ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

บทที่ 42 ของล้ำค่าในคลอง

ฉินสือโอวเอาเครื่องปั๊มน้ำขึ้นมา แต่ไม่ได้จัดการทำความสะอาดเอาหญ้าออก เขาได้เอ่ยกับพ่อไว้เพียงประโยคหนึ่งว่า “มีธุระด่วน” ก่อนที่จะเดินหนีไป

คุณพ่อฉินโยนก้นบุหรี่ทิ้งและขมวดคิ้วพูดออกมา “อายุมากขนาดนี้แล้วยังไม่รู้จักทำตัวให้สุขุม!”

เออร์บักพูดออกมาอย่างมีความสุข “เฮ้เพื่อน ผมจะทำความสะอาดเอาหญ้าออกเอง อันนี้ผมทำได้!”

คุณพ่อฉินรีบขวางเขาไว้ การซ่อมเครื่องปั๊มน้ำนี้จะต้องทำร่วมกับไฟฟ้าพลังน้ำ เขาเลยกลัวว่าฝรั่งร่างใหญ่คนนี้จะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น

ฉินสือโอวขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังริมแม่น้ำที่ตำแหน่งเรืออับปางนั้นอยู่ น้ำบริเวณตรงนี้ได้ผสมกับดินเลนจึงกลายเป็นสีเทาดำ ปกติแล้วจะมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยขึ้นมาในอากาศ ก่อนหน้านี้ผู้หญิงที่ซักผ้าบริเวณตรงนี้จะต้องสำลักกับกลิ่นเหม็นเน่าและเดินจากไป

เช่นนี้ก็เป็นโอกาสดีที่จะไม่มีคนมารบกวน เขาใช้จิตสำนึกของโพไซดอนนำหีบไม้นั้นขึ้นมาบนฝั่ง และเอาก้อนอิฐสีดำขึ้นมาด้วยหนึ่งก้อน จากนั้นจึงขี่มอเตอร์ไซไฟฟ้ากลับบ้านไป

หีบไม้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาดความยาวประมาณยี่สิบเซนติเมตร ความกว้างและความสูงมีขนาดประมาณสิบเซนติเมตร วัสดุเป็นเหมือนประเภทไม้บุนนาคซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง เมื่ออยู่ในมือจึงมีน้ำหนักที่หนักมาก คิดไม่ถึงว่าแช่อยู่ในดินเลนนานหลายปีขนาดนี้แต่หีบก็ยังคงมีสีที่ดำและมันขลับ หลังจากที่เช็ดจนแห้งแล้ว เมื่อแสงอาทิตย์ส่องมาที่ด้านบนจึงมีความเงาเป็นประกายบางเบา

หีบไม้สีดำได้ถูกแม่กุญแจล็อกไว้ แต่บนตัวโครงกระดูกไม่มีลูกกุญแจติดอยู่ ดังนั้นถ้าอยากเปิดหีบก็คงทำได้แค่เพียงทุบทำลาย

ฉืนสือโอวไม่อยากทำเช่นนั้น เขาจึงเอาหีบไม้วางไว้กลางน้ำ จากนั้นก็ใช้จิตสำนึกโพไซดอนเข้าไปในรูของแม่กุญแจ ด้านในนั้นวุ่นวายยุ่งเหยิง และไม่นานก็มีเสียง กร๊อบ ดังออกมาพร้อมกับแม่กุญแจของหีบก็เปิดออก

เมื่อเปิดหีบออกก็พบว่าด้านในเป็นกระดาษน้ำมันวางซ้อนกันเป็นชั้นๆ

คุณภาพวัสดุของกระดาษน้ำมันเหล่านี้อาจจะไม่ทนทานเท่าหีบไม้ หลังจากที่ออกมาเจออากาศจึงรวมตัวกับออกซิเจนอย่างรวดเร็ว เมื่อฉินสือโอวเอามือไปแตะโดนมันก็แปรสภาพเป็นละอองฝุ่นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ปรากฏหินทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีส้มมันวาวออกมา โดยมีความกว้าง ยาว สูงประมาณเจ็ดแปดเซนติเมตร

หินก้อนนี้เหมือนกับน้ำผึ้งที่แข็งตัวแล้วไม่มีผิด ลักษณะภายนอกของมันดูดีมาก มีความอ่อนโยนและความแวววาวของแสงสีส้ม เมื่อเห็นก็รู้ว่าไม่ใช่ของธรรมดา

ฉินสือโอวหยิบหินก้อนนี้ขึ้นมาแล้วก็พบว่าด้านบนได้เขียนตัวอักษรไว้มากมาย ด้านหน้าสุดได้เขียนอักษรจีนโบราณไว้สองแถว รวมเป็นทั้งหมดแปดตัว ด้านตรงข้ามสี่ตัว ทั้งหมดสี่ด้าน แต่ละด้านล้วนมีเจ็ดตัว เสียดายที่เขาศึกษาอักษรจีนโบราณไม่มากพอ จึงดูออกแค่ว่าเป็นอักษรจีนโบราณ แต่ไม่รู้ว่าอักษรพวกนี้หมายความว่าอย่างไร

ถือเล่นในมืออยู่ครู่หนึ่งฉินสือโอวก็ได้วางหินก้อนนี้ลง เขาเอาฝุ่นละอองของกระดาษที่อยู่ในหีบเทออกมา จากนั้นก็พบว่าด้านในไม่มีของอะไรแล้ว ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ดึงดูดจิตสำนึกโพไซดอนคืออะไร?

เขาเอาหินวางลงในน้ำและปล่อยให้จิตสำนึกโพไซดอนออกมา พบว่าระหว่างทั้งสองสิ่งไม่มีแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน จากนั้นเขาก็เอาหีบวางลงไปและจิตสำนึกโพไซดอนก็แผ่คลุมขึ้นไปบนหีบทันทีทันใด มันดูดซับพลังที่แฝงอยู่ในนั้นอย่างบ้าคลั่ง เหมือนกับปลาวาฬที่กินน้ำ

มันเหมือนกับคนที่กระหายมากๆแล้วได้ดื่มน้ำในลำธารที่เย็นฉ่ำและหวานอร่อยอย่างกะทันหัน ฉินสือโอวดูดรับเอาพลังงานจากในหีบแล้ว คาดไม่ถึงว่าในชั่วขณะนั้นก็ได้มีความรู้สึกที่ล่องลอยเหมือนกับเทพในตำนาน เส้นประสาททุกเส้นก็ลุกพรือขึ้นมา ความรู้สึกสดชื่นที่ได้รับมากกว่าวินาทีที่สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองในครั้งสุดท้ายเสียอีก

ไม่รู้ว่าได้รับความรู้สึกสดชื่นอยู่นานขนาดไหน หลังจากที่จิตสำนึกของฉินสือโอวกลับคืนสู่สภาพเดิม เขารู้สึกแต่เพียงว่าหัวใจและจิตวิญญาณของเขานั้นสดชื่น จิตสำนึกโพไซดอนก็เหมือนกับแข็งแกร่งมากขึ้นด้วย

ไม่รู้ว่าหีบไม้สีดำหีบนั้นได้ถูกแช่อยู่ใต้ดินเลนมาแล้วกี่ปีแต่ก็ยังไม่เน่าเปื่อยผุพัง ในตอนนี้ได้กลายมาเป็นผงไม้ที่ร่วงกระจายลงในน้ำ เหมือนกับจุดจบของรูปแกะสลักไม้แอปเปิลอำพันทองในตอนแรกไม่มีผิด

ฉินสือโอวรับรู้ขึ้นมาทันทีว่า วัสดุของหีบไม้นี้และรูปแกะสลักไม้แอปเปิลอำพันทองน่าจะเป็นชนิดเดียวกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าวัสดุที่เป็นลักษณะเฉพาะนั้นคืออะไร คิดไม่ถึงว่าจะใช้ได้ผลกับหัวใจโพไซดอนได้อย่างมหัศจรรย์ ถ้าหากครั้งหน้าได้พบเจอสิ่งของประเภทนี้อีก จะต้องไม่ดูดรับพลังโดยตรง จำเป็นต้องศึกษาวิจัยวัสดุก่อน

ในเมื่อไม่มีหีบแล้ว ฉินสือโอวจึงเอาหินสีส้มใส่เข้าไปในกล่องเค้กที่หามาได้ เขาไม่รู้ว่าของสิ่งนี้คืออะไร แต่ว่าจากสัญชาตญาณแล้วมีความรู้สึกว่าน่าจะเป็นของมีค่า เพราะว่าลักษณะภายนอกของมันช่างดีเลิศเหลือเกิน

เช่นนี้สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือชิ้นโลหะสีเทาน้ำตาลที่ได้เก็บขึ้นมาพร้อมกัน มันมีความยาวสิบเซนติเมตร ความกว้างและความหนาประมาณสี่ห้าเซนติเมตร ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหินก้อนเล็กๆ บริเวณขอบไม่ค่อยเสมอกัน ด้านหน้ามีอักษรจีนเขียนไว้สี่ตัวซึ่งอักษรทั้งสี่ตัวนี้สินสือโอวอ่านแล้วเข้าใจ โดยอักษรได้เขียนไว้ว่า ‘บัลลังก์เทียนชุ้น’

ของสิ่งนี้ดูแล้วไม่ใหญ่แต่เมื่ออยู่ในมือกลับมีน้ำหนักที่หนักมาก ก้อนขนาดเท่ากับฝ่ามือขนาดนี้ฉินสือโอวจึงเอาไปชั่งดูสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะมีน้ำหนักถึงสี่ร้อยกรัม

‘ของสิ่งนี้ทำมาจากวัสดุอะไรเนี่ย?’ ฉินสือโอวขมวดคิ้วและครุ่นคิด ทองเงิน? ทองแดงเหล็ก? ทั้งหมดนี้ต่างก็ดูไม่เหมือน เขายังไม่เคยเห็นโลหะสีเทาน้ำตาลแบบนี้เลย ถ้าหากว่าเป็นเหล็กที่ขึ้นสนิม สีก็จะไม่ออกมาเป็นเช่นนี้

เมื่อคิดไม่ออกก็ไม่คิดแล้ว ยังไงจิตสำนึกโพไซดอนก็ได้รับความแข็งแกร่งขึ้น ฉินสือโอวได้รับมามากพอแล้ว เขาเอาก้อนโลหะวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นจิตสำนึกโพไซดอนก็ข้ามผ่านสิ่งกีดขวางในอากาศอย่างรวดเร็วและเข้าไปที่ทะเลของฟาร์มปลา

นี่เป็นความสามารถอีกอย่างหนึ่งของจิตสำนึกโพไซดอน มันมีความคล้ายกับความคิดเล็กน้อย สามารถไปได้ทุกที่ในชั่วพริบตาเดียว ขอเพียงแค่ที่แห่งนั้นมีน้ำและเป็นที่ที่หัวใจโพไซดอนเคยไปมาก่อนหน้านี้และได้บุกเบิกอาณาเขตของโพไซดอนออกสู่ทะเล

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าลูกปลาค็อดอยู่ในฟาร์มปลาอย่างคุ้นเคย ก่อนหน้านี้เมื่อหัวใจโพไซดอนลงไปในทะเล พบเจอฝูงปลาได้อย่างยากลำบากมาก ในตอนนี้เพียงแค่เดินไปสามก้าวก็จะสามารถพบเห็นปลาและห้าก้าวก็จะสามารถพบเห็นฝูงปลาได้ ทั้งฟาร์มปลาจึงเป็นภาพที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยพลัง

ก่อนหน้านี้ที่ฉินสือโอวกำลังจะออกมาเขาได้มอบหมายงานในฟาร์มปลาให้กับชาร์ค ชาร์คพึ่งซื้อลูกปลาหมึกกระดองและปลาหมึกกล้วยมาล็อตหนึ่ง ในตอนนี้ก็เป็นเวลาหัวค่ำ ชาร์คได้สั่งให้เรือขนส่งเปิดห้องชั้นล่างสุดในเรือ จากนั้นก็เอาลูกปลาหมึกกล้วยจำนวนมากดั่งเม็ดฝนย้ายลงไปในก้นทะเล

ปลาหมึกกระดองและปลาหมึกกล้วยเป็นสัตว์ในทะเลที่มีความสำคัญต่อห่วงโซ่อาหาร หน้าที่สำคัญของพวกมันคือการแบกรับเลี้ยงดูปลาค็อด

ปลาค็อดเป็นปลาที่กินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร พวกมันกินปลาชนิดอื่นและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเป็นอาหาร เมื่อกินมากตัวของมันก็จะโตเร็วมากเช่นกัน หากพวกมันได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ประมาณสิบปีปลาค็อดก็จะสามารถตัวใหญ่ได้ถึงหนึ่งเมตร และภายใต้การเพาะเลี้ยงปลาค็อดที่ให้มันได้กินอาหารอย่างเต็มอิ่มแบบนี้ ในสองปีก็สามารถเติบโตได้ถึงหนึ่งเมตรแล้ว

หลังจากที่ร่วงลงไปในน้ำ ปลาหมึกกระดองและปลาหมึกกล้วยต่างก็ตื่นกลัวมาก ร่างกายของพวกมันฉวัดเฉวียนอย่างอ่อนแอและลงไปที่ก้นทะเลอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มุดเข้าไปในซอกพื้นที่ว่างของหินโสโครกหรือขยะใต้น้ำ

ถึงอย่างไรลูกปลาค็อดก็ยังเล็ก ตอนนี้พวกมันกินอาหารสัตว์และแพลงก์ตอนเป็นอาหาร อาหารอย่างปลาหมึกกระดองและปลาหมึกกล้วยก็ยังคงกินไม่ได้

แต่ว่าในฝูงปลาเทราต์สายรุ้งจำนวนมากที่หนักประมาณสามสี่กิโลกรัม พวกมันเป็นปลาที่กินอาหารทุกชนิด เมื่อเห็นปลาหมึกกล้วยที่อ่อนนุ่มแสนเอร็ดอร่อย มันจึงพุ่งออกมาจากหินปะการังอย่างรวดเร็ว พอเจอกับปลาหมึกน้อย ปากอันใหญ่โตของพวกมันก็ได้กลืนกินลูกปลาหมึกเข้าไป

เดิมทีลูกปลาค็อดรู้สึกแปลกประหลาดใจกับปลาเทราต์สายรุ้งมาก พวกมันพากันรุมล้อมขึ้นมาดูเจ้าตัวใหญ่ที่รูปร่างภายนอกไม่เหมือนกับตัวเอง สุดท้ายเมื่อเห็นปลาเทราต์สายรุ้งมีวิธีล่าสัตว์อย่างโหดร้าย มันจึงตกใจกลัวจนพากันว่ายหนีไป

วาฬขาวน้อยฉิวฉิวก็เที่ยวเล่นอย่างเบิกบานใจอยู่ด้านนอก แต่ว่าอาหารที่มันกินไม่ใช่สัตว์ทะเลจำพวกปลาหมึกกล้วย เป้าหมายของมันคือลูกปลาค็อด และยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากลูกปลาเทราต์สายรุ้งเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในหินปะการังไม่ทัน มันก็จะกลืนกินลงไปด้วยกัน

ฉิวฉิวล่าเหยื่อเป็นอาหารโดยไม่ต้องไล่จับ มันเอาปากอันใหญ่ดูดน้ำทะเลและปลาเล็กปลาน้อยที่อยู่ข้างกายเข้ามาในปากพร้อมกัน จากนั้นก็พ่นน้ำทะเลออกมา ส่วนสาหร่ายทะเลและปลาเล็กปลาน้อยก็ลงไปที่ท้องของมันทั้งหมด

หลายวันแล้วที่ไม่ได้เจอ ฉิวฉิวดูเหมือนค่อนข้างโตขึ้นแล้ว เดิมทีลำตัวมีความยาวเพียงประมาณเมตรครึ่ง ตอนนี้ตัวยาวเกือบจะถึงสองเมตรแล้ว ผิวด้านนอกก็ขาวเกลี้ยงเป็นมันมากขึ้น เมื่อขยับตัวว่ายอยู่ในน้ำ เงาร่างมีความองอาจมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่จิตสำนึกโพไซดอนดูดรับพลังงานจากในกล่องแล้วจึงมีความแข็งแกร่งมากขึ้น สามารถโยกย้ายได้หลายสิบเมตร ฉินสือโอวโบกมือเพียงครั้งเดียวพลังงานโพไซดอนก็สามารถมีผลกระทบต่อน้ำมากกว่าหนึ่งร้อยลูกบาศก์เมตร

เมื่อเห็นฉิวฉิว จิตสำนึกของโพไซดอนก็ได้เกาะติดขึ้นไป วาฬขาวน้อยก็รับรู้ได้อย่างทันที มันจึงส่ายหัวแกว่งหางว่ายน้ำไปรอบๆอย่างเบิกบานใจ

ฉินสือโอวสั่งให้จิตสำนึกของโพไซดอนไปสำรวจดูที่ก้นทะเล ฉิวฉิวได้ติดตามไปซ้ายขวาอย่างใกล้ชิดและมักจะพ่นน้ำออกมาด้วยเสียง ตูมตูม อย่างเบิกบานใจ เลียนแบบการขับเคลื่อนของเจ็ทสกี

เห็นร่างเงาของวาฬขาวตัวน้อย ลูกเรือที่อยู่บนเรือขนส่งสินค้าก็ร้องออกมา “พระเจ้า วาฬขาว รีบดูเร็ว คิดไม่ถึงว่าตรงนี้จะมีวาฬขาว!”

ชาร์คกล่าวเตือนคนพวกนั้น “เฮ้เพื่อนทั้งหลาย ถ้าพวกนายแค่ดูกันอย่างเงียบๆ ยังงั้นฉันก็ยินดีมาก แต่ถ้าพวกนายจะทำอะไรเจ้านั่น ฉันกล้าพนันได้เลยว่า ชีวิตที่เหลือของพวกนายจะนั่งเรือไม่ได้อีกเลย”

‘ความหมายของเขาก็คือชีวิตที่เหลือของพวกนายจะสามารถทำได้เพียงแค่ใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น’ รอยสักรูปเทวดาและปีศาจที่อยู่บนไหล่ขวาของนีลเซ็นซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยจู่โจมของกองกำลังพิเศษฉุกเฉินแคนาดาอธิบายออกมาด้วยรอยยิ้ม

ตอนนี้ฟาร์มปลาพัฒนาไปอย่างมีระเบียบขั้นตอน ชาร์คและเรคต่างก็มีความซื่อสัตย์ในหน้าที่ ฉินสือโอวจึงไม่มีอะไรต้องคอยจับตาดู อีกทั้งยังให้พลังควบคุมสัตว์ทะเลแก่หินปะการังแล้วบ้างเล็กน้อย เขาจึงเอาจิตสำนึกกลับมาที่ร่างกายและในขณะนั้นพ่อแม่เขาก็ได้กลับมาพอดี

คุณพ่อฉินเดินไปที่หน้าโต๊ะเพื่อที่จะดื่มน้ำ สายตาเหลือบไปเห็นโลหะสีเทาน้ำตาลที่ฉินสือได้วางทิ้งไว้บนโต๊ะ เขาจึงตกใจอย่างมากขึ้นมาทันที และพูดออกมา “เอ๋ ของนี่มาจากไหน?”

ฉินสือโอวเอ่ยถามขึ้น “ผมเก็บได้ ทำไมเหรอ? มันคืออะไร”

ใบหน้าอันคล้ำของคุณพ่อฉินก็ได้ถูกกระตุ้นจนเป็นสีแดงก่ำ เขาพูดอย่างตื่นเต้นขึ้นว่า “มันคืออะไร มันก็คือของดีน่ะสิ……”

...........................................................................