บทที่ 22 เทศกาลที่หนึ่ง
งานประมูลจบลงแล้ว ฉินสือโอวไม่มีอารมณ์อยู่ที่ออตตาวาต่อ จึงตรงกลับบ้านทันที
แม้เบลคจะชวนให้เขาอยู่เที่ยวเมืองอีกสักพักเพื่อแนะนำเพื่อนบางคนให้รู้จัก แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ และวางแผนจะกลับเกาะแฟร์เวลประเด็นคือยังไงนั่นก็เป็นอาณาเขตของเขา
"ก็ได้ ถ้าคุณยืนกรานอย่างนั้น เพื่อน ผมคงได้แต่อวยพรให้คุณเดินทางโดยสวัสดิภาพ" เบลคกล่าวด้วยความเสียดาย เขากับฉินสือโอวอายุไล่เลี่ยกัน จึงค่อนข้างคุยกันถูกคอ
ฉินสือโอวยิ้มตอบ "ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะ เพื่อน ว่างมาเมืองแฟร์เวลเมื่อไร เดี๋ยวผมเลี้ยงเหล้าเย็นๆให้"
"งั้นอยากให้ผมแนะนำหนุ่มน้อยสักคนให้ด้วยไหม?" เบลคเอ่ยหยอกๆ "ฉิน พูดจริงๆนะ เย็นวันนั้นไม่คิดว่าคุณจะไล่แม่นางมาการิต้าออกไปเลย ผมชักกลัวล่ะ หรือว่าคุณจะชอบผู้ชาย?"
ฉินสือโอวหลุดหัวเราะ "ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง งั้นคุณคงมองผิดไปแล้วล่ะ"
เล่นมุกกันเสร็จ เบลคก็ส่งฉินสือโอวขึ้นเครื่องบินไป
เมื่อฉินสือโอวกลับมาเมืองแฟร์เวล รถคาดิลแลควันที่เขาซื้อมาก่อนหน้าก็มาถึงเรียบร้อย โดยร้านจำหน่ายคาดิลแลคส่งมันมาให้ถึงในเมือง พร้อมใบขับขี่ เหลือแค่มีใครสักคนขับพามันไปผจญโลกเท่านั้น
หลังรถคาดิลแลควันคันนี้มายังเมืองแฟร์เวล ก็กลายเป็นที่ฮือฮาพอสมควร
เศรษฐกิจของเมืองแฟร์เวลค่อนข้างซบเซา โดยเฉพาะฟาร์มปลาไม่กี่แห่งบนเกาะที่ทยอยปิดตัวลง ไม่มีปลาให้จับ คนมากมายจึงว่างงานอยู่บ้านกัน
พอเห็นรถซูเปอร์เอสยูวีราคาแพง พวกวัยรุ่นที่คลั่งไคล้กีฬาต่างก็คันไม้คันมือ อดใจเข้าไปถ่ายรูปรอบๆรถไม่ได้
ตอนฉินสือโอวมาที่รถ มีวัยรุ่นสองคนกำลังมองดูตัวรถอยู่ เขาส่งเสียงทักทาย พวกวัยรุ่นต่างมีท่าทีอึกอัก รีบก้มหัวขอตัวลา
ปรากฏฉินสือโอวกลับโยนกุญแจรถส่งให้ทั้งสองคน กล่าวยิ้มๆ "ถ้าชอบ งั้นไปดริฟต์ดูสักรอบสิพวก ถังน้ำมันฉันน่าจะพอให้พวกนายได้ใช้เต็มที่อยู่"
คนผู้หนึ่งลอบเดินเข้ามาเงียบๆ "ฉิน นายนี่เป็นคนดีเหลือเกินนะ"
ฉินสือโอวหันไปมอง ที่แท้คือนายกเทศมนตรี วิลเลียม แฮมเล็ต ชายคนนี้ยังคงความเป็นสุภาพบุรุษอังกฤษยุคเก่า ชุดสูทสีขาว เสื้อนอกหนัง ผูกเนกไท ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดมาจากหนังอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 19
"ท่านนายก สวัสดีครับ" ฉินสือโอวจับมือเขา
แฮมเล็ตมองรถพลางยิ้มกริ่ม "ผมว่า ราคารถคาดิลแลควันคันนี้คงจะไม่น้อยเลยสินะ"
ฉินสือโอวเข้าใจความหมายแฝงในประโยคนั้น จึงตอบว่า "ผมเข้าใจครับ ผมเข้าใจ ท่านนายก เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะให้คุณเออร์บักพาไปตรวจสอบภาษีกับเงินเบิกเกินบัญชีของมรดกฟาร์มปลาเองครับ"
แฮมเล็ตพยักหน้า "ได้คุยกับคนฉลาดนี่สะดวกดีจริงๆ ดีแล้ว นายเที่ยวเล่นตามสบายเถอะ ฉันจะเดินเล่นในเมืองเสียหน่อย"
"สนใจมานั่งรถผมรับลมเล่นไหมครับ" ฉินสือโอวเอ่ยชวน
"นายมีใบขับขี่ไหมนั่น?" แฮมเล็ตแกล้งถาม
เขาเพียงพูดไปอย่างงั้น แคนาดาเหมือนกับอเมริกาตรงที่พวกเด็กๆสามารถทำใบขับขี่ได้ทันทีที่มีบัตรประชาชน
ทว่า ฉินสือโอวอาจไม่มีใบขับขี่ของแคนาดาก็เป็นได้!
"ใครเขาจะตรวจกันครับ?" เขาไม่สนใจ
ช่วงบ่าย เออร์บักมาหาเขาเพื่อคุยเรื่องภาษี ของรูปปั้นและภาพวาดจากการประมูลที่ต้องจ่าย ส่วนภาษีมรดกนั้นไม่จำเป็นต้องใส่ใจก็ได้
ความหมายของเออร์บักคือ ใช้เงินที่ได้จากการประมูลศิลปะมาจ่ายหนี้ของฟาร์มปลาก่อน นอกจากนี้ เขายังคิดหาวิธียื่นคำร้องขอผ่อนจ่ายภาษี หากเป็นไปตามนี้จะสามารถใช้ใบกำกับภาษีซื้ออุปกรณ์เรือของฟาร์มปลา และนำมาจ่ายภาษีส่วนหนึ่งได้
ฉินสือโอวไม่ค่อยเข้าใจนัก เออร์บักเองก็ไม่ได้เข้าใจมาก แต่ในฐานะอดีตทนายที่มีความรู้มากมาย เขาเสนอว่าขั้นแรกคงต้องเชิญนักบัญชีเฉพาะทางมาให้ความช่วยเหลืออีกที
เออร์บักออกไปหาอะไรทานตามปกติ ก่อนไปเขาถามว่า "มะรืนนี้จะมีเทศกาลแรกนับตั้งแต่นายได้มาที่เมืองแฟร์เวล อยากเข้าร่วมด้วยไหม?"
"เทศกาลอะไรครับ?"
"เทศกาลอีสเตอร์ไง เป็นวันสำคัญเลยนะ"
อีสเตอร์ย่อมถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญของตะวันตก วันอาทิตย์แรกหลังพระจันทร์เต็มดวงในช่วงวิษุวัต[footnoteRef:1]ของทุกปี [1: ช่วงที่เวลากลางวันกับกลางคืนเท่ากัน]
ชาวคริสต์เชื่อว่าเทศกาลอีสเตอร์เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่และความหวัง เพื่อระลึกถึงพระเยซูที่เสียชีวิตจากการถูกตรึงบนไม้กางเขนแล้วคืนชีพกลับมาในวันที่สาม
ฉินสือโอวยังไม่เคยเข้าร่วมเทศกาลนี้มาก่อน เทศกาลต่างชาติที่เขารู้จักมีแค่คริสต์มาส สมัยเขายังเป็นคนหนุ่มหัวรุนแรง เขารังเกียจเทศกาลจำพวกนี้ในประเทศและคนรุ่นเดียวกันที่นิยมเลียนแบบต่างชาติมาก
ปัจจุบันเมื่อเขาย้ายมายังเมืองแฟร์เวล แล้วยังรับช่วงต่อฟาร์มปลาต้าฉิน และได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในเมืองมากมาย ดังนั้นจึงควรเข้ากับวิถีชีวิตของพวกเขาให้ได้ แน่นอนว่า การร่วมฉลองเทศกาลกับชาวเมืองนับเป็นโอกาสที่ดี
เช้าวันที่สอง ฉินสือโอวขับรถคันใหม่เข้าเมืองอย่างฮึกเหิม
เออร์บักพาเขามากินอาหารเช้าด้วยกัน ฉินสือโอวพูดขึ้น "เมื่อคืนผมหาข้อมูลมา ปกติเทศกาลอีสเตอร์จะชอบมีกิจกรรมเฉลิมฉลองกัน"
"ใช่ พรุ่งนี้ฉันพานายไปร่วมงานได้ ทุกปีในเมืองจะมีการจัดเตรียมอาหารเย็นอย่างยิ่งใหญ่และการแสดงดอกไม้ไฟ"
"จะว่าไป ค่ากิจกรรมพวกนี้ได้มาจากไหนกันครับ?"
"ทางรัฐบาลออกให้ครึ่งหนึ่ง แล้วคนในเมืองช่วยกันบริจาคอีกครึ่ง"
ฉินสือโอวนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนเอ่ยว่า "งั้น ผมจะรับผิดชอบจ่ายส่วนเงินค่าบริจาคอีกครึ่งให้คนในเมืองเอง ประมาณเท่าไรครับ?"
เขาทำแบบนี้เพื่อเพิ่มชื่อเสียงให้ตัวเอง ตามที่เขาคำนวณและหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในเทศกาลอีสเตอร์ของเมืองแฟร์เวลใช้ไม่ถึงห้าแสนด้วยซ้ำ เขาช่วยออกอย่างมากก็ประมาณ 250,000 การใช้เงินสองแสนห้าเพื่อสร้างความประทับใจให้ชาวเมืองได้ ก็ถือว่าคุ้มค่า
ตั้งแต่มีความสามารถของจิตสำนึกแห่งโพไซดอน ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าเงินทองไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป สมบัติในท้องทะเลมีค่ากว่าเยอะ เหมือนรูปปั้นของเพอร์ซิอัสกับเมดูซาที่เป็นของโบราณสาบสูญ แค่ค้นหาอย่างละเอียด เขาก็เจอแล้ว
เขาคิดเผื่อไว้เรียบร้อย แม้จะหาไม่ได้ อย่างมากเขาก็สามารถใช้แหดักปลาจับตะพาบน้ำ ซึ่งน่าจะทำเงินได้ไม่น้อยเช่นกัน
ดังนั้น ตอนนี้สำหรับเขาเงินจึงไม่ใช่ประเด็น
ได้ฟังเขาพูดเช่นนั้น เออร์บักพลันหยุดกลืนแฮมเบอร์เกอร์มองเขาอย่างตกตะลึง แล้วหลุดหัวเราะออกมา "ไม่จำเป็น ฉิน ไม่จำเป็นหรอก"
ฉินสือโอวพูดต่อ "ผมจริงจังนะ เพื่อน ผมรู้ แต่ผมเอาจริง"
เออร์บักตอบยิ้มๆ "ฉันซาบซึ้งกับไอเดียของนายนะ พ่อหนุ่ม นายกับฉินคนก่อนนี่ช่างมีความใจกว้างและใจดีเหมือนกันเหลือเกิน แต่อย่างน้อยนายไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเทศกาลอีสเตอร์หรอก ที่จริงตอนนี้ของที่จำเป็นต้องซื้อก็มีครบแล้ว คอยเทศกาลหน้าถ้ามีให้บริจาคอีก นายค่อยจัดการก็ได้"
ฉินสือโอวกำลังครุ่นคิดว่าจะตอบกลับอย่างไร เออร์บักก็ชิงพูดขึ้นก่อน "หรือไม่ นายซื้อของขวัญมาแทนก็ได้ ดีไหมล่ะ?"
เทศกาลอีสเตอร์เหมือนกับคริสต์มาส ตรงการส่งของขวัญ เพียงแต่ของขวัญอีสเตอร์ต้องเกี่ยวกับฤดูใบไม้ผลิและการเกิดใหม่ เช่น ไข่ ลูกเจี๊ยบ กระต่ายน้อย ดอกไม้สด โดยเฉพาะดอกลิลลี่ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำฤดูนี้
ซึ่งมีส่วนคล้ายเทศกาลคริสต์มาส ตอนเช้าวันอีสเตอร์เด็กๆจะพบกับตะกร้าที่เต็มไปด้วยไข่ช็อกโกแลต กระต่ายอีสเตอร์ ลูกเจี๊ยบปุกปุย และของเล่นเด็กต่างๆที่หน้าเตียง
แน่นอนว่า มีของขวัญให้พวกผู้ใหญ่ไม่ต่างกัน โดยทุกปีทางทำเนียบขาวของอเมริกาจะจัดกิจกรรมกลิ้งไข่เพื่อมอบของขวัญให้
ฉินสือโอวเดินออกจากร้านแฮมเบอร์เกอร์ เขามองถนนว่างเปล่าอันเงียบเหงา ในใจพลันบังเกิดความคิดบางอย่างขึ้น
……………………………………….