ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

บทที่ 14 เคี่ยวน้ำเชื่อม

เมื่อได้ยินว่ามีคนแนะนำงานให้ ชาร์คจึงรีบเงยหน้าขึ้นมาทันที หนวดเคราข้างใบหูที่ขดงอทำให้เขามีท่าทางที่ดุร้ายเหมือนกับลิงตัวหนึ่งที่พึ่งตื่นนอน ทำให้ใจของฉินสือโอวเต้นขึ้นมา

ถ้าวันนี้ฉันรับสมัครชายคนนี้มาเป็นชาวประมงที่ฟาร์มปลา อย่างนั้นก็สามารถตัดงบค่าบอดี้การ์ดทิ้งไปได้ ฉินสือโอวอุทานขึ้นในใจ

“คุณเองเหรอ?” ชาร์คมองมาที่ฉินสือโอวอย่างสงสัย

ฉินสือโอวนั่งลงและพูดออกมา “นายก็รู้ว่าตอนนี้ฉันมารับช่วงทำกิจการฟาร์มปลาต้าฉินแล้ว และฟาร์มปลานั้นก็ได้เลิกทำมาแล้วเมื่อสิบปีก่อน ฉันอยากที่จะเปิดมันขึ้นมาใหม่และแน่นอนว่าฉันต้องการคนช่วยทำงาน”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขาแทนที่ชาร์คจะดีใจแต่เขากลับทำกลัดกลุ้ม ถอนหายใจและพูดออกมา “ฉิน คุณไม่รู้อะไร การทำฟาร์มปลาแห่งหนึ่งขึ้นมาใหม่มันไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น ในฐานะที่ท่านฉินเคยมีบุญคุณกับผม ผมจำเป็นต้องพูดตามความจริง ตอนนี้เกรงว่าฟาร์มปลาของคุณจะไม่มีปลาเหลืออยู่แล้ว”

จากคำพูดนี้ทำให้ฉินสือโอวสามารถดูออกว่าชาร์คเป็นคนที่ใช้ได้ เขาไม่ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมกับฉินสือโอวเพื่อที่จะให้ตัวเองได้งาน นอกจากนั้นเขายังเป็นคนมีความสามารถอีกด้วย ฉินสือโอวอาศัยการหลอมรวมจิตใจไปกับทะเลถึงได้รู้เรื่องการแห้งขอดของทรัพยากรในฟาร์มปลา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าชาร์คไม่ได้มีการหลอมรวมจิตใจไปกับทะเล

ฉินสือโอวจึงพูดออกมา “ไม่เป็นไรเพื่อน ฉันต้องทำให้ฟาร์มปลาของปู่ฉันฟื้นคืนกลับมาอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน ไม่มีเรือก็ซื้อเรือ ไม่มีคนงานก็รับสมัครงาน ไม่มีปลาฉันก็จะไปซื้อลูกปลามาเพาะเลี้ยง”

เขามีการหลอมรวมจิตใจไปกับทะเลเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญ ถ้าหากแม้แต่ฟาร์มปลาหนึ่งแห่งก็ทำขึ้นมาไม่ได้ สู้ให้เขากระโดดลงทะเลฆ่าตัวตายยังมีศักดิ์ศรีกว่า

“แต่งานนี้ต้องใช้เงินเยอะมาก” ชาร์คพูดอย่างตรงไปตรงมา

ฉินสือโอวตบโต๊ะและพูดออกมาอย่างองอาจ “ฉันไม่ขาดเหลือเรื่องเงิน!” เขาดีดนิ้วหนึ่งที “เฮ้เพื่อน เงินค่าเหล้าในวันนี้ของนาย ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง นายอยากดื่มอะไรก็สั่งอันนั้น!”

เมื่อเห็นฉินสือโอวมีความมั่นใจเช่นนี้สายตาของชาร์คจึงเป็นประกาย บาร์เทนเดอร์ยกเบียร์ดำมาหนึ่งถังและพูดออกมา “ชาร์ค โชคเข้าข้างนายแล้ว”

ฉินสือโอวเอ่ยถามชาร์คชายผู้มีรูปร่างสูงใหญ่ “นี่คือเบียร์ที่นายชอบดื่มที่สุดเหรอ?”

ชาร์คหัวเราะและพูดขึ้น “นี่เป็นเบียร์ที่เหมาะสมที่สุด”

ฉินสือโอวตบโต๊ะอีกครั้งและพูดกับบาร์เทนเดอร์ “เอาเบียร์ที่ดีที่สุดมาเลย”

เขาไม่ใช่คนที่มีเงินแล้วจะใช้อย่างไรก็ได้และไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะเป็นคนที่เสียเงินไปเปล่าๆ แต่เป็นเพราะว่าตอนนี้เขาอยู่ในช่วงริเริ่มกิจการ ชาร์คคือคนที่เขารับสมัครเข้ามาเป็นผู้ช่วยคนแรก เขาจึงจำเป็นต้องทำให้พนักงานที่กล้าหาญคนนี้มีความรู้สึกที่มั่นคง ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องแสดงกำลังทางด้านทุนทรัพย์ของตัวเองออกมาให้เห็น

ข้อบังคับของการทำธุรกิจภายในประเทศคือการไม่คุยเรื่องเงินบนโต๊ะเหล้าแต่ฉินสือโอวและชาร์คกลับตรงกันข้าม ในขณะที่ดื่มเหล้ากัน ทั้งสองคนได้ตกลงเรื่องเงินเดือนของชาร์คเรียบร้อยแล้ว โดยหนึ่งสัปดาห์จะจ่าย 2000 ดอลลาร์แคนาดาและโบนัสปลายปีเป็นไปตามผลประกอบการของฟาร์มปลา

ฉินสือโอวให้เงินเดือนเท่านี้ถือว่าไม่น้อย เอามารวมกันเดือนหนึ่งก็จะได้เงินเดือนแปดพันดอลลาร์แคนาดาซึ่งพอๆกับเงินเดือนของพนักงานเก็บขยะ ประเทศแคนาดานั้นแปลกมาก เงินเดือนของพนักงานเก็บขยะต่างก็ค่อนข้างสูงกันทั้งนั้น เพราะว่าพวกเขาและบรรณารักษ์ ต่างเป็นพนักงานที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลเมืองเช่นเดียวกัน ซึ่งเรียกว่า ‘สมาคมคนงานของเทศบาล’ ซึ่งจะมีเงินเดือนและสวัสดิการมากมาย ค่าจ้างรายชั่วโมงของพนักงานเก็บขยะอาวุโสหนึ่งคนอยู่ที่ 30 ดอลลาร์แคนาดา ค่าจ้างรายปีเกือบ120000 ดอลลาร์แคนาดา

และพนักงานออฟฟิศธรรมดาของเมืองที่เป็นอันดับหนึ่งของแคนาดา เงินเดือนจะอยู่ที่ 3000 ดอลลาร์แคนาดาถึง 4000ดอลลาร์แคนาดา ส่วนผู้ที่ปฏิบัติงานในส่วนของการใช้แรงงานเงินเดือนก็จะไล่เลี่ยกัน แต่งานประเภทช่าง อาทิเช่น ชาวประมง กรรมกรในเมืองแร่เป็นต้น เพราะว่าการทำงานมีความอันตรายเงินเดือนและสวัสดิการจึงสูงขึ้นมาเล็กน้อย

ตอนนี้เศรษฐกิจของเมืองแฟร์เวลตกต่ำ ปกติแล้วฟาร์มปลาจะว่าจ้างชาวประมงด้วยเงินเดือนมากที่สุดอยู่ที่ห้าพันดอลลาร์แคนาดา ที่ฉินสือโอวให้เยอะขนาดนี้ก็เพื่อใช้ความจริงใจของตัวเอง

เมื่อคุยเรื่องเงินเดือนเสร็จแล้ว ฉินสือโอวก็ได้ฟังชาร์คพูดเกี่ยวกับเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆในการบริหารจัดการฟาร์มปลา ชาร์คดื่มเบียร์อึกใหญ่ไปพลางและพูดอธิบายอย่างลำพองดีใจไปพลาง แต่ฉินสือโอวกลับฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร เขาดื่มเหล้าคออ่อนจึงล้มลงนอนบนโต๊ะอย่างไร้เรี่ยวแรง

เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฉินสือโอวพบว่าตัวเขาเองได้นอนอยู่บนเตียงที่บ้านของตัวเอง เมาค้างทั้งคืน แต่เขากลับรู้สึกสดชื่น นี่อาจจะเกี่ยวข้องกับการหลอมหลวมจิตใจไปกับทะเลซึ่งสิ่งนี้ได้ปรับปรุงสุขภาพของเขาให้ดีขึ้นตลอดมา

เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าออกแล้ว ฉินสือโอวจึงเดินไปเปิดหน้าต่าง สุดท้ายเขาเห็นเงาของคนเงาหนึ่งที่กำยำแข็งแรงเกินจริงอยู่ที่ใต้ต้นเมเปิลข้างวิลล่า ในปากคาบฝิ่นหนึ่งมวนดูดพ่นควันอย่างสบายใจ ซึ่งคนนั้นก็เคือชาร์ค ซาร์ดเซ็น คนที่เขารับสมัครเข้ามาทำงาน

“เฮ้เพื่อน มาแต่เช้าเลย” ฉินซือโอวยิ้มและพูดขึ้น “ต้องเป็นนายแน่นอนที่มาส่งฉันเมื่อคืน”

ชาร์คยิ้มออกมาและพูดขึ้น “คุณเออร์บักเป็นคนบอกที่อยู่ของคุณกับผม ไม่งั้นคุณก็คงต้องนอนที่เรือประมงบ้านของผมแล้วล่ะ”

ฉินสือโอวต่อสายโทรศัพท์หาเออร์บัก จากนั้นเออร์บักก็รีบเอาสัญญามาให้ เมื่อชาร์คดูแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร หลังจากที่เซ็นชื่อแล้วก็สามารถเริ่มเข้าทำงานที่ฟาร์มปลาได้เลย

“เงินเดือนแปดพันดอลลาร์แคนาดา เยี่ยมไปเลย เรื่องนี้คงทำให้คนในหมู่บ้านตกตะลึงกันมาก” ในขณะที่เซ็นสัญญาชาร์คได้บ่นพึมพำอย่างตื่นเต้นตลอดเวลา ในภาวะเศรษฐกิจทั่วไปที่ตกต่ำของนิวฟันด์แลนด์ เงินเดือนและสวัสดิการของเขาต้องถือว่าเป็นเงินเดือนที่สูงอย่างแน่นอน

สิ่งที่ทำให้ชาร์คดีใจอย่างแท้จริงก็คือเงินเดือนของเขาสามารถแก้ไขเรื่องที่กำลังจวนตัวของเขาได้ ก่อนหน้านี้เขาจนตรอกจนถึงที่สุด ค่าเทอม ค่ารักษาพยาบาลของลูกสาวรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในบ้าน เงินค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้กดดันเขาจนแทบจะหายใจไม่ทัน

เมื่อเซ็นสัญญาเสร็จแล้ว ชาร์คได้เอาฝ่ามือที่ใหญ่ของเขาประกบกันแล้วถูไปมาพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น “บอส ตอนนี้พวกเราจะทำยังไง?”

ฉินสือโอวหัวเราะและพูดออกมา “ไม่ต้องรีบหรอกเพื่อน นายก็รู้ว่าฟาร์มปลาของเราเท่ากับเริ่มสร้างใหม่ตั้งแต่แรก ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้”

ในความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรเลยมากกว่า สิ่งของที่มีมูลค่าสักหน่อยที่สามารถใช้งานในฟาร์มปลาได้ อาทิเช่น เรือประมง แหจับปลา ที่เก็บน้ำมันเป็นต้น ทั้งหมดนี้ได้ถูกกรมสรรพากรและธนาคารยึดไปหมดแล้ว

“ฉันยังมีเงินอีกก้อนหนึ่งที่ยังไม่เข้าบัญชี หลังจากเงินก้อนนั้นเข้าบัญชีมาแล้ว พวกเราค่อยเริ่มทำงานกัน สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ก็คือ เตรียมงานในช่วงแรก ซื้อสิ่งของเล็กน้อยที่จำเป็นและทำความสะอาดฟาร์มปลา” ฉันสือโอวเอ่ยขึ้น

ชาร์คจึงพูดออกมา “ไม่มีปัญหา เดี๋ยวผมจะไปคิดรวบรวมสิ่งของที่จำเป็น ส่วนเรื่องทำความสะอาดฟาร์มปลา บอส คุณไม่ต้องลงมือทำ ดูผมอย่างเดียวก็พอ!”

ในความเป็นจริงแล้วฉินสือโอวก็ไม่อยากลงมือทำ เพราะฟาร์มปลานั้นมีขนาดใหญ่และยังมีห้องต่างๆค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก ห้องเก็บสต๊อกสินค้า ยุ้งเก็บของ คลังน้ำมัน คลังน้ำเป็นต้น ซึ่งมีมากมายประมาณยี่สิบสามสิบห้อง บางห้องเขายังไม่รู้เลยว่าห้องเหล่านั้นไว้ใช้ทำอะไร

แต่ว่าชาร์คไม่ได้ให้ฉินสือโอวอยู่สบายๆแบบน่าเบื่อ เขาได้พูดออกมา “บอส ถ้าคุณไม่มีอะไรทำก็สามารถเคี่ยวน้ำเชื่อมเมเปิลได้นะ เมื่อกี้ผมเห็นแล้วว่าต้นเมเปิลสองต้นนี้มีรากลึก ต้องทำน้ำเชื่อมเมเปิลได้เยอะแน่นอน”

“เคี่ยวน้ำเชื่อมเมเปิลเหรอ? ฉินสือโอวมีความสนใจขึ้นมาเล็กน้อย

เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าแคนาดาเป็นประเทศที่มีใบเมเปิลเยอะมาก ผู้คนมีความรักและความผูกพันกับใบเมเปิลอย่างลึกซึ้งและยังใช้ใบเมเปิลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ จากสิ่งที่ยิ่งใหญ่คือการเอาใบเมเปิลขึ้นเป็นสัญลักษณ์ของธงประจำชาติ ตราประจำชาติและดอกไม้ประจำชาติ จนมาถึงสิ่งที่เล็กที่สุดคือการที่ประชาชนเอาลวดลายของใบเมเปิลมาใช้กับของใช้ในชีวิตประจำวันซึ่งสามารถพบเห็นได้ทุกที่ สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงใจของทุกคน

คนแคนาดาชอบต้นเมเปิลมาก เพราะไม่เพียงแค่สามารถชื่นชมคุณค่าของมันแต่ยังใช้มันมาทำเป็นน้ำเชื่อมเพื่อให้ผู้คนได้ใช้กันอย่างพึงพอใจ

ฉินสือโอวรู้เรื่องเหล่านี้และยังรู้ว่าแคนาดามีเทศกาลน้ำเชื่อมเมเปิลด้วย แต่เขาไม่รู้ว่าของสิ่งนี้ทำออกมาได้อย่างไร

ชาร์คบอกกับเขาว่าจริงๆแล้วการทำน้ำเชื่อมเมเปิลนั้นยุ่งยากมากแต่เก็บน้ำเชื่อมนั้นง่ายมาก ต้นไม้ใหญ่สองต้นที่อยู่สองข้างของวิลล่าล้วนเป็นต้นเมเปิล ปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่ในน้ำเลี้ยงสามารถมีได้ถึง 7% ถึง 10% เพียงแค่เก็บน้ำเลี้ยงมารวมกันจากนั้นก็เคี่ยวอย่างง่ายๆก็สามารถกลายเป็นน้ำเชื่อมได้แล้ว

“ปริมาณความร้อนของน้ำเชื่อมเมเปิลต่ำกว่า น้ำตาลอ้อย น้ำตาลฟรักโทสหรือน้ำตาลข้าวโพดทั้งหมด แต่มีแคลเซียม แมกนีเซียมและค่าความเป็นกรดที่ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารสูงกว่าน้ำตาลชนิดอื่นๆ มาก ในน้ำเชื่อมมีปริมาณแคลเซียมสูงถึง10% ซึ่งเทียบเท่ากับนมวัว ดังนั้นบอสต้องกินน้ำเชื่อมเมเปิลเยอะๆ มันมีประโยชน์มาก” ชาร์คพูดอธิบาย

“ถ้าอย่างนั้นก็รีบสอนฉันเถอะเพื่อน พูดจริงๆนะ ฉันร้อนใจจนอดทนรอไม่ไหวแล้ว” ฉินสือโอวยิ้มและพูดขึ้น

การเก็บรวบรวมน้ำเลี้ยง พูดแล้วก็ดูไม่ยาก ชาร์คสอนให้ฉินสือโอวเจาะรูบนต้นเมเปิล โดยสอดหัวเสียบที่เป็นโลหะเข้าไปและต่อกับสายท่อพลาสติก สายท่อพลาสติกจะเชื่อมเข้ากับกระบอกที่ใช้เก็บน้ำเลี้ยง จากนั้นของเหลวก็จะไหลเข้ามา

ชาร์คเจาะรูไปพลางและพูดไปพลาง “ต้นเมเปิลต้องมีอายุห้าสิบปีขึ้นไปถึงจะเก็บน้ำเลี้ยงได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะทำให้ต้นไม้เติบโตได้ไม่ดี อีกอย่างหนึ่งที่บอสต้องระวังคือ เวลาเจาะรูต้องไม่ลึกเกินนิ้วชี้ของคุณ เส้นผ่านศูนย์กลางต้องน้อยกว่านิ้วชี้ และอีกอย่างต้องเจาะเอียงขึ้นไปนิดหน่อย แต่ละรูจะเก็บน้ำเลี้ยงเป็นเวลาสิบนาทีก็จะหยุดลง”

ถึงแม้ว่าฉินสือโอวจะเริ่มให้ความสนใจกับกิจกรรมนี้ แต่ว่าเมื่อเห็นต้นเมเปิลถูกหัวเสียบที่เป็นโลหะเสียบลงไปทีละอันๆ เขาก็รู้สึกว่ามีความโหดเหี้ยมเล็กน้อยจึงอดนึกถึงกระบวนการเก็บน้ำดีของหมีที่ยังชีวิตที่อยู่ในข่าวไม่ได้

………………………………………