ตอนที่ 40 สไตล์เศรษฐีบ้านนอก
ไม่ไกลจากบริษัทจัดงานแต่งงาน มีร้าน4S[footnoteRef:1]ของรถออดี้และโฟลคสวาเก้นอยู่ เป็นร้านที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว หน้าร้านมีรถออดี้A6Lสองคัน โฟลคสวาเก้นCC และพาสสาทหนึ่งคันจอดโชว์อยู่ และยังมีรถเก๋งอีกหลายคันจอดอยู่ในร้าน [1: ร้านขายรถ4Sหมายถึง Sale-Spare part-Service-Survey คือร้านขายรถที่มีบริการทั้งจำหน่ายรถ อะไหล่รถ บริการซ่อม และบริการหลังการขายในร้านเดียว]
ฉินสือโอวให้สัญญาณกับทุกคนให้รอตัวเองสักครู่ เขาเข้าไปในร้าน4S มีพนักงานขายคนหนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับ ฉินสือโอวพูดว่า “เถ้าแก่อยู่ไหมครับ? ผมอยากจะซื้อรถ”
ในใจพนักงานขายคิดว่าไอ้บ้านนอกนี่คิดว่าตัวเองเป็นใคร? นึกว่าใครก็สามารถขอพบเถ้าแก่เราได้หรือไง? พร้อมตอบด้วยรอยยิ้มว่า “คุณคะ ถ้าซื้อรถสอบถามกับดิฉันได้เลยค่ะ”
ฉินสือโอวตอบว่า “ผมต้องการซื้อรถตัวท็อปของออดี้A6L พร้อมรูดบัตรจ่ายสดเลย ผมคิดว่าเถ้าแก่คุณควรจะออกมาต้อนรับผมหน่อยไม่ใช่เหรอครับ?”
เศรษฐกิจของประเทศจีนตอนนี้เติบโตเร็วมาก ยิ่งรถที่ผลิตในประเทศเองนั้นก็มีมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นจำนวนคนจีนที่ซื้อรถก็มีเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล การซื้อรถโดยจ่ายเงินสดนั้นยิ่งพบเห็นได้ง่าย แต่ว่า การซื้อรถอย่างออดี้ แล้วยังสามารถจ่ายสดได้นั้นกลับพบเห็นได้น้อยนัก ส่วนมากจะเป็นการผ่อนชำระมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองเล็กๆ อย่างเมืองผิงเฉิงนี้
พนักงานขายได้แต่ยิ้มตอบ และเรียกเถ้าแก่ออกมา
เถ้าแก่ร้าน4Sนั้นอายุยังน้อย ประมาณสามสิบสี่ถึงสามสิบห้าเท่านั้น เขาสวมเสื้อนอกเป็นเสื้อสูทของ CK ขณะจับมือทักทายกันแขนเสื้อเลิกขึ้นทำให้ข้อมือโผล่ออกมาเผยให้เห็นนาฬิกาข้อมือวาเชอรอง คองสตองแตง ทั้งเนื้อทั้งตัวของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยออร่าของคนหนุ่มมีความสามารถ
“สวัสดีครับ ผมชื่อต้วนเหล่ย เป็นเจ้าของร้านนี้ครับ คุณจะซื้อรถA6โดยจ่ายสดใช่ไหมครับ?” เถ้าแก่อายุน้อยคนนี้พูดด้วยรอยยิ้ม
ฉินสือโอวหยิบบัตรทองของธนาคารมอนทรีออลออกมาแล้วพูดว่า “รถA6หนึ่งคัน ผมอยากได้ที่เป็นรถนำเข้า คุณมีใช่ไหมครับ?”
เมื่อได้ยินคำนี้ ต้วนเหล่ยตกใจเล็กน้อย เขาเปิดร้านมาก็สองปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีลูกค้ามาซื้อรถออดี้A6นำเข้า
ออดี้A6เป็นรถที่มีชื่อเสียงมาก แทบพูดได้ว่าเป็นรถที่นิยมใช้กันสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐชั้นสูงของจีน ความจริงเราสามารถพูดได้ว่า รถออดี้A6ที่ผลิตในจีนนั้นประสบผลสำเร็จอย่างมาก สำเร็จถึงขั้นว่าทำให้คนจีนแท้ๆ ไม่ใช้รถยี่ห้อของจีนเลยทีเดียว
แต่สำหรับผู้ใช้รถในประเทศจีนนั้น ออดี้ที่นำเข้ามากลับไม่ได้รับความนิยมเสมอไป เพราะว่ารถนำเข้ารุ่นA6นั้นมีตัวรถที่สั้นกว่าA6ที่ผลิตในจีนถึง90มิลลิเมตร เตี้ยกว่า20มิลลิเมตร ความกว้างภายในห้องโดยสารก็แคบลง ผู้ใช้รถในประเทศจีนมักจะชอบรถที่ห้องผู้โดยสารกว้างขวางมากกว่า
แต่ทว่าหากไม่นับเรื่องขนาดห้องโดยสารแล้ว ออดี้A6ที่นำเข้านั้นมีจุดเด่นมากกว่าที่ผลิตในประเทศอยู่มากโขเลย โดยเฉพาะด้านความละเอียดในการผลิต เช่นวัสดุของฟิล์มกรองแสงตรงกระจกไฟฟ้าข้างรถ หรือความแตกต่างทางด้านเครื่องยนต์ ที่ให้แรงบิดที่เร็วกว่า และอัตราเร่งที่สูงกว่า
แต่ว่า จุดเด่นจริงๆ ของรถนำเข้าออดี้A6นั้นน่าจะเป็นที่quattroระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะเฉพาะของบริษัทออดี้ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องถึงสองตัว ระบบตัวนี้ช่วยเพิ่มการทรงตัวของรถรุ่นนี้ได้ถึงสองเท่า ทำให้ไม่ว่าจะเรื่องการควบคุมการเลี้ยวและบังคับทิศทางขับรถบนสภาพถนนแบบไหน สามารถทำให้ควบคุมทิศทางและทรงตัวได้ดีกว่า ปลอดภัยกว่าด้วย
แน่นอน เพราะมีภาษีเข้ามาเกี่ยวด้วย ทำให้รถA6นำเข้านั้นแพงกว่า ราคาตัวท็อปก็แพงกว่าถึงสองเท่า ยิ่งรถOLราคาก็ตกประมาณหกแสนห้าหมื่นหยวนเลยทีเดียว
เห็นบัตรทองมอนทรีออลอยู่ในมือฉินสือโอว ตาของต้วนเหล่ยเบิกโพลงและกะพริบไปมารัวๆ ตัวเขาเองก็เรียนมหาวิทยาลัยที่แคนาดาเหมือนกัน ดังนั้นจึงรู้ถึงความพิเศษของบัตรใบนี้ บัตรประเภทนี้หากมีมูลค่าทรัพย์สินไม่ถึงยี่สิบล้านดอลลาร์แคนาดา ธนาคารมอนทรีออลไม่มีทางออกบัตรให้อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นบัตรทองจากธนาคารมอนทรีออลแล้ว ต้วนเหล่ยกระตือรือร้นขึ้นมาแล้วรีบเชิญฉินสือโอวนั่งทันที เขาพูดว่า “รถนำเข้าA6ใช่ไหมครับ? ฮ้า พอดีเลยครับ ที่ร้านผมมีพอดี แล้วก็ คุณพี่มาถูกที่แล้วครับ ผมกล้ารับประกันว่า ร้าน4Sในเมืองผิงเฉิง มีเพียงร้านผมร้านเดียวเท่านั้นที่มีรถนำเข้าA6!”
ฉินสือโอวโทรศัพท์หาพี่เขย รถคันนี้เขาถือว่าซื้อให้กับทางบ้านพี่สาว เหตุผลที่เขาซื้อรถนำเข้าออดี้A6 ก็เพราะว่าพี่เขยเขาชอบรถคันนี้มาก ภาพพื้นหลังในคอมพิวเตอร์ของเขาก็เป็นรูปของรถคันนี้
ถือโอกาสที่พี่เขยยังไม่มา ฉินสือโอวจึงไปทดลองขับรถดู
ออดี้ A6ถือเป็นราชาแห่งรถหรูทั้งปวง เป็นธรรมดาที่ขับแล้วรู้สึกเหมาะมือ เมื่อเทียบกับรถออดี้ที่ผลิตในจีนแล้ว รถนำเข้ายิ่งดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด การออกแบบภายในไม่หรูหรามาก แต่มองโดยรวมแล้วก็สามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของนักออกแบบที่ต้องการให้ความรู้สึกที่เน้นใช้งานมากกว่า
นี่ก็เหมือนเป็นการเปรียบเทียบระหว่างเปียโนของยามาฮ่ากับเปียโนธรรมดา มองภายนอกจะไม่ค่อยเห็นถึงความแตกต่างมากนัก แต่เพียงวางมือลงบนคีย์บอร์ดเท่านั้นก็รับรู้ได้ถึงความแตกต่าง และเมื่อได้ลองเล่นแล้ว เสียงที่ออกมา ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างกันอย่างชัดเจน!
เมื่อเห็นสีหน้าพอใจของฉินสือโอว ต้วนเหล่ยก็รู้แล้วว่างานนี้ปิดการขายได้อย่างแน่นอน เขาพูดขึ้นว่า “คุณฉินครับ หากคุณมั่นใจว่าจะซื้อรถคันนี้แล้ว เรื่องราคาเรายังต่อรองกันได้นะครับ”
ฉินสือโอวถือโอกาสเริ่มพูดเข้าประเด็น “ราคานี้ถือว่าโอเคแล้วครับ แต่ว่า ผมมีเรื่องอยากขอให้เถ้าแก่ต้วนช่วยเหลือหน่อยครับ”
ต้วนเหล่ยรีบโพล่ง ‘ยินดีอย่างยิ่ง’ ฉินสือโอวจึงพูดต่อว่า “เถ้าแก่ต้วน รถออดี้ในเขตของเรา เกินกว่าครึ่งมาจากร้านของคุณ ผมคิดว่าคุณคงรู้จักเจ้าของรถออดี้หลายคน คือแบบนี้ครับ อีกสองวันเพื่อนผมจะแต่งงาน ขาดขบวนรถ ดังนั้นคุณช่วยเป็นธุระ ติดต่อหารถออดี้สีแดงมาสักหกคันได้ไหมครับ? A4 หรือA6ก็ได้ครับ”
พอพูดจบ ต้วนเหล่ยเข้าใจเรื่องที่ฉินสือโอวสื่อทันที เขาถามต่อว่า “หากผมเดาไม่ผิด เหตุผลจริงๆ ที่คุณมาที่ร้านก็เพื่ออยากหาขบวนรถ แต่ก็ถือโอกาสซื้อรถสักคันใช่ไหมครับ?”
ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “ประมาณนั้นครับ แต่ความจริงผมมีความคิดที่จะซื้อรถให้พี่เขยอยู่แล้ว กลับมาคราวนี้ เลยคิดว่าจะจัดการให้เรียบร้อยไปเลยครับ”
คิดๆ ดูแล้ว เขาจึงเล่าเรื่องขบวนรถแต่งงานที่เกิดปัญหาของฉินเผิงให้ฟัง ว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังอะไร
ต้วนเหล่ยยิ้มมุมปาก แอบคิดในใจว่าเศรษฐีบ้านนอกคนนี้มาจากที่ไหนกัน ตัวเขาเองก็เป็นคนที่ถูกเรียกว่าเศรษฐีบ้านนอกบ้าง ลูกคนรวยบ้าง แต่เมื่อเทียบกับคุณชายตรงหน้าคนนี้แล้วดูเหมือนแตกต่างกันเยอะเหลือเกิน
เพียงเพื่อช่วยหาขบวนรถแต่งงานให้เพื่อน ถึงกับลงทุนซื้อรถนำเข้า แถมรถก็ไม่ได้ซื้อไว้ขับเองแต่ซื้อให้คนอื่นอีกต่างหาก ต้วนเหล่ยยอมรับว่าตัวเองทำแบบนี้ไม่ได้
เรื่องบางเรื่องนั้น การทำไม่ได้ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการชื่นชนคนที่คิดจะทำ ต้วนเหล่ยรู้สึกประทับใจในความช่วยเหลือที่ฉินสือโอวมีให้เพื่อนไม่น้อย จึงตบอกตัวเองแล้วพูดว่า “คุณพี่ฉินวางใจได้ครับ เรื่องนี้ให้ผมจัดการเอง ขบวนรถผมจะติดต่อให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันนี้ รถนำขบวนผมใช้รถสีขาวA8 ตามหลังด้วยรถA6สีแดงแปดคัน รับรองว่าต้องสวยงามตระการตาแน่นอนครับ!”
ขบวนรถทั่วไปปกติใช้รถหกคัน เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความราบรื่น แต่ทว่าหากการเงินสะดวกแล้วล่ะก็ แปดคันย่อมดีกว่า เปรียบได้กับความเฮงความร่ำรวย
เท่านี้ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จเรียบร้อย ฉินสือโอวไม่คิดว่ามันจะง่ายถึงเพียงนี้ ตอนแรกเขายังคิดว่าอาจต้องจ่ายเงินเพื่อให้ต้วนเหล่ยช่วยเหลือเสียอีก
จากนั้น พี่สาวและพี่เขยของฉินสือโอวก็มาถึง เพียงได้เห็นสีเงาวาววับ และรูปทรงที่สุดแสนจะคลาสสิคของรถA6นำเข้าเท่านั้น พี่เขยเขาก็อึ้งตะลึงแล้วพูดว่า “ไอ้เด็กคนนี้ซื้อรถคันนี้แล้วจริงเหรอ?”
ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “เป็นของขวัญให้พี่และพี่สาวผมนะครับ ตอนนี้ที่บ้านไม่มีรถเลย ทำธุระอะไรก็ไม่สะดวก”
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่เขาซื้อรถ รถของเขาที่ฟาร์มปลาขับกลับมาใช้ที่นี่ไม่ได้ ต่อไปหากต้องกลับบ้านมาทำธุระแล้วไม่มีรถเลยสักคัน คงทำให้เสียเวลามาก
พี่เขยของฉินสือโอวทำงานเป็นเจ้าหน้าที่จัดซื้ออยู่ในโรงงานแห่งหนึ่งในตัวเขต เพราะไม่มีรถ ปกติจึงพักอยู่กับโรงงาน วันหยุดกลับบ้านทีต้องนั่งรถประจำทางกลับ ตัวเขาอยากซื้อรถมานานแล้ว แต่ติดตรงที่ยังไม่มีเงิน
เมื่อคืนวาน พี่สาวฉินสือโอวได้บอกกับสามีไปว่าน้องชายให้เงินมาก้อนหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกว่าเท่าไร บอกเพียงว่าเพียงพอแล้วที่จะใช้เริ่มต้นทำธุรกิจ
ก่อนหน้านี้พี่เขยฉินสือโอวไม่ได้รู้รายละเอียดชีวิตในแคนาดาของฉินสือโอว แต่ดูจากที่ภรรยาได้เงินมาบวกกับรถที่บทจะซื้อก็ซื้อนี่อีก เขารู้ในทันทีว่าน้องเขยเขาคนนี้กลายเป็นคนรวยไปแล้ว
“ฉัน ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดีแล้ว แบบนี้ไม่ค่อยดีหรือเปล่า?” พี่เขยฉินสือโอวพูดพลางถูมือไปมา
รถคันละหกแสนกว่าหยวน เขาเองคงขับอย่างไม่วางใจเพียงรอยขีดข่วนนิดเดียวก็อาจต้องใช้เงินซ่อมหลายหมื่นหยวน!
ฉินสือโอวเพิ่งรับรู้ได้ถึงคำพูดที่ว่าคนรวยพูดดังกว่า พอกระเป๋าเงินหนักก็ยืดได้เต็มที่ก็คราวนี้ เมื่อก่อนระหว่างพี่เขยกับเขานั้น เขาเป็นฝ่ายที่ถูกสั่งสอนตลอด แต่ตอนนี้สถานะกลับตาลปัตรแล้ว
รูดบัตรจ่ายเงินเสร็จ รถก็พร้อมที่จะทำการโอนชื่อแล้ว ต้วนเหล่ยยังแถมของแถมเป็นอุปกรณ์จิปาถะอีกมากมายเช่นบัตรบำรุงรักษา ผ้าคลุมรถ ปลอกหุ้มพวงมาลัยรถ น้ำหอมปรับอากาศเป็นต้น
ถึงตอนนี้ เท่ากับว่าการซื้อรถคันนี้ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง พี่สาวและพี่เขยฉินสือโอวยังอึ้งอยู่ แม้กระทั่งตอนต้วนเหล่ยยื่นกุญแจรถให้ทั้งสองคนก็ยังคงตะลึงไม่หาย
“รถคงต้องจอดไว้ที่นี่ชั่วคราวนะครับ ทางร้านรับผิดชอบดำเนินการให้หมด แต่การขอทะเบียนพวกคุณต้องดำเนินการเองนะครับ” ต้วนเหล่ยพูด พี่สาวและพี่เขยฉินสือโอวพยักหน้าพร้อมกัน
ฉินสือโอวเดินออกจากร้าน4Sก่อนแล้วเดินตรงไปร้านกาแฟเพื่อเจอกับฉินเผิงและคนอื่นๆ ฉินเผิงไม่มีกะจิตกะใจดื่มกาแฟหรอก เขาวุ่นกับการโทรศัพท์หาเพื่อนๆ เพื่อขอความช่วยเหลือไม่หยุดหย่อน ดูยุ่งวุ่นวายมากทีเดียว
“โอเคแล้ว จัดการให้เรียบร้อยแล้วล่ะ รถนำขบวนคือA8 ส่วนรถตามหลังคือรถA6สีแดงแปดคัน พรุ่งนี้มาดูรถได้ ตอนนี้เราก็ไปจัดการเรื่องต่อไปได้แล้วใช่ไหม? ” ฉินสือโอวพูดพลางหัวเราะ
ฉินเผิงมองฉินสือโอวอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง จึงถามด้วยน้ำเสียงสงสัยว่า “นายอย่าล้อเล่นนะ เสี่ยวโอว นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กนะ”
ฉินสือโอวดึงฉินเผิงมาแล้วชี้ไปที่ร้าน4s พูดว่า “เถ้าแก่ต้วนเหล่ย พอดีเขาเป็นเพื่อนของฉัน เขามีเพื่อนที่อยู่กลุ่มและคลับคนรักรถ แค่หารถมาไม่กี่คัน เป็นเรื่องโซอีซี่ไม่ใช่เหรอ? ”
พวกของโหลวมู่ชิงและเหยียนลี่ลี่ต่างพากันอึ้ง และตะลึงงันไปกับคำพูดของฉินสือโอว
…………………………………………………