ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

บทที่ 53 ฟอสซิล

จำนวนคนที่มายิงปลามีมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนในเมืองต่างเรียกเพื่อนมาร่วมวงด้วย พอถึงตอนบ่ายเมื่ออากาศเริ่มอบอุ่นแล้ว มีคนถึงร้อยคนมารวมตัวกันที่ทะเลสาบเฉินเป่าเลยทีเดียว

มองไปเป็นภาพที่ดูยิ่งใหญ่อลังการมาก ฉินสือโอวยังสังเกตเห็นมีคนทำปืนยิงปลามาเองด้วย เขาเอามันพาดไว้ที่เรือหาปลาลำเล็ก เพราะนั่นเป็นการแสดงออกถึงความน่าเกรงขาม

ปืนแทงปลาแบบนี้ถึงว่าจะมีชื่อว่า‘ปืน’แต่ความจริงแล้วเรียกว่า ‘หน้าไม้’ น่าจะเหมาะกว่า สภาพโดยรวมดูค่อนข้างเรียบง่าย เพราะทำจากของเหลือใช้ ไม้ที่ใช้ทำลำกล้องก็ทำมาจากไม้ทำเรือ จากนั้นจึงค่อยต่อกลไกลการยิงเข้าไป

และหลังจากนั้นก็ใช้กาวอีพอกซีกับแร่แกรไฟต์หล่อที่ล็อกสายและไกขึ้นมา จากนั้นค่อยใช้ลูกธนูเหล็กวางบนนั้นทีและแท่ง เล็งไปยังจุดที่มีปลากระโดดขึ้นมา เมื่อเหนี่ยวไกปืนก็จะมีลูกธนูเป็นชุดยิง ‘ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว’ออกไป

“ว้าว เป็นคนหนุ่มที่ดุดันน่าเกรงขามจริงๆ!” ฉินสือโอวโบกมือชื่นชมชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยิงธนูคนนั้น

ชายร่างใหญ่หัวเราะฮาฮาพูดว่า “ขอบคุณที่ชม เพื่อนฝูง แต่ว่าปืนคันนี้คงสู้ธนูยิงปลาของคุณไม่ได้หรอก ถ้าหากคุณชอบ ให้ชาร์คไปเอาที่บ้านได้เลยนะครับ ผมทำไว้หลายอัน ตอนนี้โยนทิ้งไว้ในที่เก็บของหมดแล้ว”

ชาร์คที่ถือธนูยาวอังกฤษทำเองที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวถึงหนึ่งเมตรแปดสิบเซนติเมตร พอได้ยินบทสนทนาของทั้งสอง ก็รีบตะโกนทักทายชายร่างใหญ่ว่า “ซีมอนสเตอร์ สบายดีหรือเปล่า? ได้ข่าวว่านายเตรียมจะไปทำงานที่เซนต์จอห์นแล้วใช่ไหม?”

ฉินสือโอวนึกขึ้นได้ว่าชายร่างใหญ่คนนี้ก็คือชาวประมงที่เขากับชาร์คเจอตอนออกหาปลาด้วยกันครั้งแรกนั่นเอง เรือหาปลาของเขารู้สึกจะชื่อว่า ’ปีศาจนอร์เวย์’ ช่างเป็นชื่อที่ประหลาดเสียจริง

“เตรียมจะไปแล้วล่ะ ไม่มีปลาให้หาอีกแล้ว ไม่ไปทำงานจะให้ทำอะไรได้อีกล่ะ?” ชายร่างใหญ่พูดพลางค่อยๆขับเรือเข้ามาใกล้ฉินสือโอว แล้วเริ่มแนะนำตัวเอง “ผมชื่อคราเคน อัลเฟรด แต่ปกติคนจะชอบเรียกผมว่าซีมอนสเตอร์ ฮ่าฮ่าฮ่า”

ฉินสือโอวถึงบางอ้อทันที ชื่อคราเคนคงจะเป็นชื่อเดียวกับปีศาจแห่งทะเลนอร์เวย์ในตำนานอย่างแน่นอน มองไปแล้วชายร่างใหญ่คนนี้ก็มีส่วนคล้ายปีศาจทะเลอยู่เหมือนกัน ส่วนสูงเจ็ดฟุตรอบเอวก็ขนาดเจ็ดฟุต เพราะออกทะเลตากแดดบ่อย สีผิวจึงเปลี่ยนเป็นสีแทนเข้ม บนหัวอันใหญ่โตนั้นก็เยิ้มไปด้วยหนวดเครา ส่วนเคราตรงใต้คางนั้นก็ยาวจนถักเป็นเปียเล็กๆได้ บุคลิกดุดันโหดร้ายทีเดียว

ทั้งสองฝ่ายจับมือทำความรู้จักกัน ชาร์คพูดว่า “ซีมอนสเตอร์ วันนี้เรามาแข่งกัน ดูกันว่าปืนยิงปลาของนายเร็วกว่าหรือจะเป็นธนูยาวของฉันที่เจ๋งกว่า ว่าไง?”

“ยินดีอย่างมาก สหาย!” ซีมอนสเตอร์พูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง

นีลเซ็นสะบัดธนูรีเคิร์ฟในมือไปมา แล้วพูดพร้อมรอยยิ้มเนือยๆว่า “ฉันเอาด้วยคน”

ฉินสือโอวพูดว่า “รวมฉันด้วยคน”

“คุณแน่ใจนะ?” ซีมอนสเตอร์มองไปที่เทพเจ้าสายฟ้ามืด เจ้าเจ็ทสกีที่มีปลาซ่งรูปร่างประหลาดห้อยอยู่แล้วพูดพลางหัวเราะไปด้วย

ฉินสือโอวเหมือนโอลิเวอร์ ควีนในซีรีส์เรื่อง ‘แอร์โรว์’ เขาสะบัดแขนยกธนูยิงปลาขึ้นมา มือข้างซ้ายตั้งตรง มือขวาวางลูกธนูบนไกอย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อหลังปูดตูมออกมาให้เห็น จากนั้น ‘ฟิ้ว’ ลูกธนูก็พุ่งออกไปเร็วราวกับสายฟ้า

เมื่อปล่อยนิ้ว ลูกธนูบินออกไป พอดีกับปลาเฉาฮื้อตัวหนึ่งกำลังกระโดดขึ้นมาผิวน้ำตรงด้านหลังเรือของซีมอนสเตอร์ ขณะที่ทุกคนกำลังจ้องกันตาเป็นมัน ลูกธนูก็ได้แทงทะลุตัวปลาตกลงไปในน้ำแล้ว

วินนี่ดึงสายลากปลากลับมา ชูปลาเฉาฮื้อขึ้นมองหน้าซีมอนสเตอร์แล้วพูดกึ่งหัวเราะว่า “ตัวที่สองแล้วนะ”

“งั้นมาเริ่มกันเถอะ!” ซีมอนสเตอร์ตะโกนออกมาพร้อมตบที่หัวเรือเบาๆ

‘บรื้นบรื้น……’ เสียงเจ้าเทพสายฟ้ามืดดังขึ้นแล้วขับออกไป เรือของชาร์คและนีลเซ็นก็พายออกไปยังจุดต่างๆ

พื้นที่ของทะเลสาบเฉินเป่านั้นกว้างใหญ่มาก มีขนาดพื้นที่มีถึงสองพันกว่าเอเคอร์เลยทีเดียว แม้กระทั่งคลื่นสัญญาณไมโครเวฟก็อาจจะปล่อยคลื่นออกไปได้ไม่ถึงหนึ่งในสี่ของพื้นที่ทั้งหมดด้วยซ้ำ ดังนั้นถึงแม้ว่าทุกคนจะแยกย้ายกันออกไป ก็ยังมีปลาให้ล่าอย่างแน่นอน

ผลปรากฏชัดเจน ว่าฉินสือโอวมีพรสวรรค์ในการใช้ธนูเป็นอย่างมาก จิตสำนึกเทพเจ้าแห่งท้องทะเลทำให้เขามีสัมผัสที่เฉียบคม ประสาทสัมผัสที่ไวขึ้น เรี่ยวแรงที่มากขึ้น และดุดันมากขึ้น เมื่อรวมทั้งหมดไว้ด้วยกัน ทำให้เขาคุ้นเคยกับธนูได้เร็วขึ้นและบังคับได้เหมือนกับเป็นแขนอีกข้างของเขาเลย

ยิ่งกว่านั้นแล้ว เขายังสามารถโกงได้ด้วย เมื่อจิตสำนึกเทพพระเจ้าแห่งท้องทะเลดำลงไปในท้องทะเลแล้ว ทำให้เขารับรู้ได้ว่าจุดไหนที่ปลากำลังจะกระโดดขึ้นมา เขาเพียงแค่เล็งไว้ล่วงหน้าแค่นั้นก็พอแล้ว

ปลาตัวใหญ่หลายตัวที่ตกใจแล้วกระโดดขึ้นจากผิวน้ำ ฉินสือโอวเหมือนดั่งเทพเจ้าธนูเข้าร่าง ‘ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว’ ลูกธนูหลายดอกพุ่งออกไป ยิงโดนปลาตัวอ้วนหลายตัวตกลงไปในน้ำ

ภาพฉากนี้ทำให้เขากลายเป็นคนเด่นขึ้นมาทันที คนยิงปลารอบๆต่างพากันโห่ร้องปรบมือ ฉินสือโอวสะบัดคันธนูทำท่าคำนับเพื่อแสดงความขอบคุณ ส่งผลให้เสียงโห่ร้องยิ่งดังมากขึ้น

วินนี่มัววุ่นอยู่กับการดึงเชือกที่ติดกับลูกธนูเพื่อลากปลากลับมา เพราะฉินสือโอวทำให้จำนวนปลารอบเทพเจ้าสายฟ้ามืดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เจ็ทสกีขับมุ่งไปชายฝั่งทางเหนือ จิตสำนึกเทพเจ้ายังคงควบคุมพื้นที่รอบๆ ทันใดนั้น ฉินสือโอวเหมือนมองเห็นสิ่งแปลกปลอมออกมาจากใต้ทะเลสาบ เขาเกิดความรู้สึกสนใจจึงรีบตรงไปสำรวจดู

เนื่องจากก่อนหน้านี้หลังได้รับรูปปั้น ภาพวาดและตราประทับเจี๋ยอันมานั้น ทำให้ฉินสือโอวค่อนข้างอ่อนไหวต่อสิ่งมีค่าใต้ท้องทะเล ขอเพียงใต้ทะเลมีสิ่งของรูปร่างแปลกๆโผล่มา เขาก็จะรับรู้ได้ทันที

คลื่นไมโครเวฟรบกวนทำให้ปลาคาร์ฟในทะเลสาบพากันตกใจจนว่ายไปรอบด้าน บางตัวตกใจจนขนาดว่าไม่เลือกที่ที่หลบ มุดเข้าไปหลบอยู่ในตะกอนดินทรายใต้ท้องทะเลสาบก็มี เมื่อตะกอนดินทรายถูกขุดไปมา ก็ทำให้มีสิ่งแปลกปลอมต่างๆโผล่ออกมา

สิ่งที่ดึงความสนใจของฉินสือโอวคือหินผิวขรุขระสีเหลืองหม่นขนาดประมาณเจ็ดถึงแปดเซนติเมตร หินพวกนี้มีรูปร่างที่แลดูเฉียบคม ค่อนข้างเหมือนมีดโค้ง ภายนอกดูเหมือนขรุขระ ปกคลุมไปด้วยตะกอนดินทราย หลังจิตสำนึกเทพเจ้าแห่งท้องทะเลพัดน้ำทะเลชะล้างคราบต่างๆออกแล้ว รูปร่างที่แท้จริงของมีดก็ประจักออกมา

ความรู้สึกแรกของฉินสือโอว ก็คือนี่คือฟอสซิลฟันของสัตว์ชนิดหนึ่ง ไม่ว่าดูยังไงก็เหมือน พอดีกับที่ข้างๆมีปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่ว่ายผ่านมาก เขาจึงใช้จิตสำนึกเทพแห่งท้องทะเลบังคับให้ปลาเฉาฮื้อตัวนี้กลืนหินหกก้อนที่รูปร่างคล้ายมีดโค้งนี้เข้าไป กระโดดขึ้นผิวน้ำ จากนั้นจึงยิงตัวปลาแล้วลากกลับมา

วินนี่กำลังที่กำลังทุ่มสุดกำลังในการลากปลาเฉาฮื้อขึ้นมา พอดึงลูกธนูออก ก็เห็นฟอสซิลรูปร่างขรุขระที่มันเพิ่งกลืนลงไป จึงพูดอย่างตกใจว่า “เฮ้ ฉิน มาดูเร็ว นี่คืออะไร?”

ฉินสือโอวทำทีว่าเพิ่งเคยเห็น หยิบหินรูปร่างขรุขระขึ้นมา ทายว่า “มีส่วนคล้ายฟอสซิลนะ คุณว่ายังไง?”

วินนี่พยักหน้า แล้วพูดว่า “ฉันก็ว่างั้นเหมือนกัน”

เธอใช้น้ำล้างทำความสะอาดหินเหล่านี้ เมื่อล้างน้ำแล้วเส้นขอบหินเหล่านี้ยิ่งดูเรียบเนียนขึ้นไปอีก

นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นฟอสซิล ฉินสือโอวรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก จึงเก็บคันธนูแล้วเริ่มวิเคราะห์กับวินนี่ เนื่องจากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทั้งคู่ ทั้งสองคนถกกันอยู่พักหนึ่งก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่านี่คือฟอสซิลฟันของสัตว์ประเภทไหน

ซีมอนสเตอร์ที่สังเกตเห็นว่าฉินสือโอวหยุดยิงปลาแล้ว จึงถามเสียงสูงว่า “นี่เพื่อน ทำไมถึงหยุดแล้วล่ะ พวกคุณตอนนี้เหมือนจะยังรั้งท้ายอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

ฉินสือโอวขับเจ็ทสกีเข้าไปหากลุ่มคนแถวๆนั้น แล้วนำหินฟอสซิลฟันยื่นให้พวกเขาดู พร้อมถามว่า “นี่คือของที่ฉันเจอในท้องของปลาตัวหนึ่ง พวกนายลองดูสิ เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อนหรือเปล่า?”

ซีมอนสเตอร์และชาร์คดูอย่างตั้งใจ จากนั้นก็มองหน้ากัน แล้วถามขึ้นว่า “นี่มันคือฟอสซิลฟันของฉลามปลาทูไม่ใช่เหรอ? ดูไปก็คล้ายเหมือนกันนะ”

ชาร์คอธิบายให้ฉินสือโอวฟังว่า “แต่ก่อน ประมาณสิบกว่าปีที่แล้วได้ มีปีหนึ่งที่แล้งมาก น้ำในทะเลสาบเฉินเป่าลดลงอย่างมาก มีคนเคยเห็นเจ้าสิ่งนี้ตอนกำลังทำความสะอาดลำน้ำอยู่ ตอนนั้นมีศาสตราจารย์สาขาประวัติศาสตร์หลายคนจากมหาวิทยาลัยโทรอนโตมาดุแล้ว เห็นว่าเป็นฟอสซิลฟันของฉลามปลาทูสายพันธุ์ Cretoxyrhina แต่ต่อมาก็ไม่เคยพบเจออีกเลย ทำให้เรื่องนี้ค่อยๆเงียบหายไป”

ฉินสือโอวรู้ ว่าซากหลงเหลือของฟอสซิลนั้นนอกจากควรค่าแก่การวิเคราะห์แล้วก็ไม่มีค่าอะไร ทำเงินก็ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจ พูดว่า “พวกนาย ใครชอบก็เอาไปได้เลย ฉันเก็บไว้อันหนึ่งก็พอ”

วินนี่ที่ถือคันธนูอยู่พูดขึ้นว่า “อย่างนั้นเราเอาไปให้กับท่านนายกเทศบาลแฮมเล็ตดีไหม รู้สึกเขาจะเคยทำงานอยู่ที่กรมทรัพยากรธรณีแห่งชาติอยู่พักหนึ่งด้วย”

สองชั่วโมงกว่าแล้วกับการเล่นยิงปลากันในทะเลสาบเฉินเป่า ก็ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ฉินสือโอวเตรียมจะขับเจ็ทสกีกลับ แต่ก็ไม่ลืมเอาหินฟอสซิลฟันห้าชิ้นไปให้กับแฮมเล็ตก่อนกลับด้วย

ฉินสือโอวนำปลาที่ยิงมาได้ใส่ไว้บนรถกระบะพิคอัปฟอร์ด F150ของชาร์ค ชาร์คถามขึ้นว่า “หาที่ที่หนึ่งฝังพวกมันเถอะ ดีไหมครับ?”

“ไม่ เอากลับไปด้วย เดี๋ยวฉันจะทำเมนูสารพัดปลาให้เอง เชื่อฉันสิ รสชาติเยี่ยมแน่นอน” ฉินสือโอวพูด

ชาร์คเบิกตาโตพูดว่า “คุณหมายถึงว่าจะกินพวกมันเหรอครับ? ไม่ๆ บอส ปลาพวกนี้ไม่อร่อยเอามากๆนะครับ ถ้าอยากกินจริงๆ พวกเราต้องไปตกในทะเล มีปลาค็อด ปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะ ปลาพวกนั้นอร่อยกว่ามากครับ”

ฉินสือโอวพาวินนี่ขึ้นรถคาลดิลแลควัน หัวเราะพลางพูดว่า “เชื่อฉันสิ ปลาพวกนี้อร่อยแน่นอน”

เขากลับจากบ้านมาคราวนี้ซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารประเภทปลามาด้วย เพื่อที่จะเอามาทำอาหารปลาน้ำจืดพวกนี้นั่นเอง ก่อนหน้านี้เขาเคยมองหาในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว แต่พบว่าทั่วทั้งเกาะแฟร์เวลกลับไม่มีวัตถุดิบพวกนี้ขายเลย

เขาขับรถ ไปร้านซูเปอร์มาร์เก็ตวอลมาร์ตในเมือง เพราะมีของที่ต้องซื้ออีกเยอะ เช่นมะแข่น พริกแห้ง โป๊ยกั๊ก เมล็ดยี่หร่า ขิง หอมใหญ่ กระเทียมเป็นต้น ยังมีซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว กับน้ำมันหอย เขากะว่าจะซื้อให้ครบในทีเดียว

…………………………………