บทที่ 30 ปืนกระบอกแรก
ฉินสือโอวตรวจอาการทางจิตเสร็จก็ไปที่สถานีตำรวจเซนต์จอห์นเพื่อตรวจประวัติอาชญากรรมต่อ พอออกมาก็มีรถบีเอ็มดับเบิลยู760 สีฟ้าขับผ่านไปข้างๆ แล้วก็ขับกลับมาอีกครั้ง
คราวนี้ฉินสือโอวกับเออร์บักกำลังจะข้ามถนน รถคันนั้นก็ถอยหลังกลับมาทำให้ทั้งสองคนตกใจเป็นอย่างมาก
“เฮ้! ซื้อใบขับขี่มาหรือไง” ฉินสือโอวโบกไม้โบกมือต่อว่าอย่างไม่พอใจ
ประตูรถบีเอ็มดับเบิลยูถูกเปิดออก ทันใดนั้นใบหน้าที่คุ้นเคยก็ปรากฏต่อหน้าเขา บังเอิญจริงๆ เขาคือนายธนาคารมอนทรีออลสาขานิวฟันด์แลนด์ อลัน แบรนดอน
“ฉิน ฉันดีใจมากที่ได้พบนาย ก็เลยขับเร็วไปหน่อย ขอโทษจริงๆ” แบรนดอนยิ้มอย่างอบอุ่น
“นายมาทำอะไรที่สถานีตำรวจเนี่ย?”
ที่แท้ก็คนรู้จักกันนี่เอง ฉินสือโอวก็เลยไม่ด่าต่อ แล้วอธิบายว่า
“ฉันมาขอใบอนุญาตครอบครองปืน”
“ได้มาแล้วเหรอ?”
“ยังต้องรออีกหลายเดือนเลย ฉันเพิ่งไปตรวจสุขสภาพจิตมาเอง”
“แล้วนายรีบใช้หรือเปล่าล่ะ? หมายถึงใบอนุญาตครอบครองปืนน่ะ”
“ก็ไม่รีบเท่าไร แต่ถ้าได้เร็วหน่อยก็ดี”
ได้ยินดังนั้น แบรนดอนก็ยิ้มขึ้นมาแล้วบอกว่า
“เอาข้อมูลการลงทะเบียนของนายมาสิ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปหาใครสักคนในนั้นสักครู่ พวกนายไปรอฉันที่ร้านกาแฟก่อนนะ”
ฉินสือโอวคิดว่าแบรนดอนคงจะไปหาใครสักคนเพื่อเร่งให้เขาได้ใบอนุญาตเร็วขึ้น แต่หลังจากที่นั่งรออยู่ที่ร้านกาแฟประมาณครึ่งชั่วโมง แบรนดอนก็กลับมาพร้อมกับยื่นบัตรสีส้มสองใบให้แก่เขา มันคือใบอนุญาตให้ครอบครองปืนและใบอนุญาตให้ซื้อปืน
“นี่คือเสร็จแล้วเหรอ?” ฉินสือโอวรู้สึกเหลือเชื่อ
แบรนดอนหัวเราะแล้วตอบว่า
“หัวหน้าตำรวจที่นี่เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง ทีนี้ก็เข้าใจแล้วใช่ไหม ไม่ต้องห่วง เอกสารของนายไม่มีปัญหาอะไร เปลี่ยนแค่วันที่ยื่นใบสมัครเป็นสองเดือนก่อนหน้านี้แค่นั้นเอง”
สองเดือนก่อนฉินสือโอวยังใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอยู่ที่เมืองไหเต่าอยู่เลย
ฉินสือโอวรีบขอบคุณแบรนดอนทันที อีกฝ่ายบอกเพียงว่าไม่เป็นไรไว้ไปกินข้าวกันสักมื้อแล้วก็จากไป
ฉินสือโอวมองไปยังใบอนุญาตทั้งสองแล้วถอนหายใจ ก่อนจะหันไปพูดกับเออร์บักว่า
“คอนเนคชั่นนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จีน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าที่แคนาดานั้นจะยิ่งกว่า”
เออร์บักยักไหล่แล้วพูดว่า
“มันเป็นเรื่องปกติ นี่แหละสังคมทุนนิยม คอนเนคชั่นที่นี่เป็นเหมือนเงิน ในความเป็นจริงแล้วการมีใบอนุญาตครอบครองปืนสำหรับที่นี่ก็เหมือนมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจในประเทศของนายนั่นแหละ ทำเสร็จได้ในหนึ่งวันหรือหนึ่งปีก็เหมือนกัน"
เมื่อได้ใบอนุญาตให้ซื้อปืนมาอยู่ในมือแล้ว ฉินสือโอวก็ตรงไปที่ร้านขายปืนในเมืองแฟร์เวลทันที
เนื่องจากเมืองแฟร์เวลนั้นอยู่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองไม่ใหญ่ แต่ก็มีของครบครัน ดั่งสุภาษิตที่ว่าแม้นกกระจอกจะตัวเล็กเพียงน้อยนิด แต่ก็มีอวัยวะภายในที่สำคัญทั้งห้าเหมือนกับสัตว์ใหญ่ทุกอย่าง
ร้านขายปืนนี้มีชื่อว่า ‘ร้านอุปกรณ์กลางแจ้ง CESF’ ในตอนแรกฉินสือโอวคิดว่าเจ้าของร้านเล่น CF หรือว่ายังไงกัน
สุดท้ายเออร์บักก็อธิบายให้เขาฟังว่า CESF นั้นย่อมาจาก The Canadian emergency special forces ซึ่งแปลว่ากองกำลังพิเศษฉุกเฉินแห่งแคนาดา เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพแคนาดา และครูฝึกของกองกำลังพิเศษหน่วยนี้มาจากหน่วยกองกำลังเดลต้าของอเมริกา
เมื่อผลักประตูของร้านขายปืนเข้าไปก็พบกับปืนกลมากมายที่วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ฉินสือโอวจำปืนกระบอกนี้ได้ มันคือเอ็มจี-42 ปืนกลที่มีชื่อเสียงที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นเครื่องมือสังหารที่ของกองทัพเยอรมัน ชื่อเล่นของมันคือริปเปอร์ (ชื่อฆาตกรต่อเนื่อง) เพราะทุกครั้งที่มันปรากฏตัวจะมีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
“ยินดีต้อนรับ ไม่ทราบว่าคุณสองคนกำลังมองหาอะไรอยู่ ผมเรจจี้ นีลเซ็นเป็นเจ้าของร้าน”
เจ้าของร้านขายปืนเข้ามาทักทาย
ฉินสือโอวประเมินอยู่สักครู่ วัยรุ่นผิวขาว ผมทอง นัยน์ตาสีฟ้าหุ่นมาตรฐานคนนี้ อายุไม่น่าถึง 30 ปี สูงประมาณ 180 เซนติเมตร สวมชุดลายพราง กล้ามเป็นมัดๆ ท่าทางทะมัดทะแมง ราวกับเสือดาวผู้กล้าหาญ
“ผมต้องการซื้อปืน เอาเป็นปืนพกและปืนไรเฟิลอย่างละหนึ่งกระบอก ใช้สำหรับการล่าสัตว์และป้องกันตัวเองเป็นหลัก"
ตอนนี้ฉินสือโอวอาศัยอยู่ที่ฟาร์มปลาเพียงลำพัง ถ้ามีคนคิดร้ายบุกเข้ามาทางทะเลต้องลำบากแน่
พอนีลเซ็นเห็นเออร์บักก็ยิ้มแล้วทักทาย
“สวัสดีครับคุณเออร์บัก คนจีนที่มากับคุณก็คงจะเป็นฉินสินะ ผมได้ยินเพื่อนพูดถึงเขาหลายครั้งแล้ว ตอนนี้เขาเป็นคนที่น่าจับตามองของเมืองเรา”
"ถ้าแค่ล่าสัตว์กับป้องกันตัว ปืนพกผมขอแนะนำเป็น ยูเอสพี กล็อกหรือไม่ก็ เอ็ม1911เอ1 พวกมันมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ยูเอสพี มีแรงถีบกลับน้อย กล็อกนั้นมีความแม่นยำ ส่วนเอ็ม1911เอ1นั้นทรงพลังและเคยถูกใช้โดยกองทัพสหรัฐฯ ที่นี่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกแบบไหนแล้วล่ะ”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าร้านขายปืนนี้คล้ายกับร้านขายของเบ็ดเตล็ดยุค 90 ที่บ้านเกิดของเขาคือมีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการซึ่งทั้งหมดเป็นปืนเก่า จากนั้นก็มีเคาน์เตอร์ยาวที่เจ้าของร้านยืนอยู่ข้างหลัง ปืนพกถูกวางอยู่ในเคาน์เตอร์ยาว พวกปืนไรเฟิลอยู่บนชั้นวาง ส่วนปืนกลและปืนซุ่มยิงนั้นไม่มีเลย
ไม่ว่าจะเป็นที่สหรัฐหรือแคนาดา ใช่ว่าร้านขายปืนจะขายปืนได้ทุกชนิด อย่างแรกปืนที่พวกเขาสามารถขายได้ล้วนเป็นปืนสำหรับพลเรือนเท่านั้น พูดง่ายๆก็คือจากปืนไรเฟิลแบบต่อเนื่องต้องแปลงให้เป็นปืนไรเฟิลแบบที่ยิงได้ทีละนัด และปืนที่มีพลังทำลายล้างสูงๆก็จะถูกห้ามขายเป็นต้น
นอกจากนี้ร้านขายปืนในแคนาดาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายปืนกลและปืนไรเฟิลซุ่มยิงความแม่นยำสูงอีกด้วย มิเช่นนั้นอาจมีคนซื้อปืนแก็ตลิงไปกราดยิงที่โบสถ์ โรงเรียนหรือสถานที่ชุมนุมอื่นๆ
ฉินสือโอวถามขึ้นมาว่า “มี Desert Eagle ไหมครับ? ผมอยากเก็บสะสมไว้สักกระบอก”
Desert Eagle มีแรงถีบสูงมากและบรรจุกระสุนได้น้อย เพราะฉะนั้นมันจึงไม่เหมาะกับสนามรบแต่เหมาะสำหรับล่าสัตว์ ฉินสือโอวรู้สึกว่าถ้าเขาออกไปล่าพวกหมีหรือหมูป่า พวกปืนเล็กๆอย่างๆ ยูเอสพี หรือกล็อกอาจจะไร้ประโยชน์
นีลเซ็นตอบ
“มีครับ แต่ไม่ค่อยแนะนำเท่าไร เพราะแรงถีบมันสูงและหาซื้อกระสุนยาก”
ฉินสือโอวถามต่อ
“ขอผมลองหน่อยได้ไหม?”
นีลเซ็นยิ้มแล้วตอบว่า
“แน่นอนครับ กระสุนปืนพก 50 ลูก 20 ดอลลาร์ กระสุนปืนไรเฟิลลูกละ 32 ดอลลาร์ครับ”
ฉินสือโอวถามต่ออีกว่า “ปืนไรเฟิลรุ่นไหนดีครับ?”
เขาไม่ใช่แฟนตัวยงเรื่องการทหาร แค่เป็นคนที่หลงใหลในอาวุธก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าบนชั้นจะมีปืนเรียงรายอยู่เต็มไปหมด แต่เขาไม่รู้ว่ารุ่นไหนคือรุ่นไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปืนเหล่านี้เป็นรุ่นพลเรือนที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในประเทศจีน ถ้าเป็นรุ่นทหารเขาอาจจะยังพอรู้จักอยู่บ้าง
“แนะนำเป็น AR-15 ครับมันคือ M16 รุ่นพลเรือนแต่ความแรงไม่น้อยกว่า M16เลยครับ นอกจากนี้ยังสามารถติดไฟฉาย ลำกล้องและกล้องอินฟราเรดได้ด้วยนะครับ”
“และถ้าหากคุณชอบปืนลูกซอง เราก็มี Benelli M1 กับ Remington Model 870 ครับ สองรุ่นที่ว่ามานี้ไม่เลวเลยครับ”
ฉินสือโอวถาม
“ไม่มี AK เหรอครับ?”
นีลเซ็นหัวเราะแล้วส่ายหน้า
“เจ้านั่นมันโหดเกินไปครับ ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป แต่หากคุณต้องการ AK รุ่นที่ถูกลดสเปกลงมาก็มีขายครับ แต่มันเหมือนไก่อ่อน ผมกล้าพนันได้เลยว่าคุณไม่ถูกใจมันแน่”
สรุปฉินสือโอวซื้อปืนพก 4 กระบอก ปืนไรเฟิล 2 กระบอกและปืนลูกซองอีก 2 กระบอก หลังจากนั้นก็เอาปืนกระบอกหนึ่งที่บรรจุกระสุนไว้ 50 นัดไปลองยิง
ก่อนที่จะเดินไป เขาก็เห็นรูปร่างที่คุ้นตา มันคือปืนพก The QSZ-92 จริงๆ ด้วย
รุ่นนี้ฉินสือโอวชอบปืนรุ่นนี้มานานแล้ว ดังนั้นไม่ว่ายังไงเขาก็จะซื้อมัน ส่วนกระบอกนี้ไม่จำเป็นต้องลองแล้วล่ะ
สนามยิงปืนของร้านนี้คือสระเล็กๆที่แห้งขอดที่ตั้งอยู่ด้านหลังของร้าน ซึ่งมันช่วยลดการเล็ดลอดออกไปของกระสุนปืนได้เป็นอย่างดี
นีลเซ็นสวมที่ครอบหูให้ฉินสือโอวหลังจากนั้นก็เริ่มลองจาก ยูเอสพี
ก่อนที่จะเริ่มยิงนีลเซ็นได้แนะนำกฎมากมายให้กับฉินสือโอว รวมไปถึงการไม่เล็งปืนไปที่คนไม่ว่าปืนนั้นจะขึ้นเซฟตี้ล็อกไว้ก็ตาม และถ้ากระสุนด้านห้ามแก้เองเด็ดขาด รวมไปถึงเมื่อขึ้นลำแล้วห้ามเดินไปเดินมาเป็นต้น
และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือวิธีการใช้ปืน นีลเซ็นกังวลว่าฉินสือโอวต้องยิงปืนหลายนัดขนาดนี้อาจจะทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกและไบเซ็ปส์ฉีกขาดได้
ฉินสือโอวปลดเซฟตี้ปืน เล็งไปที่เป้าหมายแล้วดึงไกปืนเพื่อเริ่มยิง
“ปัง ปัง ปัง…” เสียงของ ยูเอสพี ใสและไพเราะ แรงถีบกลับเบาจริงๆด้วย แทบจะไม่ต้องใช้อีกมือประคองเลย
นีลเซ็นเห็นอย่างนั้นก็อึ้งไปเล็กน้อย เพราะข้อมือของผู้ชายคนนี้แข็งแรงกว่าที่เขาคิดไว้
หลังจากที่ยิงไปสองคลิปติดต่อกัน ฉินสือโอวก็เปลี่ยนมาลองกล็อก 43 ปืนนี้ค่อนข้างเล็ก สัมผัสแล้วรู้สึกดี กลไกการทำงานก็ราบรื่นมาก
M1911A1 นั้นสวยงามเป็นพิเศษ เมื่อมันมาอยู่ในอุ้งมือของฉินสือโอวมันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นพระเอกหนังอย่างไรอย่างนั้น หลังจากลองไปหลายกระบอกเขาก็เริ่มรู้จะสึกมึนๆ ขึ้นมา
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ฝ่ามือของฉินสือโอวนั้นค่อนข้างเล็ก แต่แรงถีบของปืนไม่มีผลต่อเขาเท่าไร เขาสามารถควบคุมมันได้สบายมาก
พอลองปืนสั้นแล้วมาลองปืนไรเฟิล AR-15 ที่ไม่สามารถยิงได้อย่างต่อเนื่องทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยตื่นเต้น นีลเซ็นเข้าใจจึงอธิบายว่า “ปืนกระบอกนี้สามารถโมดิฟายให้เป็นปืนกลกึ่งอัตโนมัติได้ไม่ยากครับ”
ส่วนปืนลูกซองไม่มีอะไรน่าลอง ก็แค่เสียงดัง
เล่นปืนครั้งแรก ฉินสือโอวก็ตกหลุมรักมันทันที ไม่ว่าจะมองไปที่กระบอกไหน เขาก็รู้สึกชอบมันทั้งหมด จึงโบกมือแล้วพูดว่า “ผมซื้อหมดนี่เลยครับ”
……………………………….