ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

บทที่ 25 ประสบการณ์ของชาวประมง

เสียงเครื่องยนต์ดัง ‘ครืนๆ’ มาจากฟาร์มปลา ชาร์คที่ยืนอยู่ตรงท้ายเรือกำลังเตรียมจะหว่านแห ฉินสือโอวหันกลับไปมองแวบหนึ่ง แล้วเดินกลับไปที่หัวเรือ เรื่องอะไรที่เขาจะต้องไปทำงานด้วยตัวเองล่ะ

เรือหาปลาถูกสายลมและคลื่นพัดจนค่อยๆออกห่างจากท่าเรือ ภาพเกาะแฟร์เวลที่มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆท้องทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตานี้ก็เสมือนกำลังกางปีกเพื่อบอกลาจากฟาร์มปลา

ลมทะเลที่พัดมาโดนหน้า ให้ความรู้สึกทั้งชุ่มชื้นและสดชื่น ฉินสือโอวสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ตะโกนว่า “สักวันข้าจักล่องเรือข้ามโพ้นน้ำ กางใบเรือไปให้สุดโพ้นทะเล ข้าคือฉินสือโอว ข้าจักขอปฏิญาณต่อตนเอง!“

ชาร์คฟังภาษาจีนไม่ออก เขาเอียงคอมองฉินสือโอวอย่างสงสัย พลันรู้สึกว่าบอสของเขาคนนี้บางครั้งก็ทำตัวงี่เง่าดี

ด้วยกังวลว่าฉินสือโอวจะพลัดตกน้ำ ชาร์คจึงพูดว่า “บอส ในห้องบังคับการเรือมีชุดว่ายน้ำอยู่ คุณรีบไปเปลี่ยนเถอะครับ”

ฉินสือโอวกลับรู้สึกน่าขัน ถึงแม้เขาในตอนนี้จะไม่ใช่เทพเจ้าแห่งท้องทะเล แต่เขากลับรู้สึกเป็นตัวเองมากกว่าอยู่บนบกเสียอีก จำเป็นต้องใช้ชุดว่ายน้ำด้วยหรือ?

แต่ชาร์คกลับเป็นห่วงกลัวเขาจะเป็นอะไรขึ้นมา ดูฉินสือโอวก็ช่วยงานอะไรเขาไม่ได้ จึงตัดสินใจหาอะไรมาให้ฉินสือโอวเล่น ฉินสือโอวที่มักจะยืนอยู่บนหัวเรือพร้อมชะเง้อมองดูผืนน้ำตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกเป็นกังวล

พอได้ยินว่าบนเรือสามารถเล่นเกมจับปลาได้ ฉินสือโอวก็ดีใจขึ้นมา แต่สุดท้ายชาร์คกลับมาพร้อมอุปกรณ์ชุดหนึ่ง ว่ากันตามจริงก็เป็นเพียงเชือกหลายๆเส้นที่มัดรวมกัน มีปมมัดที่ปลายเชือกแล้วคล้องกับปล้องไม้ไผ่ขนาดเล็กใหญ่

“นี่คืออะไร หนูน้ำเต้า[footnoteRef:1]เหรอ?” ฉินสือโอวถามด้วยท่าทีจังงัง [1: calabash brothers หรือ Hulu Brothers เป็นซีรีส์แอนิเมชั่นจีนที่ผลิตโดย Shanghai Animation Film Studio เป็นการ์ตูนชุดยาวที่เด็กๆที่เกิดในยุค 1970-80 แทบทุกคนรู้จักดี การ์ตูนเรื่องนี้สอนให้เด็กๆรู้จักถึงความยุติธรรม และอยุติธรรม ซาบซึ้งในมิตรภาพและเรียนรู้ถึงความสามัคคี นอกจากนี้ยังสนุกสนานไปกับความเฉลียวฉลาดของกุมารน้ำเต้าทั้งเจ็ด]

ชาร์คฉีกยิ้มพูดพร้อมหัวเราะ “ไม่ครับ นี่คือ’ที่ดักปลาเลโอ ตอลสตอย[footnoteRef:2]’ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้จับปลาไหลโดยเฉพาะ อีกสักพักเดี๋ยวผมหาทำเลดีๆ ลดความเร็วเรือลง เราจะไปจับปลาไหลกันนะครับ” [2: Leo Tolstoy หรือ เลโอ ตอลสตอย คือนักเขียนชาวรัสเซียในศตวรรษที่ 19 ที่ชื่นชอบคณิตศาสตร์ มีปัญหาคณิตศาสตร์ข้อหนึ่งที่เลโอ ตอลสตอยชื่นชอบมาก จึงได้ปรากฏในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้เรียนกัน ปัญหามีอยู่ว่ามีถังไม้ใบหนึ่ง บนถังมีท่อน้ำอยู่สองท่อ หนึ่งในนั้นมีท่ออันหนึ่งที่หากเปิดท่อไว้ สามารถเติมน้ำเต็มถังได้ภายใน 24 นาที แต่อีกท่อหนึ่ง จะเติมน้ำเต็มได้ใน 15 นาที หากใต้ถังไม้มีรู น้ำเต็มถัง ใช้เวลา2ชั่วโมง น้ำถึงจะไหลออกจากรูจนหมดถัง หากเปิดท่อทั้งสองไว้ และมีน้ำไหลผ่านรูก้นถังด้วย ต้องใช้เวลาเท่าไรน้ำถึงจะเต็มถัง]

จากที่ชาร์คอธิบายให้ฉินสือโอวฟัง ปลาไหลเป็นปลาที่เก่าแก่ชนิดหนึ่ง มีการใช้ชีวิตที่แปลกมาก พวกมันจะเติบโตตามริมแม่น้ำ พอโตเต็มตัวแล้วถึงจะว่ายกลับไปยังพื้นที่วางไข่ในมหาสมุทรเพื่อวางไข่ ตลอดชีวิตจะวางไข่เพียงครั้งเดียว หลังวางไข่เสร็จก็จะตายไป

ปลาไหลบนโลกใบนี้ โดยมากจะชอบอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อน มีเพียงปลาไหลพันธุ์ปลาตูหนายุโรป[footnoteRef:3]และปลาไหลอเมริกัน[footnoteRef:4]เท่านั้นที่สามารถอาศัยอยู่ได้ในน่านน้ำเขตหนาวเย็น [3: ปลาตูหนายุโรป หรือ ปลาไหลยุโรป หรือ European eel เป็นปลาน้ำจืดกระดูกแข็งชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลาตูหนา (Anguillidae) มีรูปร่างเหมือนปลาตูหนาชนิดอื่น ๆ ทั่วไป โดยที่ปลาตูหนายุโรปมีข้อกระดูกสันหลังประมาณ 114 ข้อ เมื่อโตเต็มที่แล้วมีความยาวได้มากกว่า 1 เมตร แต่ขนาดโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 60-80 เซนติเมตร กระจายพันธุ์อยู่ตามแถบชายฝั่งแม่น้ำในทวีปยุโรปและใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยที่ปลาพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์จะว่ายน้ำไปวางไข่ในทะเลลึก โดยจะใช้เวลานานถึง 1-2 เดือน ลูกปลาเมื่อฟักเป็นตัวอ่อน จะมีลักษณะใส โปร่งแสง เหมือนวุ้นเส้น เมื่อปลาวางไข่แล้วจะตาย ขณะที่ลูกปลาขนาดเล็กจะเดินทางกลับสู่แม่น้ำทางทวีปยุโรป โดยลอยไปตามกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม และถูกกินระหว่างทางเป็นจำนวนมาก ตัวอ่อนใช้เวลาถึง 2 ปี ในการเดินทางถึงมหาสมุทรแอตแลนติกตอนกลาง จนกระทั่งถึงปลายปีที่ 3 จึงถึงชายฝั่งแม่น้ำในทวีปยุโรป โดยจะใช้เวลา 8-15 ปี ในการเจริญเติบโต จนเป็นตัวเต็มวัย ก่อนที่จะหวนกลับไปวางไข่ในทะเลตามวงจรชีวิต[3]

] [4: ปลาไหลอเมริกัน (American eel, Anguilla rostrate) เป็นปลาที่พบได้บนชายฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ จะมีลำตัวลักษณะเหมือนงู และหัวที่เล็กเรียวแหลม แผ่นหลังจะมีสีน้ำตาลส่วนแผ่นหน้าท้องจะเป็นสีเหลืองชา พวกมันมีฟันที่แหลมคมแต่ไม่มีครีบ สามารถเติบโตได้เต็มที่ถึง 152 เซนติเมตร]

ฟาร์มปลาในนิวฟันด์แลนด์เป็นที่บรรจบของกระแสน้ำอุ่นจากอ่าวเม็กซิโกและกระแสน้ำเย็นจากมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้ได้เปรียบอย่างมาก สามารถพบเห็นทั้งปลาเขตน้ำอบอุ่นและปลาเขตหนาวได้ที่นี่ นอกจากนั้นปลาเขตร้อนเองก็สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้เช่นกัน

“ปลาไหลอเมริกันจะว่ายจากแม่น้ำมาสู่มหาสมุทรนี้เพื่อวางไข่ทุกๆ ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน หลังผ่านการจำศีลตลอดฤดูหนาวแล้ว ถึงแม้ว่าเนื้อปลาไหลในช่วงเวลานี้จะไม่อ้วนและมีเนื้อเยอะ แต่กลับเต็มไปด้วยไข่ปลา รสชาติจัดว่าดีสุดๆ”

“แล้วปล้องไม้ไผ่พวกนี้จะช่วยเรื่องอะไร?” ฉินสือโอวถาม

ชาร์คหัวเราะพร้อมพูดว่า “ปลาไหลอเมริกันชอบมุดเข้ามาในปล้องพวกนี้ โดยเฉพาะหากเราใส่อาหารที่พวกมันชอบเช่นเนื้อเส้นสดๆลงไปแล้ว ผมกล้าพนันได้เลยครับว่า หลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เราจะได้อาหารกลางวันที่มากโขเลยเชียว”

ฉินสือโอวนำปล้องไม้ไผ่วางลงในน้ำ จากนั้นมัดเชือกให้แน่น แล้วในเมื่อเขาตอนนี้เขาว่างแล้ว จึงไปดูชาร์คหว่านแหจับปลา

ชาร์คค่อยๆบังคับเรือไปให้แล่นไปตามทิศทางลม เขาหว่านแหจับปลาในมือลงไป ฉินสือโอวเห็นว่าช่องตาข่ายนั้นเล็กมาก คาดว่าปลาตัวเล็กๆก็คงจะหนีไม่ได้ จึงถามขึ้นว่า “พวกเรายังต้องรักษาระบบนิเวศไม่ใช่เหรอ?”

ชาร์คอธิบายว่า “ตอนนี้อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งไม่ใช่ทั้งช่วงวางไข่ และไม่ใช่ช่วงที่ปลาและกุ้งกำลังเติบโต ดังนั้นจึงยากที่จะจับปลาขนาดใหญ่ได้ วันนี้เราเพียงมาสำรวจดูปริมาณของทั้งปลาและกุ้ง ดังนั้นปลาหรือกุ้งตัวเล็กก็ต้องจับ พอถึงฤดูใบไม้ร่วงพวกมันก็จะเติบโตเอง พอเราจับพวกมันขึ้นมาแล้ว เราต้องปล่อยมันกลับสู่ทะเลครับ”

หลังจากหว่านแหลงไปแล้ว ชาร์คก็อธิบายต่ออีกว่า “การบังคับความเร็วในการลากแหก็เป็นทักษะอย่างหนึ่งนะครับบอส ตามหลักการแล้ว การจะจับปลาแต่ละชนิดจะมีวิธีการที่แตกต่างกันไป”

“หากจะจับปลาที่ว่ายน้ำเร็ว เช่น ปลากระบอกเทาหรือปลาค็อด การลากจะต้องเร็ว แต่หากเป็นปลาที่ว่ายช้า เช่นปลาเทราต์สายพันธุ์ต่างๆ การลากอวนต้องลากช้าลง”

“แล้วก็ ตอนนี้เราอยู่ในเขตน้ำลึก หากในเขตน้ำตื้นนั้น แหปลาจะแตะพื้นทะเล หากเราลากแหในพื้นที่มีลักษณะแข็งแล้ว ต้องลากอย่างช้าๆ ไม่อย่างนั้นจะทำให้แหปลาเสียหาย กลับกันหากหว่านแหในพื้นที่ค่อนข้างอ่อนตัว ก็ต้องลากให้เร็วขึ้น”

สุดท้าย ชาร์คตบหัวตัวเองเบาๆ พูดว่า “ตายแล้ว บอส ผมดันลืมเอารายการของที่ต้องซื้อเพื่อใช้ในฟาร์มปลาให้คุณดู หากคุณว่างช่วยดูให้หน่อยนะครับ”

ฉินสือโอวรับสมุดเล่มหนึ่งมาจากชาร์ค ในนั้นมีรายการสิ่งของที่เขียนด้วยลายมือบิดๆเบี้ยวๆ หลักๆก็มี อวนตกปลา แหฝรั่ง อวนลาก อวนปู มุ้งดักปลา กระชังดักปลา ตาข่ายเหงือก เบ็ดตกปลา ฉมวกแทงปลา เครื่องแล่ปลา และอุปกรณ์แช่แข็ง เป็นต้น

เห็นได้ชัดว่าชาร์คมีความตั้งใจมากกับรายการสิ่งของใบนี้ บนนั้นเขาได้เขียนทั้งยี่ห้อที่แนะนำและราคา แม้กระทั่งพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ๆ ก็มีเขียนไว้เช่นกัน

ระหว่างที่อ่านดูรายการสิ่งของบนสมุดนั้น เมื่อฉินสือโอวไม่เข้าใจในจุดไหนก็จะถามชาร์ค เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนรู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว

เรือหาปลายังคงแล่นต่อไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ ท้องฟ้าและทะเลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเดียวกัน ลมทะเลยังคงพัดมาเรื่อยๆไม่หยุดหย่อน ฉินสือโอวมองไปรอบด้าน ถึงแม้จะล้อมรอบไปด้วยผืนน้ำทะเล แต่เขามองแล้วกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

พอได้เวลา ฉินสือโอวไปดึงเอาปล้องไม้ไผ่ที่วางไว้ในทะเลออกมา

ตอนแรกชาร์คกะว่าจะมาช่วยด้วย เพราะปล้องไม้ไผ่เมื่ออยู่ในน้ำแล้วจะหนักมาก แต่พอเห็นฉินสือโอวออกแรงดึงจนสามารถดึงปล้องออกมาจากน้ำได้สำเร็จ ทำให้เขาประทับใจไม่น้อย “ว้าว บอส นี่คุณเป็นเฮอร์คิวลีสเหรอ!”

ฉินสือโอวไม่ได้โต้ตอบ เพียงหัวเราะฮิฮิแล้วเทปล้องไม้ไผ่ออกมา หลังเทปล้องอันแรก ปรากฏว่าสำเร็จ มีปลาลายครามสีน้ำตาลตัวเล็กแบนออกมาด้วย

“ฮ้า เป็นปลาแฮลิบัต ถ้าตัวใหญ่กว่านี้หน่อย เราสามารถเอามาย่างได้ รสชาติอร่อยมากเลย” ชาร์คพูดพลางหัวเราะ

ฉินสือโอวจับปลาเล็กตัวนี้ที่สะบัดไปมาโยนลงไปในทะเล พร้อมกับโยนปล้องไม้ไผ่อีกหลายอันลงไปด้วยท่าทีตื่นเต้น สุดท้ายกลายเป็นว่าพวกเขาก็จับปลาไม่ได้อีกเลย

เทปล้องไม้ไผ่ออกมาแทบจะครึ่งหนึ่งของที่โยนลงไปแล้ว สุดท้ายเทออกมาได้ปลาไหลอเมริกันหลังดำมา ขนาดตัวไม่เล็กด้วย น่าจะมี20ซม.ได้ ฉินสือโอวจับมาวางไว้บนมือกะคร่าวๆ น้ำหนักประมาณหนึ่งกิโลกรัม

“นี่แหละคือผลงาน” ฉินสือโอวพูดกับชาร์คพร้อมสะบัดมือไปมา

ชาร์คนอนมองดูอยู่ตรงกราบเรือ ฉินสือโอวเทปล้องไม้ไผ่ต่อไป สุดท้ายเทเจอปลาอีกหนึ่งตัว ทั้งหมดเป็นสองตัว

พอเห็นแบบนี้ ชาร์คขมวดคิ้ว ถอนหายใจพร้อมพูดว่า “ดูท่าว่านับวันคุณภาพน้ำก็ยิ่งแย่นะครับ เมื่อก่อนหว่านแหลงไป สามารถดักปลาไหลขนาดสิบกว่าปอนด์ได้ง่ายๆเลย แต่เดี๋ยวนี้กลับได้มาแค่สองตัว”

ฉินสือโอวเตรียมใจมาก่อนแล้ว จิตสำนึกของเขายังคงล่องลองไปในท้องทะเลอยู่ ไม่เพียงแค่ปล้องไม้ไผ่ตกปลาไหลอเมริกันไม่ค่อยได้ ความจริงแหที่พวกเขาหว่านไว้ข้างหลัง ก็ไม่ค่อยจะมีปลาเหมือนกัน

แต่ดูก่อนเรายังมีอะไร? ถึงแม้ฟาร์มปลาไม่มีปลา แต่เราสามารถซื้อลูกปลามาทำเลี้ยงเองได้ ขอเพียงขยันลงแรง ฟาร์มปลาต้องเฟื่องฟูแน่นอน

ฉินสือโอวมั่นใจว่าตัวเองทำได้!

ปล้องไม้ไผ่ถูกโยนลงไปเป็นรอบที่สอง ฉินสือโอวเห็นชาร์คค่อนข้างโศกเศร้า จึงใช้จิตสำนึกของเขา เขาสำรวจไปในใต้ท้องทะเลอย่างรวดเร็ว แล้วจับปลาไหลอเมริกันใส่เข้าไปในปล้อง

เวลาเที่ยงวันแบบนี้ หลังจากดึงปล้องรอบสองขึ้นมา ชาร์คดีใจสุดขีดที่มีปลาไหลอเมริกันในปล้องไม้ไผ่เกินกว่าครึ่ง

“ดูท่าสถานการณ์ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิดนะ” ฉินสือโอวพูดพร้อมหัวเราะ

ชาร์คยักไหล่ พูดว่า “คงพูดได้เพียงว่าเรามีเทพแห่งท้องทะเลคุ้มครองอยู่ เอ๋ นอกจากตอนเป็นเด็กแล้ว ผมก็ไม่เคยเห็นว่าหว่านปล้องไปรอบเดียวจะได้ปลาไหลเยอะขนาดนี้มาก่อนเลยนะครับ”

พูดจบ คิ้วดกดำคู่นั้นของเขาก็ขมวดขึ้นพร้อมกับด่าว่า “ต้องโทษรัฐบาลนั่นแหละ พวกเขาเอาแต่พร่ำบอกว่าการเพาะเลี้ยงพืชและสัตว์ในน้ำซบเซา แต่ไม่เห็นมีการแก้ไขสักที! ถ้าพวกเขาทำการย้ายโรงงานเคมีทั้งหลายบนเกาะของเราออกไป การปนเปื้อนของน้ำทะเลของพวกเราจะมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?!”

พอฟังจบ ฉินสือโอวรู้สึกแปลกใจ ถามว่า “บนเกาะแฟร์เวลของเรามีโรงงานเคมีด้วยเหรอ?”

ชาร์คพูดด้วยท่าทีโมโหว่า “ใช่ครับ เพราะคนระยำพวกนี้แหละครับที่ทำให้เราหมดทางทำมาหากิน มีเจ้าหนึ่งเป็นโรงงานพลาสติก เจ้าหนึ่งเป็นโรงงานปุ๋ย และมีอีกเจ้าเป็นโรงงานอุตสาหกรรม พวกเราสงสัยว่าพวกเขาจะผลิตยาฆ่าแมลง! สรุปคือ ล้วนแต่เป็นคนระยำที่สมควรลงนรกทั้งนั้น!”

ฉินสือโอวโยนปลาไหลลงในถังน้ำ เขาเดินไปที่ห้องบังคับการเรือรินเหล้าสองแก้ว ยื่นให้ชาร์ค แล้วพูดว่า “นายกเทศมนตรีไม่มาจัดการเหรอ?”

ชาร์คพูดด้วยเสียงห่อเหี่ยวใจว่า “จัดการไม่อยู่ครับ เพราะเจ้าของโรงงานพวกนั้นมีเส้นสายใหญ่เอาการ พวกเราก็เคยประท้วง เคยต่อต้าน และก็เคยขอความช่วยเหลือจากทางสื่อด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่เกิดผลอะไรครับ”

ฉินสือโอวใช้มือลูบคางไปมาคิด ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ต้องให้ความสำคัญ ถึงว่าเกาะแฟร์เวลมีที่ตั้งอยู่ห่างจากพื้นดินตั้งไกล แต่กลับมีระดับมลภาวะที่สูงขนาดนี้ ที่แท้เป็นเพราะบนเกาะมีโรงงานพวกนี้นี่เอง!

……………………………………….