าหานลี่จะไม่เคยสัมผัสกับยาพิษคร่าชีวิตคน สองสามปีที่อยู่กับท่านหมอม่อ เขาได้เห็นยาพิษมามากมาย แต่กลับไม่เคยเห็นอะไรที่ทำให้ตายได้สยดสยองเท่านี้มาก่อน

หานลี่ถือว่ามีความอดทนสูง ในสถานการณ์เช่นนี้เขายังอดทนอยู่ต่อสักพักถึงค่อยตัดสินใจเดินจากไป

เพราะว่าเป็นเวลาเที่ยง เขาต้องรีบเอายาไปส่งให้ศิษย์พี่ลี่ เสร็จแล้วค่อยกลับมาจัดการกับเศษซากที่เหลือ

คิดได้อย่างนั้น หานลี่จึงไม่กลับไปมองมันอีกแม้สักนาทีเดียว หลังจากทิ้งความยุ่งยากทั้งหมดไว้เบื้องหลัง เขาก็กลับไปพักสักครู่จากนั้นก็ถือยาไปรอที่หน้าหุบเขาหัตถ์เทวา

หานลี่เป็นคนตรงต่อเวลามาก เขามาถึงหน้าหุบเขาหัตถ์เทวาเมื่อเวลาเที่ยงตรงพอดี ลี่เฟยอวี่เหมือนจะรออยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางร้อนรน

ตรงปากทางเข้ามีแค่เขายืนอยู่ เขาสวมชุดสีขาว ข้างหลังสะพายดาบยาวที่หานลี่จำได้แม่น เมื่อหานลี่ไปถึง เขากำลังใช้สีหน้าร้อนรนมองเข้ามาในหุบเขา

เมื่อเห็นหานลี่มาถึงเขาจึงเก็บอาการนั้นไว้ และขยับมุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มขึ้น

“ศิษย์น้องหาน มาตรงเวลาจริงเชียว! บอกว่าเที่ยงก็มาเที่ยงตรงจริงๆ ข้ารอเจ้ากว่าครึ่งชั่วโมงแล้วเนี่ย” ลี่เฟยอวี่พูดทีเล่นทีตำหนิ

“ขอโทษด้วย เมื่อวานใช้เวลาปรุงยาไปเยอะ กว่าจะได้นอนก็ดึกมากแล้ว ตอนเช้าก็เลยตื่นสายหน่อย กว่าข้าจะจัดการธุระอะไรเสร็จก็ปาเข้าไปเที่ยงพอดี” หานลี่ก็พูดทีเล่นทีจริง

“ศิษย์น้องหาน ยา เช่นนั้นยา..ปรุงเสร็จแล้วหรือยัง?” ศิษย์พี่ลี่พูดติดๆ ขัดๆ เนื่องจากใจร้อนและสับสน

หานลี่ไม่ได้ตอบคำถามเขา ยิ้มแห้งๆ และโยนห่อยาเท่าฝ่ามือให้กับลี่เฟยอวี่

“ทุกครั้งก่อนกินยาสลายกระดูก ตักยาหนึ่งช้อนผสมในน้ำอุ่นดื่มก็จะช่วยลดความเจ็บปวดให้กับท่าน”

“ขอบคุณศิษย์น้องหาน! ขอบคุณศิษย์น้องหาน!” ศิษย์พี่ลี่ดีใจอย่างบ้าคลั่ง เพียงแค่ช่วยให้เขาลดความเจ็บปวดลงได้ มันก็เป็นข่าวดีสำหรับเขามากแล้ว ความทรมานที่เกิดหลังกินยาสลายกระดูกทำให้เขาหวาดกลัว เมื่อก่อนเขาก็เคยกินยาระงับปวดมากมาย แต่ก็ไม่เคยเห็นผล ในเมื่อศิษย์น้องหานคนนี้รู้จักยาสลายกระดูกและยังเคยใช้มัน ไม่แน่ว่ายาที่ปรุงมานี้อาจจะได้ผล

“ท่านอย่ามัวแต่ขอบคุณข้าอยู่เลย รอให้เห็นผลก่อนแล้วค่อยพูดก็ยังไม่สาย อีกอย่างยานี้พอแค่สำหรับหนึ่งปี ตัวยาที่ใช้ปรุงตอนนี้ข้าใช้หมดแล้ว รอให้ข้าเก็บสมุนไพรเพิ่มแล้วค่อยปรุงให้ท่านใหม่” หานลี่พูดอย่างตรงไปตรงมา

“ไม่เป็นไร ยานี้สำหรับปีหนึ่งไม่ใช่หรือ แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ว่ายานี้จะได้ผลหรือไม่ แต่น้ำใจของศิษย์น้องหานในครั้งนี้ ข้าลี่เฟยอวี่ขอรับไว้ด้วยใจ” ศิษย์พี่ลี่รับของที่อยากได้ไว้ สีหน้ากลับสู่ปกติ เขาแสดงออกว่าติดหนี้บุญคุณหานลี่อย่างไม่เสแสร้ง

หานลี่ยิ้มไม่พูดอะไรและขอตัวลาศิษย์พี่ลี่กลับหุบเขาไป

ลี่เฟยอวี่รับยามาไว้ในมือก็อยากรีบกลับไปทดลองว่าได้ผลอย่างไรจึงไม่ได้รั้งหานลี่ไว้ และทั้งสองก็ต่างแยกย้ายไปคนละทาง

หลังจากที่กลับเข้ามาในหุบเขา หานลี่ก็พุ่งตรงไปยังสวนสมุนไพร เขาจัดการนำซากกระต่าย ดินที่เปื้อนเลือด และถ้วยที่แตกใส่ไว้ในหลุม จากนั้นก็เอาดินกลบหลุมทั้งสองนั้นไว้ แค่นี้ก็ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว

หานลี่ปัดฝุ่นออกจากมือทั้งสองอย่างพอใจ สำรวจดูรอบๆ อีกครั้งว่ามีอะไรตกหล่นอยู่หรือไม่

เมื่อสายตาของเขาหันไปมองจุดที่ถ้วยแตก เขาก็ส่งเสียงพึมพำขึ้นมา

เขาจำได้ชัดว่า ตอนที่โยนถ้วยลงไป น้ำในถ้วยมันกระเด็นออกไปทำให้สมุนไพรบริเวณนี้มันเปียกไปหมด เขาเริ่มลังเลใจ ไม่รู้ว่าสมุนไพรเหล่านี้ดูดซึมยาเข้าไปแล้วจะทำให้มีพิษหรือไม่? และถ้าคนกินสมุนไพรมีพิษเหล่านี้เข้าไปจะส่งผลให้เหมือนกระต่ายพวกนั้นรึเปล่า? ตอนนี้เขาควรจะกำจัดพืชมีพิษเหล่านี้ใช่ไหม? ปัญหาต่างๆ มากมายผุดเข้ามาในความคิดของหานลี่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

หานลี่คิดอยู่นานจึงตัดสินใจรอดูสักระยะ ถือว่าเป็นการทดลองอีกครั้ง ถ้าสองสามวันนี้สมุนไพรเปลี่ยนเป็นมีพิษ เขาค่อยกำจัดก็ยังไม่สาย

หลังจากตัดสินได้แล้ว ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่เขาต้องทำอีก จึงมุ่งหน้าตรงไปที่ห้องถ้ำหิน เขาหวังจะให้ตัวเองสามารถฝึกสำเร็จจากที่เพิ่มพลังขึ้นครั้งก่อน

ขณะนี้หานลี่ไม่สนใจแล้วว่าบทท่องนิรนามนี้มีประโยชน์อย่างไร การฝึกบทท่องนี้ได้กลายเป็นการตอบสนองต่อสัญชาตญาณของเขาไปเสียแล้ว ถ้าไม่ได้ฝึก เขาก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ทำอะไรบนเขา การฝึกบทนิรนามให้ลึกขึ้นกลายเป็นเป้าหมายทั้งหมดในชีวิตเขาตอนนี้

จากการฝึกอย่างตั้งใจตลอดบ่าย หานลี่ได้พบเรื่องเศร้าที่ว่าเขาไม่ได้เป็นคนมีพรสวรรค์อะไร แม้ว่าเขาจะสัมผัสได้ว่าอีกแค่นิดเดียวก็จะสามารถสำเร็จไปถึงขั้นที่สี่ได้แล้ว แต่มันก็ยังไม่คืบหน้า เขารู้สึกว่าตัวเองได้เสียเวลาตลอดทั้งบ่ายไปเปล่าๆ

สงสัยว่าถ้าไม่ใช้สมุนไพรช่วยจะไม่ได้เสียแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาก็คงติดอยู่แค่ขั้นที่สามไม่คืบหน้าเสียที

ในใจของหานลี่หวังจะให้ท่านหมอม่อรีบกลับมาและโชคดีหาตัวยามาได้มากพอที่จะช่วยเขาแก้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้านี้ได้โดยไว