บทที่ 28 งานจิปาถะ

ตอนที่ 28 งานจิปาถะ

ชุดสีดำแสดงให้เห็นว่ามีระดับบ่มเพาะสูงอย่างมาก หวังหลินแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองพลางพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ “หวังหลินขอทักทายศิษย์พี่จ้าง ยินดีด้วยที่ท่านได้เลื่อนถึงระดับชุดดำแล้ว”

หนุ่มชุดดำมองไปที่หวังหลิน “ข้าพึ่งบรรลุบรรลุขั้นรวบรวมลมปราณระดับห้า ถ้าข้าไม่เจอเจ้าที่ถ้ำนั่นก็คงไม่บรรลุได้เร็วเช่นนี้”

หวังหลินตกใจและถามต่อ “ศิษย์พี่จ้าง หลุมดึงดูดในถ้ำนั่นช่วยฝึกตนเช่นนั้นหรือ?”

หนุ่มชุดดำพยักหน้า “เมื่อเจ้าบรรลุระดับสี่สูงสุดและจำเป็นต้องใช้บทร่ายเพื่อบรรลุระดับห้า จงไปที่นั่นด้วยตัวเองและเจ้าจะเห็นผลลัพธ์” เขาหยุดและกล่าวต่อ “น้องหวัง มันช่วยไม่ได้ตั้งแต่เจ้ามีพรสวรรค์ปานกลางแต่ว่าเจ้ากลายเป็นศิษย์แล้วตอนนี้ เจ้าต้องหมั่นฝึกฝนให้มาก ข้าเห็นว่าเจ้าไม่มีพลังปราณในร่างกายตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งยังไม่บรรลุขั้นรวบรวมลมปราณระดับแรก ข้ากังวลว่าเจ้าเป็นศิษย์สายในคนเดียวที่เป็นแบบนี้”

หวังหลินตกตะลึงได้แต่ยิ้มขึ้น “ขอบคุณศิษย์พี่ที่แนะนำ ข้าจะขยันฝึกฝนเป็นสองเท่า” เขาเปลี่ยนหัวข้อถามขึ้น “ศิษย์พี่จ้าง ท่านมาหาข้าที่นี่มีอะไรหรือ?”

ชายหนุ่มชุดดำหัวเราะ “ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้น ศิษย์สายนอกที่เป็นผู้ดูแลงานจิปาถะได้หายตัวไป วันนั้นมีคนไปที่นั่น ข้าจึงมาถามเจ้า”

หวังหลินท่าทางปกติและหัวเราะ “ข้าพอจะรู้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น ปกติข้าไม่ไปใกล้ที่นั่นหรอก แต่ครึ่งเดือนที่ผ่านมา ข้าผ่านไปได้ยินศิษย์สายนอกกำลังคุยลับหลังข้า ข้าจึงสั่งสอนบทเรียนให้ เป็นไปได้ว่าเขากลัวข้าและออกจากสำนักไป”

ศิษย์พี่จ้างพยักหน้ากึ่งหัวเราะ “ศิษย์สายนอกน่ารังเกียจคนเดียวไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก วันนี้ข้ามาหาเจ้าเพราะว่าเหล่าผู้อาวุโสตัดสินว่าศิษย์สายนอกไม่ควรเป็นผู้รับผิดชอบงานจิปาถะพวกนั้น ดังนั้นจึงต้องการศิษย์สายในมารับหน้าที่แทน แต่ไม่มีศิษย์สายในคนไหนต้องการ เนื่องจากหลายคนก็กำลังยุ่งอยู่กับการฝึก”

หวังหลินยิ้ม “ข้าเข้าใจ ดูเหมือนว่าข้าจะถูกหมอบหมายให้ได้รับงานนี้”

ศิษย์พี่จ้างพยักหน้าพลางยิ้มเล็กน้อย “นำสิ่งของของเจ้าไปที่นั่นวันนี้ ตอนนี้งานที่นั่นยุ่งมาก เจ้าควรจะกลับไปรับใบคำสั่ง”

เขายื่นมือหาหวังหลิน ก้าวหนึ่งครา ปรากฏกระบี่ใต้ฝ่าเท้า กระบี่ปล่อยแสงสีรุ้งออกมาเป็นทางยาว

หวังหลินเผยท่าทางผิดหวัง เขาไม่ต้องการไปโรงเรือนงานจิปาถะนั่นเพราะมีแต่คนสอดรู้สอดเห็น อาจจะทำให้ความลับเขาเผยได้ง่ายๆ มีงานหลายอย่างที่ขัดขวางการบ่มเพาะ หวังหลินจัดเก็บสิ่งของตัวเองและมาถึงเรือนจิปาถะในที่สุดด้วยความโกรธอยู่ในใจ

เมื่อมาถึงเรียบร้อย หวังหลินตัดสินใจว่าจะไม่พักอยู่ที่นี่นานนัก เขาจะทำให้ทุกอย่างวุ่นวายและให้ศิษย์สายนอกไปหาเหล่าผู้อาวุโสเพื่อหาคนอื่นมาแทน

ด้วยความคิดแบบนี้ หวังหลินทำความสะอาดห้องเจ้าของคนเก่า เตียงและโต๊ะ ทุกๆอย่างถูกโยนออกไปข้างนอก

ตอนนี้ศิษย์สองสามคนมาถึงโรงเรือน และรู้ว่าตอนนี้หวังหลินเป็นผู้แจกจ่ายงาน หลายคนจึงหงุดหงิด ใบหน้าเผยแววเยาะเย้ย

บางคนก็ตั้งใจจะช่วยหวังหลินทำความสะอาด แต่โดนทุกคนจ้องมองจึงทำได้แค่ยืนอยู่ในลาน

หลังจากหวังหลินทำความสะอาดเสร็จ พลันนั่งลงบนเก้าอี้อย่างลวกๆ มองไปยังเหล่าศิษย์สายนอกร้อยคนที่เข้ามาก่อนเขา หวังหลินรู้ว่าสำนักเหิงยั่วมีศิษย์สายนอกเยอะมาก คนพวกนี้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น อีกไม่กี่วันข้างหน้าอาจจะมีศิษย์สายนอกหลายคนมาหาเขาเพื่อรายงานผลงานตัวเอง

“เจ้าไปผ่าฟืนห้าร้อยท่อน!” หวังหลินชี้ไปที่คนหนึ่งอย่างลวกๆ เขาจำได้ว่าคนนี้เป็นคนที่เยาะเย้ยเขาอย่างลับๆ

ชายคนนั้นตกใจและร้องไห้ทันที “พี่หวัง ข้า...ข้าเคยทำแต่งานในครัว ข้าไม่รู้วิธีผ่าฟืน”

หวังหลินกรอกตาและเปล่งเสียง “ตอนนี้เป็นพันท่อนต่อวันแล้ว!”

เด็กคนนั้นคุกเข่าลงกับพื้นทันที “พี่หวัง ท่านเป็นคนดี ข้าไม่ควรประชดประชันท่านก่อนหน้านี้ แต่ได้โปรดเถอะ อย่าอาฆาตข้าเลย ข้า...ข้า...ข้าทำพันท่อนไม่ได้หรอก ห้าร้อยเป็นเช่นไร?”

เสียงอื้ออึงของผู้คนทั้งหมดเต็มไปรอบด้าน พวกเขารู้ว่าหวังหลินอาจจะทำให้เรื่องยากขึ้นแต่นี่เป็นการแก้แค้นอย่างเห็นได้ชัด

มีศิษย์สายนอกสองสามคนตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจ “ทุกคนไม่ต้องฟังเขา ไปตามหาผู้อาวุโสกันเถอะและบอกเขาว่ามันไม่ยุติธรรม หวังหลินช่างวางอำนาจ”

“ถูกต้อง ออกไปหาเหล่าผู้อาวุโสกันเถอะแล้วหาศิษย์สายในคนอื่นทำแทนหน้าที่นี้ ถ้าพวกเขาไม่ฟังเสียงเรา เราจะคุกเข่าและไม่ออกไปไหน”

“ถูกต้อง ไปกันเถอะ ทุกคนไม่ต้องพักที่นี่ เจ้าหวังหลินมันชั่วร้าย จำไม่ได้หรือว่าแม้แต่การเข้าสำนักมายังใช้การพยายามฆ่าตัวตาย ช่างน่าอาย!”

น้ำเสียงไม่พอใจดังขึ้นและดังขึ้น ในไม่นานทุกคนก็ออกจากลานพร้อมกับตะโกนอย่างดูถูก “หวังหลินไม่ต้องการให้พวกเรามีชีวิตต่อไปแล้ว”

หวังหลินผ่อนคลายอยู่ในใจ ปล่อยให้เป็นแบบนี้และหวังว่าแผนจะสำเร็จ

เหล่าผู้อาวุโสอาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องบ้าและให้ใครสักคนมาทำหน้าที่แทน ส่วนเขาก็จะไปตั้งอกตั้งใจฝึกฝนต่อ

เหลือคนเพียงสิบกว่าคนที่ยังลังเลอยู่ พวกเขาต้องการจะไปแต่ถ้าเกิดล้มเหลวขึ้นมา นั่นอาจจะหมายความว่าเขากำลังดูหมิ่นหวังหลินใช่ไหม?

หวังหลินไม่ได้รีบ เขารอผลลัพธ์จากลานกลางอยู่ ไม่นานนักจากนั้นเหล่าศิษย์สายนอกแต่ละคนก็กลับมาอย่างเศร้าโศก ครั้งนี้ไม่มีใครตะโกนขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเงียบขรึม

หวังหลินเห็นท่าทีแบบนั้นจึงได้รู้ว่าล้มเหลวเสียแล้ว ดูเหมือนเขาต้องสร้างความปั่นป่วนที่ใหญ่กว่านี้ คิดได้ดังนั้นจึงพูดขึ้น “พวกคนที่เยาะเย้ยข้าทั้งหมดจงฟัง ข้ามาที่นี่วันนี้เพื่อแก้แค้น ถ้าพวกเจ้าไม่พอใจก็ไปบอกผู้อาวุโสได้ ถ้าเจ้าสามารถทำให้ข้าย้ายออกจากตำแหน่งนี้ได้ข้าจะขอบคุณพวกเจ้ามาก”

หนึ่งในศิษย์เหล่านั้นขอร้อง “พี่หวัง ท่านเป็นคนดี โปรดยกโทษให้พวกเราเถอะ”

“ใช่แล้วพี่หวัง พวกเราตาบอดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ข้าเถอะ...ข้าจะก้มกราบท่าน”

“พี่หวัง พวกเขาต่างประชดประชัดท่านมาก่อน แต่ข้าไม่เคยทำเช่นนั้น ข้ากระทั่งปกป้องท่าน ข้า….”

………………………………………..