0007 เลือดที่หลั่งออกจากทวารทั้งเจ็ด

ตอนที่ 7 เลือดที่หลั่งออกจากทวารทั้งเจ็ด

ณ ลานกว้าง แห่งหอโอสถ

เย่ฮานกำลังจ้องเขม็งมองเย่หยวน

“นี่เจ้าตัวแสบ...บอกข้ามาตรงๆ เหตุใดเจ้าจึงวินิจฉัยได้เยี่ยงนั้น?”

  เย่หยวนจ้องมองพ่อของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และตอบว่า

“ข้าเดาเอา”

  “หืม! เมื่อวานนี้ข้าเกือบจะโดนเจ้าแหกตา เจ้าเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก บอกข้ามา… งูเมฆาเจ็ดสีคืออะไรกัน ข้าก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเช่นกัน และตอนนี้ถ้าให้ข้าวินิจฉัยเจ้านั่น ข้าเกรงว่า ผลการวินิจฉัยก็คงไม่ต่างจากตาแก่เฉินแน่”

  เมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ เย่ฮานก็อดหวั่นไหวไม่ได้ นี่หากไม่ใช่เพราะความฉลาดของลูกชายเขา วันนี้… ป้ายทองคำแห่งหอโอสถคงต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน

หลังจากที่ชายร่างกำยำได้ดื่มโอสถนั่นไป ก็อาการดีขึ้นมาก เขารู้สึกซาบซึ้งบุญคุณของหอโอสถ และเย่หยวนเป็นอย่างมาก  ความหายนะกลับแปรเปลี่ยนเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะเย่หยวนที่แปลกไปคนนี้

  หลังจากนี้… เป็นที่คาดเดาได้ไม่ยากว่า หอโอสถแห่งนี้ จะยิ่งเป็นที่กล่าวขานมากขึ้นในหมู่นักล่าสัตว์ ผลประโยชน์ที่จะตามมาก็มหาศาล

  “อะไรนะ? แม้แต่ท่านก็ไม่รู้อย่างนั้นรึ? ข้าคิดว่าคนที่ได้ร่ำเรียนวิชาหลอมโอสถระดับสูงเช่นท่านนั้น การรักษาอาการจากพิษชนิดนี้ น่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ”

เย่หยวนแสร้งทำเป็นประหลาดใจ

  “ง่ายอย่างนั้นหรือ? เจ้าไม่รู้รึว่า..ในรัฐฉินแห่งนี้ พ่อของเจ้าอาจเป็นมีตำแหน่ง แต่หากออกนอกรัฐแล้ว พ่อของเจ้าคนนี้กลับไม่มีอะไรเลย และตำแหน่งเซียนโอสถของข้า ก็เป็นเพียงแค่ประตูไปสู่เส้นทางหลอมโอสถที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น  หากเปรียบรัฐฉินเป็นบ่อน้ำ ตัวข้าก็เป็นเพียงกบตัวหนึ่งในบ่อ  เพียงแต่ว่า ข้าอาจเป็นกบที่ตัวใหญ่กว่าตัวอื่นๆ  ยังมีอะไรอีกหลายอย่าง ที่ตัวข้าเองก็ไม่เข้าใจ”

  หลังจากพูดจาดูถูกตนเองเสร็จ เย่ฮานคล้ายดูโศกเศร้าเล็กน้อย และนั่นทำให้เย่หยวนรู้สึกแปลกใจ จากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เย่ฮานเป็นชายที่มีจิตวิญญาณของนักสู้และไม่เคยยอมแพ้ต่อสิ่งใดมาก่อน เขาไม่เคยเห็นท่านพ่อเผยความรู้สึกด้านนี้มาก่อน

เย่หยวนสัมผัสได้ว่าเย่ฮาน เผยสิ่งที่ซ่อนอยู่อีกด้านของเขาออกมา เพราะรู้ว่าลูกชายได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะรับรู้ได้แล้ว ตอนนี้เขาจึงรู้สึกเหมือนกับได้วางของหนักที่แบกไว้บนบ่าสองข้างลงเสียที ร่างกายทุกส่วนเบาอ่อนและผ่อนคลายขึ้นอย่างมาก

  เย่หยวนสะท้านทั่วขั้วหัวใจ ตลอดหลายปีมานี้ หัวใจของท่านพ่อต้องแบกรับแรงกดดันหลายอย่างเพื่อลูกชาย แต่ก็ไม่เคยแสดงออกให้เขาได้รับรู้

เป็นอีกครั้ง… ที่เย่หยวนได้หวนอาลัยถึงชาติที่แล้ว ระลึกนึกถึงท่านพ่อของเขาอย่างเฉินหยางซี ความรู้สึกหลายหลากมากมายพลันปะทุขึ้นมา  เขาไม่อาจทนต่อคำพูดเหยียดหยามตนเองของเย่ฮานได้อีกต่อไป เขาจึงพูดออกไปว่า

“ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าท่านต้องการจะถามอะไร จริงๆแล้วแม้แต่ตัวข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ระหว่างที่ข้าถูกพิษและใกล้ตาย ข้าก็ได้พบเซียนท่านหนึ่งในฝัน เขาผู้นั้นได้ถ่ายทอดทั้งวิชาการต่อสู้และวิชาการหลอมโอสถอันลึกล้ำให้กับข้า ทีแรก...ข้าก็คิดว่ามันเป็นเพียงความฝัน แต่เมื่อข้าฟื้นขึ้นมา ข้าก็พบว่า ตัวข้าสามารถจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในฝันได้ยังชัดเจนและแม่นยำ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าไม่เพียงแค่จดจำได้ แต่หากสามารถทำทุกอย่างได้จริง หากไม่ใช่เพราะเซียนท่านนั้น ท่านอาจไม่ได้พบข้าอีกครั้งก็เป็นได้”

  เย่หยวนไม่อาจบอกกับเย่ฮานได้ว่าร่างของบุตรชายเขานั้น แท้ที่จริงได้ถูกดวงวิญญาณอื่นครอบครองเสียแล้ว  เขาไม่มีหนทางอื่น จึงจำต้องสร้างเรื่องหลอกลวงที่ใกล้เคียงกับความจริงมากที่สุด

  เมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากเย่หยวน  เย่ฮานได้แต่ปีติยินดี เมื่อคิดถึงว่า เซียนได้ถ่ายทอดวิชาอันลึกล้ำเข้าไปแทนที่ความคิดเพ้อฝันในหัวของบุตรชายเขา นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับเขา  แต่การได้เซียนผู้นี้มาเป็นอาจารย์  เย่ฮานรู้สึกราวกับว่าหินก้อนใหญ่ที่ทับถมในหัวใจของเขามานานได้ถูกยกออกเสียที

  “ทะ-ท่านเซียนผู้นั้น บอกเจ้าหรือไม่ว่าเขาเป็นใคร? อย่างน้อย ข้าจะได้ขอบคุณเขาได้ ที่ได้ช่วยชีวิตลูกชายของข้าไว้”

  เย่หยวนส่ายหน้าและพูดว่า

“ท่านเซียนผู้นั้น ไม่ได้เปิดเผยชื่อของเขา และก็ไม่ได้บอกด้วยว่า เหตุใดจึงได้ช่วยชีวิตข้าไว้ เขาเพียงแต่ตั้งใจถ่ายทอดทักษะต่างๆให้กับข้า และเมื่อถึงเวลา เขาจะมาหาข้าอีกครั้ง”

  “ถ้าเป็นเช่นนั้น...หากเจ้าพบกับท่านผู้นั้นอีก เจ้าอย่าลืมกล่าวขอบคุณท่านแทนพ่อของเจ้าด้วยล่ะ”

เย่ฮานกล่าวขึ้นอย่างเสียดาย

  เย่หยวนคลี่ยิ้มอ่อนและบอกกับพ่อของเขาว่า

“แน่นอน… ท่านพ่อ ตอนนี้ข้ามีธุระบางอย่างต้องสะสาง ข้าขอตัวก่อน”

  ในเวลาต่อมา… เย่หยวน ก็มาที่หอโอสถอีกครั้ง และพูดกับผู้ดูแลหอว่า

“ประเดี๋ยวจะมีคนมาพบข้า ให้พาเขาไปพบข้าที่คฤหาสน์ทางด้านตะวันตกของเมือง และนี่เป็นรายการสมุนไพรที่ต้องการ เจ้าช่วยเตรียมให้ข้าตามนี้”

  ในตอนนี้หลิวอันรู้สึกพอใจกับตัวเองยิ่งนัก แต่ก็แค้นใจบ้างเล็กน้อย

เขารู้สึกพอใจที่เจ้าสวะเย่หยวนช่างโง่เขลาเสียจริง ที่มอบโอสถบำรุงหัวใจระดับสูงเช่นนั้นกับผู้อื่น  และโอสถบำรุงหัวใจนั่น ก็ดูเหมือนจะได้ผลดีทีเดียว เวลานี้… ไม่เพียงแค่อาการบาดเจ็บของเขาได้ทุเลาลงอย่างมาก แต่ดูเหมือนจุดประตูลมปราณทั่วร่างกายของเขากลับถูกทะลวงเปิดออกไปด้วย

เขาติดอยู่ที่อาณาจักรแก่นแท้แห่งปราณระดับแปดมานานหลายปี และดูเหมือนว่าจะไม่มีทางทะลวงไปถึงระดับเก้าได้เสียที หลิวอันเตรียมยื่นใบลาหยุดให้กับคฤหาสน์ดวงดาวชั่วคราว เพื่อทุ่มเทความพยายามทั้งหมดให้กับการบ่มเพาะพลัง หวังทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรแก่นแท้แห่งปราณระดับเก้า

ที่เขาแค้นใจ ก็เพราะแผนการระหว่างเขา กับคฤหาสน์ดวงดาว ที่ได้วางไว้นั้น ล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะเจ้านายน้อยนั่น

  เมื่อย้อนนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น  เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ว่าเหตุใดนายน้อยนั่น ถึงได้วินิจฉัยและสามารถรักษาพิษนั้นได้ เพราะแม้แต่ท่านผู้นำแห่งคฤหาสน์ดวงดาวอย่างหวังตงไห่ก็ยังไม่สามารถจัดการได้

  หวังตงไห่มีฝีมืออยู่ในระดับเดียวกันกับเย่ฮาน  แต่หวังตงไห่กลับมีความรอบรู้ในด้านการหลอมโอสถมากกว่า  แล้วเป็นไปได้อย่างไร ที่สวะไม่เอาถ่านอย่างลูกชายของเย่ฮานจะสามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์นั้นได้

  และเขาก็อยู่ในเหตุการณ์ตลอด  ตอนนี้หลิวอันยิ่งคิดยิ่งปวดหัว เขาจะต้องรายงานเรื่องนี้ ให้กับท่านผู้นำแห่งคฤหาสน์ดวงดาวรับทราบ

หลิวอันไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะเป็นผู้รักษาชายร่างกำยำนั้นได้ ต้องเป็นเย่ฮานที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้  เย่หยวนน่าจะเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่เย่ฮานใช้ให้เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหน้าแทนเขา

“เย่ฮาน ช่างเฉลียวฉลาดนัก ข้าคงต้องกลับไปเตือนท่านเจ้าสำนักให้ระวังตัว”

  หลิวอันเดินไปคิดไป และจู่ๆเขาก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ บริเวณใต้จมูกของเขาเปียกชื้นเล็กน้อย เมื่อเอามือแตะดู  เขารู้สึกตกใจมาก ที่พบว่ามือของเขาเต็มไปด้วยเลือดสดๆ

ภายในร้อนเกินไปอย่างนั้นหรือ?  ตลกสิ้นดี? พลังปราณของเขานั้นค่อนข้างแกร่งกล้า เป็นถึงอาณาจักรแก่นแท้แห่งปราณระดับแปด แล้วนี่เป็นไปได้อย่างไร...ที่เลือดกำเดาจะไหล เพียงเพราะภายในร้อนเกินไป?

แต่เมื่อเขานึกถึงใบหน้าประดับยิ้มกว้างของเย่หยวน  ตัวเขาสั่นเทาเกินกว่าจะควบคุมได้

ทันใดนั้น เขารีบส่ายหัว และสลัดความคิดทั้งหลายออกไป หลิวอันไม่ใช่พวกมือสมัครเล่น แม้เขาจะไม่ได้ระดับสูงเช่นเดียวกับเฉินเหมียว  แต่เขาก็สามารถแยกแยะได้ระหว่างโอสถจริงกับโอสถปลอม  ซึ่งโอสถเม็ดนั้นเป็นโอสถบำรุงหัวใจจริงๆ และที่สำคัญมันยังเป็นโอสถระดับสูงเสียด้วย

น่าจะเป็นเพราะความร้อนภายในมากเกินไป

หลิวอันพยายามปลอบใจตัวเองด้วยการคิดเช่นนั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบว่า ตนช่างอ่อนหัดเหลือเกิน

เพราะเวลานี้  เขามั่นใจแล้วว่า ตนถูกวางยาพิษอย่างแน่นอน

  หลิวอันเป็นคนเจนจัดมากประสบการณ์ กินอยู่บนความเป็นความตายตลอดช่วงเวลาของชีวิต  แต่เวลานี้เขากลับรู้สึกกลัวตายเป็นอย่างมาก ในตอนนี้ร่างทั้งร่างของเขาเย็นราวกับน้ำแข็ง  เขาไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังเหมือนในเวลานี้ แม้แต่ตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรที่ทรงพลังมหาศาล

 ...

  ผู้ดูแลหอโอสถตกใจ  เมื่อเห็นคนกำลังเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด  คนผู้นั้นดูไม่สนใจสิ่งใด นอกจากจับแขนเสื้อของเขา และถามหาแต่นายน้อยเย่

  ผู้ดูแลร้านผงะและไม่รู้จะทำอย่างไร  แต่แล้ว...ก็นึกขึ้นมาได้ว่า นายน้อยสั่งไว้ก่อนจากไปว่า ให้พาคนที่เลือดท่วมตัวนี้ไปพบเขา

หลังจากที่คนผู้นั้นเดินออกไป  ผู้ดูแลร้านงุนงงเล็กน้อย “คนผู้นี้ช่างแปลกนัก เจ็บขนาดนั้น ไม่ถามหาท่านอาจารย์เฉิน แต่กลับถามหานายน้อยเพื่ออะไรกัน? หรือว่า...นายน้อยจะรู้วิธีรักษา?”

  ทุกคนรวมทั้งหลิวอันต่างคิดว่า วันนี้ชายร่างกำยำนั้นคงจะปลอดภัยแล้ว และคงไม่มีธุระอะไรกับเย่หยวนอีก

.............................