บทที่ 22

ตอนที่ 22 กำเนิดจิตมาร

หานลี่ยืนนิ่งเงียบมองแผ่นหลังของลี่เฟยอวี่ที่ค่อยๆ ห่างออกไป

หลังจากที่นัดหมายกันเรียบร้อย เขาก็ขอตัวกลับไปพักฟื้น

ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน หานลี่ไม่ได้ถามเขาถึงสาเหตุที่ต้องใช้ยาขนานนี้ หานลี่รู้ดีว่าถึงเขาถามไปก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นได้

ในเมื่อเขายอมละทิ้งอนาคต เพียงเพื่อจะเป็น ‘ศิษย์พี่ลี่’ ผู้เก่งกาจในตอนนี้ นั่นแปลว่าเขาต้องมีเรื่องอึดอัดใจมากจนต้องทำ ไม่มีใครยอมฆ่าตัวตายหรอก และถึงแม้จะเป็นความตายที่แลกกับสิ่งล้ำค่าก็คงไม่มีใครยินยอมพร้อมใจอยากทำ ถ้าบีบบังคับให้เขาพูด ก็เหมือนทำให้บาดแผลที่ใกล้สมานแล้วปริออกอีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่าหานลี่ตัดสินใจถูก ก่อนที่จะจากไปลี่เฟยอวี่เห็นเขาไม่ซักไซ้เรื่อง ‘ยาสลายกระดูก’ จึงรู้สึกประทับใจที่เขาเห็นใจและเข้าใจ ถึงแม้ว่าจะไม่เอ่ยออกมา แต่หานลี่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกติดหนี้บุญคุณเขาอยู่ไม่น้อย

หานลี่ตั้งใจทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ไม่เพียงแต่ช่วยเก็บความลับ แต่จะรีบกลับไปปรุงยาลดความเจ็บปวดให้ด้วย

เหตุผลที่เขาทำเช่นนี้ง่ายนิดเดียว ในเมื่อลี่เฟยอวี่ไม่ใช่คนเลวที่กล้าลงมือฆ่าเขา เช่นนั้นเขาจะต้องให้อีกฝ่ายรู้สึกติดหนี้บุญคุณครั้งใหญ่จนไม่กล้าปฏิเสธคำขอร้องจากเขา

สองสามปีหลังจากนี้วรยุทธ์ของลี่เฟยอวี่จะยิ่งเก่งกาจขึ้น ยิ่งวรยุทธ์สูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีต่อเขามากเท่านั้น หรือถึงเขาจะไม่ต้องการความช่วยเหลือก็ไม่เป็นไร การช่วยเหลือคนที่ไม่ถึงกับแย่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้เขามีความสุข แม้ว่าลี่เฟยอวี่อาจไม่ใช่คนดีอะไร แต่เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำอันตรายเขาอีกเป็นแน่

หานลี่เรียบเรียงเหตุการณ์ทั้งหมดอีกครั้ง คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดจึงเดินกลับหุบเขาหัตถ์เทวาไปช้าๆ

หลังจากที่เดินกลับมาอย่างสบายใจ หานลี่ก็ลงมือปรุงยาที่ลี่เฟยอวี่ต้องการ ยาที่ช่วยลดความเจ็บปวดนี้ปรุงได้ไม่ยาก สมุนไพรที่ต้องใช้ก็หาได้ทั่วไปในสวนแห่งนี้ แต่แค่ขั้นตอนค่อนข้างซับซ้อนจึงต้องระมัดระวังอยู่ไม่น้อย

ตลอดช่วงบ่ายอันวุ่นวาย หานลี่ก็ปรุงยาที่พอสำหรับให้ลี่เฟยอวี่ใช้หนึ่งปี ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะปรุงให้มากกว่านี้ แต่แค่อยากจะให้ลี่เฟยอวี่มารับยาเองทุกปีเพื่อป้องกันไม่ให้ลืมบุญคุณที่ติดค้างเขาไว้

เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ หานลี่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าห้องเขาด้วยท่าทางที่ไม่เหมือนทุกวัน เขาแหงนหน้ามองท้องฟ้าอันมืดมิดและกำลังจ้องดูพระจันทร์ที่ส่องสว่างเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

หานลี่คิดถึงครอบครัวของเขาอีกแล้ว

เขาห่างจากพ่อและแม่มาสี่ปีกว่า ตั้งแต่ที่มาอยู่บนเขา ทุกวันเขาต้องฝึกบทท่องนิรนามอย่างลำบากจนไม่มีเวลามานั่งคิดถึงครอบครัวและก็ไม่เคยได้ลงจากเขา มีแต่จะฝากคนอื่นถือเงินที่เขาได้รับทุกเดือนกลับไปให้ที่บ้าน ส่วนเขาทุกปีก็ได้แค่จดหมายลายมือลุงจางบอกว่าพ่อแม่ปลอดภัยดีฉบับเดียว เนื้อหาในจดหมายนั้นมีน้อย นอกจากบอกว่าทุกคนปลอดภัย เรื่องอื่นก็แทบจะไม่มี เขารู้แค่ว่าความเป็นอยู่ทางบ้านดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก พี่ใหญ่ก็แต่งงานแล้ว ส่วนพี่รองก็ทาบทามภรรยาไว้แล้วปีหน้าถึงจะมีข่าวดี ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเพราะเงินที่เขาส่งกลับไปให้ แต่จากจดหมายไม่กี่ฉบับหานลี่กลับสัมผัสได้ว่าน้ำเสียงที่คนในบ้านคุยกับเขาเหมือนมีความเกรงใจประหนึ่งว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า ความรู้สึกนี้ทำให้หานลี่หวาดกลัวในตอนแรก ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไป ความรู้สึกว่าความหวาดกลัวนั้นกลับค่อยๆ หายไปโดยที่เขาก็ไม่รู้สาเหตุ และภาพของครอบครัวในใจเขาก็เหมือนยิ่งเลือนลางลง

ในคืนนี้บรรยากาศรอบตัวทำให้เขานึกถึงคนในครอบครัวขึ้น ย้อนนึกถึงความรู้สึกอบอุ่นเมื่อครั้งอยู่ที่บ้าน ความรู้สึกอันมีค่าที่ทำให้เขาอบอุ่นและหาไม่ได้ในตอนนี้ เขาค่อยๆ รำลึกถึงมันทีละน้อย

ขณะนี้หานลี่รู้สึกกลัดกลุ้มใจบอกไม่ถูก เขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ร่างกายของเขาผิดปกติ เลือดลมไหลเวียนไปทั่ว พลังแปลกๆ จากการฝึกเหมือนจะปะทุออกมา

‘ธาตุไฟเข้าแทรก’ สิ่งที่เขากลัวผุดเข้ามาในความคิด หานลี่ยืนสูดลมหายใจลึก บังคับตัวเองให้สงบลง ตอนนี้ท่านหมอม่อไม่อยู่ เขาจึงต้องจัดการปัญหาตรงหน้าด้วยตัวเอง

เขาจะธาตุไฟเข้าแทรกโดยไม่มีสาเหตุได้อย่างไร หานลี่ยังรู้สึกสงสัย แม้ว่าตอนนี้จะไม่ใช่เวลามานั่งหาสาเหตุ แต่มันเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เขาแก้ไขปัญหาให้หมดไปได้

หานลี่เงยหน้าขึ้น ใช้สายตากวาดมองบริเวณโดยรอบก็ไม่พบสิ่งที่สะดุดตา

เขาใช้มือขวาคลำไปที่คางของตัวเอง จู่ๆ ข้อศอกก็ไปสัมผัสเข้ากับบางสิ่งกลมๆ สายตาของเขามองลงไปยังของสิ่งนั้นทันที

‘ถุงห้อยคอ’ ‘ยันต์คุ้มภัย’ สิ่งเหล่านี้ลอยเข้ามาในความคิดเขา

‘หรือว่าต้นเหตุมาจากมัน?’ หานลี่ไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาลังเล ร่างกายของเขาเริ่มแย่ลงและเขาอาจจะสติหลุดได้ตลอดเวลา

หานลี่ตัดสินใจกระชากมันออกและโยนทิ้งไป

“ไม่สิ มันทรมานกว่าเดิม เลือดลมยิ่งตีกลับรุนแรงขึ้น”

หานลี่ฝืนกดความผิดปกตินั้นไว้ สายตาของเขาจ้องไปที่ถุงนั้นเขม็ง หวังจะพบสาเหตุที่ทำให้เรื่องราวเหล่านี้แย่ลง